ตร.หนุ่มเล่าประสบการณ์สู้กับ 'มะเร็งปอด' ชี้ใกล้ตัวกว่าที่คิด แม้ดูแลตัวเองดี แนะตั้งสติ-ใช้ใจสู้

วานนี้ (11 พ.ย.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ 'รุ่งคุณ จันทโชติ' ซึ่งมีอาชีพเป็นข้าราชการตำรวจ โพสต์เล่าเรื่องราวชีวิต หลังจากตัวเองป่วยด้วยโรคมะเร็งปอด โดยระบุว่า “ตนเองมีอาชีพเป็นตำรวจ ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย เป็นเรื่องธรรมดา แต่ตนเองชอบออกกำลังกาย ถึงขั้นเสพติด  ส่วนเรื่องดื่มเหล้าสังสรรค์มีบ้างตามประสาวัยรุ่น แต่ไม่สูบบุหรี่ และที่บ้านก็ไม่มีใครสูบ

และเมื่อช่วงสงกรานต์ ปี 65 อยู่ๆ ปวดแขนขวา แข็งๆ ตึงๆ งอลำบาก สีเริ่มเปลี่ยน จึงไปหาหมอมาหลายที่ แต่ก็ให้แต่ยาแก้อักเสบมาทาน ซึ่งอาการไม่ดีขึ้น 3 วันต่อมา เริ่มมีอาการบวมๆ ที่คอ จึงไปหาหมอ รพ.ตำรวจ และได้แอดมิด และสั่งจ่ายยาแก้อักเสบ 6 วัน อาการก็ยังไม่ดีขึ้น หมอเลยเจาะชิ้นเนื้อที่คอไปตรวจ ผ่านไป  1 สัปดาห์ ผลออกพบว่าเป็นมะเร็งปอด ระยะลุกลามไปต่อมน้ำเหลือง ซึ่งตอนนั้นยอมรับว่าช็อก แต่ก็ตั้งสติดีมาก ไม่ท้อเลย คิดหาทางแก้ไขอย่างด่วน

ขั้นตอนการรักษาคือ คีโม (เคมีบำบัด) และ ฉายรังสี (ฉายแสง) บริเวณทรวงอก ขั้นตอนเหล่านี้ตนไม่สามารถอธิบายความทรมานออกมาเป็นคำพูดได้ เพราะกินไม่ได้ นอนไม่หลับ แสบหลอดอาหาร ตื่นทุกชั่วโมง ต้องนอนคว่ำเท่านั้น แต่ตนก็อดทน เพราะเชื่อว่ามันต้องหาย

โดยหลังจากฉายแสง เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย ผมเริ่มร่วง ตนจึงตัดสินใจโกนผมออก เพราะมันร่วงเป็นหย่อมๆ ระยะเวลาการฉายแสง กว่าจะครบคอร์ส คือ 33 ครั้ง โดยอาการต่อมาคือผิวหนังที่คอเริ่มไหม้ แต่หลังจากฉายแสงครบคอร์ แผลเริ่มลอกเป็นสะเก็ด

หลังจากนั้น ตนก็พยายามคิดบวก ไม่หมกอยู่แต่ในห้อง พยายามออกไปสูดอากาศ ที่สวนสาธารณะบ้าง แต่ก็ยังไม่สามารถกลับไปวิ่งออกกำลังกายเหมือนเดิมได้ เพราะมีอาการ หอบ เหนื่อย ไอเยอะ เลยได้แต่เดินๆ แกว่งๆ แขน  

