ข่าวโซเชียล

'แพรรี่' ไม่กลัว 'ทนายอนันต์ชัย' ฟ้องหมิ่นฯปมโพสต์พาดพิง ลั่นผิดหวังที่เคยนับถือ

โดย panwilai_c

9 มิ.ย. 2566

101 views

แพรรี่ ไพรวัลย์ ไม่กังวล หลังทนายอนันต์ชัยฟ้องหมิ่นประมาท ชี้เป็นการพูดถึงพฤติกรรมพระสงฆ์ทั่วไป ไม่เจาะจงใคร ลั่นตนเองไม่ได้กระดูกเหล็ก แต่ตาลปัตรเหล็ก เห็นอะไรไม่เหมาะสม ก็แสดงคิดเห็นตรงไปตรงมา แนะให้พระพุทธ พระธรรม ก่อนตัวพระสงฆ์



แพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร ชี้แจงถึงประเด็นที่เกิดขึ้น โดยบอกว่าทราบว่าเค้าจะฟ้อง เพราะว่าขู่มา 2-3 ครั้งแล้ว ก็พาไปดูว่าโพสต์อะไรที่เข้าข่าย หรือมีส่วนที่ทำให้ใครมาฟ้องร้องได้ไหม ตนก็ไม่เห็น และก็สงสัยเหมือนกันว่าจะฟ้องอะไร จนวันนี้เห็นว่าคำฟ้องเป็นเรื่องอะไร พอเห็นคำฟ้อง ก็อุทานมาในหัวว่า "อ๋อหรอคะ"



โดยโพสต์ต้นเหตุ ที่ถูกฟ้องร้อง มาจากวันที่ 25 พฤษภาคม ที่แสดงความเห็นเรื่องพระที่สูบบุหรี่ ซึ่งในประเทศมีเป็นร้อย เป็นพันรูป แต่ไม่ว่ากับรูปไหน การที่พระสงฆ์ที่เป็นพระนักบวชในพระพุทธศาสนา ควรจะเป็นที่เคารพสักการะ นักบวชก็ควรที่จะประพฤติให้เป็นแบบ



และในฐานะที่บวชมา 18 ปี ตนเองไม่ได้กระดูกเหล็ก แต่ตาลปัตรเหล็ก พัดเปรียญ 9 ที่ได้รับพระราชทาน จึงตระหนักถึงเรื่องนี้เสมอ แม้จะสึกออกมาแล้วแต่ยังเป็นคนที่บูชาพระธรรม บูชาพระศาสนา เห็นอะไรไม่เหมาะสม หน้าที่ของตนคือแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้เกิดสิ่งที่ดีงามต่อพระพุทธศาสนา โดยใช้สิทธิปัจเจกชนคนหนึ่ง และพุทธศาสนิกชน แสดงความเห็นโดยสุจริต อย่างของสาธุชน



ทั้งนี้ เขามีสิทธิ์ที่จะเขียนคำฟ้องยังไงก็ได้ แต่คำฟ้องอาจเป็นเพียงความรู้สึกของเขา ซึ่งตนในฐานะที่เป็นคนที่ถูกฟ้อง หรือในฐานะจำเลย ก็มีสิทธิ์แก้ต่าง ศาลก็มีสิทธิ์ที่จะพิจารณาตามข้อเท็จจริง ส่วนตัวไม่ได้กังวลอะไรเลย และก็ต้องระมัดระวังอยู่แล้ว ซึ่งการถูกฟ้องครั้งนี้ เป็นข้อดี ทำให้ศึกษาข้อกฎหมายเกี่ยวกับหมิ่นประมาทเยอะมาก



ซึ่งเพจตนเอง เป็นเพจสาธารณะที่มีผู้ติดตามกว่า 3 ล้านคน และในโพสต์ดังกล่าว ตนก็ไม่ได้เอ่ยชื่อใคร และโพสต์ของตนก็ไม่ได้มีส่วนอะไรเกี่ยวข้องในการกระทำอันใดอันหนึ่ง ที่ไปมีส่วนสนับสนุนคนที่มาคอมเมนต์ หรือไปผสมโรงด้วยเลย ถ้าทำแบบนั้นก็ว่าไปอย่าง และตนก็ยังไม่เห็นคอมเมนต์ที่เป็นปัญหา จนกระทั่งทางทนายความคู่กรณีแคปและไปโพสต์ในเพจ ซึ่งจะเห็นว่าตนไม่ใช่เป็นคนแสดงความเห็น



