เจ้าของรถไม่ติดใจ ชายพิการอ้างเครียด นั่งรถเข็นปาหินใส่ย่านบรรทัดทอง ขุดวีรกรรมเคยทำเมื่อปี 62

หนุ่มพิการนั่งรถเข็นปาหินใส่รถบนถนนบรรทัดทอง เจ้าของรถลงไปถามปาทำไมไม่ยอมรับ แต่จนมุมเพราะเจอหินอยู่ที่รถเข็น ก่อนจับส่งตำรวจ พบมีพฤติกรรมก่อเหตุลักษณะเดียวกัน เมื่อปี 62 

หนุ่มพิการนั่งรถเข็นปาหินใส่รถบนถนนบรรทัดทอง เจ้าของรถลงไปถามปาทำไมไม่ยอมรับ แต่จนมุมเพราะเจอหินอยู่ที่รถเข็น ก่อนจับส่งตำรวจ พบมีพฤติกรรมก่อเหตุลักษณะเดียวกัน เมื่อปี 62

กรณีเฟซบุ๊กแฟนเพจ "อยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทิร์น part6" โพสต์คลิปวิดีโอ ชายพิการเข็นรถวีลแชร์ มีพฤติกรรมปาหินใส่คน หรือรถที่ ถนนบรรทัดทอง “อันตรายคนพิการป่าหินใส่รถแล้วพยายามหนีที่ถนนบรรทัดทอง”

โดยผู้เสียหาย ได้โพสต์ไว้ในTIKTOK ชื่อว่า reviewbyme89 โพสต์ไว้ทั้งหมด 4 คลิป คลิปแรกหลังเกิดเหตุ เป็นการสนทนาโต้เถียง โดยชายพิการนั่งรถวีลแชร์ บอกว่าไม่ได้เป็นคนปาหิน เชิญให้ไปดูกล้องวงจรปิด ทั้งที่ในรถวีลแชร์ยังมีก้อนหิน และยังบอกว่า ไม่ชอบผู้หญิงแต่งตัวแบบนี้ ถามหาบัตรประชาชนก็บอกไม่มี และพยายามเข็นวีลแชร์หนีพร้อมโวยวาย ซึ่งเจ้าของคลิปก็บอกว่าค่าซ่อมรถแพงเป็นหมื่น

คลิปที่ 2 เป็นคลิปที่ ตำรวจมาพบกับชายพิการนั่งวีลแชร์ ได้มีการพูดคุย ซึ่งเมื่อมาเจอกับตำรวจชายนั่งวีลแชร์ก็สารภาพว่าเป็นคนปาก้อนหินเอง เพราะหงุดหงิดและเครียด ซึ่งเจ้าของคลิปก็บอกว่าเธอยังไม่ได้ไปทำอะไรให้เลย เธอขับรถบนถนนอยู่ดีๆ ชายคนนี้ก็ปาหินมาโดนด้านหลังรถเธอ ซึ่งเป็นรถ BM ค่าซ่อมมันแพง

คลิปที่ 3 เป็นคลิปที่ สน.ปทุมวัน เธอมาแจ้งความจบที่โรงพัก และตำรวจกำลังสอบปากคำชายพิการนั่งวีลแชร์ โดยเธอโพสต์ข้อความว่า ความเสียหายรถ โชคดีที่ปาไม่โดนไฟ ไม่นั้นอาจมีค่าใช้จ่ายมากกว่านี้ ซึ่งประกันต้องไปตามเงินกับผู้ก่อเหตุเอง ผู้ก่อเหตุเป็นคนขายล็อตเตอรี่

ส่วนคลิปที่ 4 เป็นคลิปที่ชายพิการนั่งวีลแชร์ขอโทษผู้เสียหาย แต่เป็นการขอโทษแบบ “ขอโทษละกัน” ซึ่งเธอไม่ยอมความ ทางตำรวมก็พยายาม สอบถามว่ามีญาติ หรือไม่เพื่อที่จะเจรจาชดใช้ค่าเสียหาย

ทีมข่าวได้คุยกับผู้เสียหายเจ้าของรถ BMW บอกว่า เหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา เธอและเพื่อนจะไปทานข้าวแถวถนนบรรทัดทอง และจังหวะที่ขับออกจากซอย จุฬา 26 ก็ได้ยินเสียงดังที่ท้ายรถเหมือนโดนอะไร เพื่อนก็รีบหันไปเห็นชายพิการที่นั่งวีลแชร์ถือก้อนหินกำลังเข็นวีลแชร์หนี เธอจึงรีบจอดรถและไล่ตาม โชคดีที่มีตำรวจของสน.ปทุมวันขับ รถจักรยานยนต์ผ่านมาพอดี จึงเข้าช่วยเจรจา ชายพิการก็บอกว่า เครียด หงุดหงิด จึงก่อเหตุแบบนั้นไป ซึ่งเธอก็งง ว่าเครียดแล้วมาทำลายข้างของคนอื่นทำไม ทั้งที่ไม่รู้จักกัน  เธอจึงไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.ปทุมวันและให้ทำประกันรถยนต์ดูแลที่เสียหาย ส่วนชายพิการเธอไม่ติดใจเอาความเพราะเห็นว่าว่าร่างกายพิการ และคิดว่าอาจจะมีปัญหาทางจิตเพราะพูดจาวกไปวนมา