จากนั้นคุณหมอนัดเข้าเครื่อง PET Ct เพื่อดูว่า การรักษาตอบสนองหรือไม่ แต่ก็ต้องช็อกอีกรอบ เพราะไม่ตอบสนองเลย เซลล์เนื้อร้ายขนาดเท่าเดิม 1.4 ซม. ในปอด ยังไม่พอ กระจายไปตับอีกหลายจุด กระจายไปกระดูกสันหลังอีกจุดนึง ตอนนั้น ใจมันตกไปอยู่ตาตุ่มจริงๆ หมอบอกคงต้อง เปลี่ยนแผนการรักษาจากที่จะให้หายขาด เป็นประคองไปเรื่อยๆ ก็คือ คงคีโม ไปเรื่อยๆ (ในใจคือปล่อยแล้วนะ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด)

แต่ในความโชคร้ายมันก็ยังมีความโชคดี หมอเอาชิ้นเนื้อที่เคยเจาะไว้ ไปตรวจด้วยการย้อมสีเพิ่มเติม จึงรู้ว่า เซลล์กลายพันธ์ ชนิด ALK ซึ่งพบน้อยมากในคนเอเชีย (ทุกวันนี้ยังหาสาเหตุไม่ได้เลย ว่าเป็นมะเร็งจากสาเหตุใด)

คุณหมอแจ้งว่า มียามุ่งเป้า (targeted therapy) ซึ่งมันจะไปกดให้เซลล์ร้ายสงบ แล้วก็ใช้ชีวิตกับมันไปเรื่อยๆ กินยาตลอดชีวิต จนกว่าจะดื้อยา จึงลองยาตัวนี้มาได้เดือนกว่าๆ แล้ว ตอนนี้รู้สึกดีขึ้น เพลียน้อยลง เริ่มออกกำลังกายได้ดีมากขึ้น ก็ขอให้มันตอบสนอง แล้วก็คงต้องกอดคอกันไปกับมัน

อยากจะฝากถึงทุกๆ คน ทุกๆ อย่างในชีวิตไม่แน่ไม่นอนจริงๆ แต่หากเกิดขึ้นแล้ว ต้อง “ตั้งสติ” เตรียมรับมือ และสิ่งที่อยากจะบอก กาดอกจันทร์ 100 ดวง คือ คำว่า “ใจ” ใจมันต้องได้นะ ยาจะดีแค่ไหน แต่ถ้าใจไม่ได้ ยามันก็ไม่ได้ผลหรอก

โดยหลังเจ้าตัวอาการดีขึ้นยังได้บวชเพื่อใช้ธรรมะ เป็นที่พึ่งอีกทางหนึ่งด้วย

 ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ ตำรวจหนุ่มคนดังกล่าว ยังได้แชร์โพสต์ ของนพ.กฤตไท ธนสมบัติกุล อายุ 28 ปี ที่ป่วยเป็นมะเร็งปอดเช่นกัน พร้อมระบุข้อความว่า  "ในวันที่…

    -ยังออกกำลังกายได้ ออกเถอะเชื่อผม เพราะวันที่ได้แต่มองดูคนอื่นออกกำลังกายมันทรมานเสียจริงๆ

    -งานอะไรที่ทำให้เสียสุขภาพ จงรักษาสมดุลชีวิตให้ดี สุขภาพหาซื้อไม่ได้ เชื่อผมเถอะ

    -เวลาตกเหว คุณไม่ได้ตั้งตัวหรอก เชื่อผมเถอะ ทุกอย่างมันจะประดังเข้ามา แต่ขอให้คุณตั้งสติ ใจชนะ อะไรมันก็ชนะ

    -เคยตั้งเป้าหมายในชีวิตอะไรมากมาย แล้ววันนึง คุณจะเข้าใจว่า ตื่นมา มีลมหายใจในวันใหม่ ก็มีความสุขแล้ว

    -มันเริ่มจากปอด ไปต่อมน้ำเหลือง ไปตับ ไปกระดูก แต่อย่างที่บอก ถ้าใจ ไม่ได้ ยาอะไรก็ช่วยไม่ได้

    #ไว้จะมารีวิวชีวิตตัวเอง

    #สู้คำเดียว”

รับชมทางยูทูบที่ :  https://youtu.be/kVSSpogLLZA