ข่าวโซเชียล

ยุคไหนแล้ว?! รร.ดังชุมพร ห้าม นร.พกมือถือ-เครื่องสำอาง ถ้าเจอยึดไม่คืน นักกฎหมายชี้เข้าข่ายยักยอกทรัพย์

โดย nattachat_c

2 เม.ย. 2567

218 views

หลังจากที่ โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ชุมพร เผยแพร่ระเบียบการแต่งกายของนักเรียน ลงในเพจ ทำให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กจำนวนหนึ่งแสดงความไม่พอใจ เมื่ออ่านระเบียบถึงข้อ 15 และ 16


โดยระเบียบที่ว่าคือ ห้ามนำอุปกรณ์การใช้โทรศัพท์ทุกชนิดมาโรงเรียน และห้ามนำอุปกรณ์การแต่งหน้า ทำผม และเครื่องประทินผิวทุกชนิด มาโรงเรียน หากตรวจพบ ทางโรงเรียนจะเก็บอุปกรณ์เหล่านั้น และไม่คืนให้ทุกกรณี


โดยชาวเน็ตมองว่า 'ไม่สมเหตุสมผล' หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน จำเป็นต้องติดต่อครอบครัว นักเรียนจะทำอย่างไร


นอกจากนี้ ยังมองว่า เป็นการละเมิดสิทธินักเรียนหรือไม่ และมีการตั้งข้อสังเกตว่า การยึดของดังกล่าวเป็นเรื่องถูกกฎหมายหรือไม่  


คอมเมนต์บางส่วน ระบุว่า ออกกฎแบบนี้ เอาเวลาไปจัดการเรื่องสารเสพติดในโรงเรียนดีกว่ามั้ย // โรงเรียนหรือคอกวัว // คนออกกฎกำลังจะเกษียณใช่ไหม //  ยึดโทรศัพท์เด็กมีโทษทางกฎหมายนะครับ คิดให้มันดี ๆ อ่านข่าวบ้างครับ 


ทั้งนี้ มีคอมเมนต์หนึ่ง ที่มีคนเห็นด้วยเป็นอย่างมาก ใจความว่า


จากใจเด็กนักเรียนคนนึง กฎบางกฎมันก็เกินไปนะครับ มันเหมือนบีบให้นักเรียนกลับไปสู่ยุคเมื่อก่อน ทั้ง ๆ ที่ ยุคนี้มันก็ 2024 แล้ว บางเรื่องผมก็เห็นควร แต่ก็มีหลาย ๆ เรื่อง ที่ก็ยังไม่เหมาะสม


ผมว่า ถ้าจะเข้มงวดกับกฎบางอย่าง ควรไปเข้มงวดกับสารเสพติดใน รร.แบบจริงจังเถอะครับ #ปล.ผมก็เข้าใจคนเป็นครู แต่ช่วยรับฟังพวกเราสักนิดนึงก็ยังดีครับ ไม่ต้องถึงกับปล่อย แต่ก็ให้มันเบา ๆ สักนิดหนึ่ง


ผมคิดว่า ที่ครูยังปวดหัวกับเด็ก ที่ผมยาวเกิน 4 ซม. บางคนอาจจะ 5 - 6 ซม. หรืออะไรต่าง ๆ เพราะว่าเด็กยุคนี้ อะไรที่มันยังท้าทาย และผิดกฎ เด็กมันก็ยิ่งทำ  เพราะงั้นช่วยเบากฎลงสักนิด หรือทำข้อแลกเปลี่ยน เพื่อจะเปลี่ยนแปลงกันก็ยังดีครับ

สำหรับกรณีครู หรือโรงเรียน ยึดของนักเรียนนั้น นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี เคยออกมาระบุว่า


ระเบียบของโรงเรียน แม้ผู้ปกครองจะเคยตกลงด้วย แต่ระเบียบไม่ได้ใหญ่กว่ากฎหมายอาญา โดยเฉพาะกฎหมาย ไม่ได้ให้อำนาจครูในการไปยึดทรัพย์ของเด็ก แล้วไม่คืนให้เด็ก โดยเฉพาะเด็กนักเรียนยังทำมาหากินไม่ได้ เงินที่ซื้อโทรศัพท์มาเป็นของผู้ปกครองแน่ ๆ จึงเคยแนะนำครูไปว่า ระวังผู้ปกครองเด็กอาจจะไปแจ้งความว่า ยักยอกทรัพย์เด็ก หรือยักยอกทรัพย์ผู้ปกครอง จะมีผลไปถึงการกล่าวหาครู เป็นคดีอาญาได้ ไม่ว่าจะเป็นลักทรัพย์ หรือยักยอกทรัพย์ แล้วแต่พฤติการณ์


ทั้งนี้ ความผิดฐานยักยอกทรัพย์ มาตรา 352 ผู้ใดครอบครองทรัพย์ซึ่งเป็นของผู้อื่น หรือซึ่งผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย เบียดบังเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานยักยอก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

--------------

คุณอาจสนใจ

Related News