โชเฟอร์แท็กซี่หัวร้อน ฉุนโดนไรเดอร์ไล่ตามหลัง เหตุตัวเองชนแล้วหนี คว้ามีดปรี่ไล่แทง

จากกรณีที่เพจ "อีซ้อขยี้ข่าว" โพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่มีโชเฟอร์แท็กซี่สีชมพู ถืดมัดไล่แทงหนุ่มไรเดอร์ พร้อมระบุข้อความว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังมีเหตุเฉี่ยวชนกัน โดยฝากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเรียกโชเฟอร์แท็กซี่รายนี้มาสอบถามข้อเท็จจริงด้วย



ทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุที่ปรากฏอยู่ในคลิปที่มีการแชร์กันในโลกโซเชียลพบว่าจุดเกิดเหตุเป็นบริเวณทางออกชุมชนสระแก้วหรือชุมชนการรถไฟบนถนนพระรามหก ซึ่งเมื่อสอบถามร้านค้าที่อยู่ ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 15:00 น. ของวานนี้ (28 พ.ค.) เห็นเพียงมีกลุ่มคนและมีรถแท็กซี่ยืนกันอยู่บริเวณหน้าปากซอยจุดเกิดเหตุแต่ไม่ได้ยินว่าทะเลาะหรือพูดคุยในเรื่องอะไร จึงไม่รู้สาเหตุของการก่อเหตุ

แต่จากการที่ดูคลิปจากที่ทีมข่าวให้ดูยืนยันได้ว่า แท็กซี่ที่ปรากฏในคลิปก่อเหตุไม่เคยมากินอาหารที่ร้านของตนเองมาก่อนจึงไม่คุ้นหน้าเพราะปกติร้านค้าตนเอง จะมีรถแท็กซี่สาธารณะมาใช้บริการอยู่บ่อยครั้งแต่สำหรับรายนี้ตนเองไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ต่อมา ทีมข่าวช่อง 3 ได้ติดต่อไปยังนางสาวปภาดา นิธิปุญญะวรรธนะ ผู้เสียหายที่ถ่ายคลิปวิดีโอดังกล่าว เล่าว่า เมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 15.00 น. ขณะที่ตนเองกับแฟนหนุ่มกำลังขับแกร็ป และเสร็จจากการส่งอาหารในบ้านพักรถไฟ ถนนพระราม 6 และกำลังเลี้ยวมุ่งหน้ากลับเข้าถนนศรีอยุธยา



ก็เกิดอุบัติเหตุถูกรถแท็กซี่ เฉี่ยวชนทำให้ล้อหน้าของรถจักรยานยนต์เบี้ยวผิดรูป ก่อนที่รถแท็กซี่คันดังกล่าวจะพยายามขับหลบหนีไป แต่แฟนของตนเองจึงได้ขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามไปและพยายามใช้มือทุบกระจกรถแท็กซี่ เพื่อเรียกให้จอดลงมาเจรจา แต่เมื่อโชเฟอร์แท็กซี่ลงจากรถมา ก็ถืออาวุธมีดลงมาด้วย และเริ่มมีปากเสียงท้าทาย และพยายามไล่แทงแฟนหนุ่มตามที่ปรากฏในคลิปวิดีโอ ตนเองจึงถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน แต่ก็ถูกโชเฟอร์แท็กซี่ผลักไม่ให้ถ่าย และท้าทายให้เรียกตำรวจมา



โชคดีที่ต่อมามีพลเมืองดีเข้ามาช่วยห้าม และให้ไปตกลงกันที่สถานีตำรวจ แต่โชเฟอร์แท็กซี่กลับขึ้นรถแล้วขับหนีโดยฝ่าไฟแดงออกไปจากจุดเกิดเหุต



เบื้องต้นตนเองและแฟนหนุ่มตัดสินใจจะเข้าแจ้งความในวันพรุ่งนี้ (30 พ.ค.) เนื่องจากรถจักรยานยนต์เสียหาย ไม่มียานพาหนะใช้ในการประกอบอาชีพ อีกทั้งยังรู้สึกหวาดกลัวและตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะหากแฟนตนเองไม่วิ่งหนีไป ก็อาจได้รับอันตรายมากกว่านี้ พร้อมฝากถึงคู่กรณีว่าหากลงจากรถมาเจรจากันโดยดีแต่แรก ตนเองก็พร้อมจะพูดคุยด้วยและไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้



และฝากถึงประชาชนหากเกิดเหตุการณ์ลักษณะให้ตั้งสติ ถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน และเรียกให้คนรอบข้างเข้ามาช่วย เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งส่วนตัว ก็พร้อมให้อภัยหากคู่กรณีโทรศัพท์มาขอโทษก็จะยุติการดำเนินการทางกฎหมาย



เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ระบุว่า จากพฤติกรรมที่ปรากฎตามคลิปวิดีโอที่สื่อมวลชนนำมาให้ พบว่าเข้าข่าย ความผิด 3 ข้อหาคือ พกพาอาวุธมีดไปในเมืองหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร , ข่มขู่ผู้อื่นโดยใช้อาวุธ และความผิดตาม พรบ. จราจร



ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งความในคดี แต่หากทางผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ก็สามารถดำเนินการติดตามตัวโชเฟอร์แท็กซี่รายนี้ได้เนื่องจากมีหลักฐานที่เป็นคลิปที่ผู้เสียหายบันทึกไว้สามารถบันทึกทะเบียนของรถแท็กซี่คันดังกล่าวได้อย่างชัดเจนจึงคาดว่าจะตามตัวไม่ยาก

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/ZfL3AyRb3C4