ผู้เสียหายยังบอกอีกว่าเธอรู้สึกกังวลเพราะมองว่าเป็นภัยสังคม เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่พลุกพล่านมีนักท่องเที่ยวและคนจำนวนมากหากเรื่องนี้เกิดขึ้นกับบุคคลอื่นอาจเป็นอันตรายแต่กับเธอยังโชคดีที่เป็นที่รถยนต์และไม่ได้เสียหายหนักมาก และยอมรับรู้สึกกังวลและไม่กล้ากลับไปแถวบรรทัดทอง เพราะคิดว่าผู้ก่อเหตุยังคงวนเวียนอยู่แถวนั้น และอยากให้มีหน่วยงานไปดูแล

และหลังจากที่เธอนำคลิปมาเตือนภัยในโซเชียลและหาข้อมูลเพิ่มเติมก็พบว่า เมื่อ 5 ปีที่แล้วผู้ก่อเหตุเคยปาหินใส่คนและเลือกเหยื่อเป็นผู้หญิง และยังมีหลายคนมาคอมเม้นต์ว่าเคยเห็นผู้ก่อเหตุ ก่อเหตุในลักษณะนี้ในพื้นที่ลุมพินีและโรงเรียนคอนแวนต์อีกด้วย

ขณะที่ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ สอบถามทั้งวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง และพนักงานกวาดถนน ก็บอกว่า ไม่เคยเห็นลุงพิการนั่งวีลแชร์มาก่อน และไม่เคยได้ยินข่าวคนพิการทำร้ายปาหินอะไรอีกด้วย

และทีมข่าวยังได้โทรสอบถามตำรวจเจ้าของคดีบอกว่าหลังจากที่พาตัวมาที่ สน.ปทุมวัน เจรจาไกล่เกลี่ยทางผู้เสียหายไม่ติดใจ และเห็นว่าผู้ก่อเหตุเป็นชายพิการนั่งวีลแชร์ จึงไม่ได้แจ้งความดำเนินคดี ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้น ทางประกันของผู้เสียหายเป็นคนรับผิดชอบ และเมื่อสอบถาม ชายพิการนั่งวีลแชร์เคยก่อเหตุในลักษณะนี้ในพื้นที่ปทุมวันมาก่อนหรือไม่ ทางตำรวจบอกว่าเพิ่งได้รับรายงานวันเกิดเหตุ ส่วนก่อนหน้านี้ไม่ทราบ

สำหรับชายพิการเข็นรถวีลแชร์คนดังกล่าว จากการตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2562 เคยก่อเหตุการณ์ลักษณะเดียวกัน บริเวณก่อนถึงประตู 7 รพ.จุฬาลงกรณ์ โดยได้มีก้อนหินขนาดเท่ากำปั้นถูกโยนใส่รถยนต์ของผู้เสียหายซึ่งขณะกำลังขับขี่อยู่ ตี่อมาผู้เสียหายได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สน.ปทุมวัน

และได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ด้านหน้าโรงพยาบาล จึงพบสิ่งผิดปกติของชายคนหนึ่งที่นั่งรถเข็นวีลแชร์ผ่านหน้าประตู 7 ไป แล้วทำท่าหยุดเล็กน้อยตรงจุดที่พบเจอก้อนหินตกอยู่ ก่อนที่เขาจะเข็นรถออกไป

ซึ่งผู้เสียหาย เปิดเผยด้วยว่า เมื่อซูมภาพจากกล้องวงจรปิดเข้าไปดู ก็พบว่าชายพิการวีลแชร์ กำลังโยนสิ่งของออกจากมือไปจริงๆ ซึ่งเป็นช่วงขณะที่รถของตนกำลังจะเลี้ยวเข้าโรงพยาบาล โชคดีที่ถูกรถช่วงประตูแต่หากมาไวอีกหน่อย คงจะเข้ากระจกไม่ด้านหน้าหรือด้านข้างรถแตกแน่นอน ซึ่งขณะที่หินกระทบรถเสียงดังมาก คล้ายยางรถแตก แต่ดูแล้วไม่มีอะไรจึงไม่ลงรถมาดู ประกอบกับรีบเข้าไปพบหมอตามคิวนัดหมาย ซึ่งจังหวะนั้นมีรถจยย.รับจ้าง พร้อมผู้โดยสารขับตามมาพอดีและเห็นคล้ายๆ รถถูกอะไรกระเด็นใส่ และได้เปิดกระจกคุยกันเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่เห็นว่าใครทำ

ทั้งนี้ ผู้เสียหายยังบอกว่าว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตามเจอชายพิการคนดังกล่าวนั่งอยู่ริมถนนพระราม 4 คล้ายๆ รอจะทำอะไรสักอย่าง แต่พอไปคุยด้วยก็ไม่คุย และมีอาการทางจิตเวช และพิการแขนและขา

จนสุดท้าย ผู้เสียหายไม่ได้ไม่ได้เอาเรื่องกับชายพิการรายนี้ เพราะเห็นว่าเป็นผู้ป่วย และก็ไม่รู้ว่าทำไปเพราะสาเหตุอะไร จึงถือว่าฟาดเคราะห์ไป

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/7obc51_7c1Y