รวมถึงประเด็นเรื่องที่มีคนไปแสดงความเห็นว่า เขารับเงินบริจาค 1 ล้านบาท เข้ามูลนิธิ ตนก็ไม่ได้เป็นคนแสดงความเห็น แต่มันก็เป็นข้อเท็จจริง ว่ารับมาจริง ส่วนประชาชนจะมองว่ารับมาเพื่ออะไร ประชาชนเป็นคนตั้งคำถามไม่เกี่ยวกับตน



ส่วนตัว ไม่มีอะไรอยากฝากถึงทนายคู่กรณี และยอมรับว่าผิดหวังมากเลย ในฐานะที่คนเคยนับถือเขามาก่อน อะไรที่เคยนับถือเขาก็ต้องกลับมาทบทวนใหม่ นักข่าวถามต่อว่า แล้วตอนนี้ยังเคารพอยู่ไหม คุณแพรรี่บอกว่า ไม่เคารพค่ะ ไม่ใช่พ่อ ไม่ใช่แม่



หลังจากนี้ ก็จะต้องเตรียมตัวแนวทางการต่อสู้คดี และต้องรอดูหมายศาลตัวเต็มอีกครั้ง และถ้าถึงที่สุดแล้วในกระบวนการต่อสู้คดี ก็ต้องมีการฟ้องกลับแน่นอน เพราะในคำฟ้องมีการระบุว่า จำเลยที่ 1 ยังมีเจตนาก่อให้จำเลยที่ 2 และ 3 กระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา โดยเป็นการชี้นำ ซึ่งประโยคนี้เขาเข้าใจไปเองว่าตนมีเจตนาทำให้สองคนนั้นไปหมิ่นประมาท แต่ที่จริงไม่เกี่ยวข้องเลย ตนเองโดยใส่ความ และตนก็ไม่ได้รู้จักกับคนที่คอมเมนต์ ที่เป็นจำเลยที่ 2 และ 3 เลยว่าเป็นใคร



ส่วนการที่ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ที่จะมารับเป็นทนายความให้นั้น ท่านก็น่ารัก เป็นห่วง และให้กำลังใจให้ ส่วนทนายคู่กรณีจะอ้างว่า ทนายเดชาไม่เคยชนะคดีเลยนั้น ตนเองไม่เห็นด้วยกับคนที่ยกตนข่มท่าน ต้องให้เกียรติกัน และมันก็มีเรื่องมรรยาททนายความ



และกรณีที่เกิดขึ้น มองว่าเราในฐานะพุทธบริษัท ถวายข้าวถวายน้ำให้พระ ไม่สามารถติเตียนพระได้ และยังมีทนายแล้วคอยฟ้องแบบนี้ พระพุทธศาสนาจะอยู่ยังไง ซึ่งในพุทธกาลวินัยพระหลายข้อ ก็มาจากการติเตียนของชาวบ้าน ถ้าสิ่งใดที่รู้สึกว่ามันเป็นการทำให้พุทธบริษัทหรือชาวพุทธเข้าใจผิด ไม่ถูกต้อง ตนมีสิทธิ์ที่จะตำหนิติติง และการโพสต์ของตน ไม่ได้มีอคติกับใคร



โดยยืนยันว่า ตนถือหลัก ไม่ใช่คน ถ้าพระถูกมองว่าเป็นพระอรหันต์ เป็นผู้วิเศษไปแล้วคนก็จะไม่ค่อยกล้าตั้งคำถาม มองว่าเป็นเรื่องบาปนรก ตนเองไม่อยากให้คนพุทธมีวิธีคิดแบบนี้ อยากให้คนพุทธในเมืองไทย ถือพระพุทธ กับพระธรรมก่อนพระสงฆ์ แต่คนพุทธในไทย ถือพระสงฆ์ ก่อนพระธรรมและพระพุทธ ซึ่งเป็นการยึดตัวบุคคล จึงทำให้หลงทางได้ง่าย



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/73ac6kiM5lQ

คุณอาจสนใจ

Related News