ข่าวโซเชียล

รู้ตัวแล้ว! เจ้าของลูกสิงโต นั่งรถหรูเปิดประทุน ชมวิวเมืองพัทยา เตรียมหอบเอกสาร แจง จนท.วันนี้

โดย petchpawee_k

24 ม.ค. 2567

236 views

ที่นี่พัทยา! ชายต่างชาติพาสิงโตนั่งรถสปอร์ตเปิดประทุนสุดชิลล์ชมวิวกลางเมือง – อุทยาน เผย ตรวจสอบข้อมูลแล้วเจ้าของเป็นคนไทย แจ้งย้ายครอบครองมาจากราชบุรีมาพัทยา คาดเอกสารยังไม่เสร็จดี – เบื้องต้นมีความผิดพาสิงโตโชว์ในที่สาธารณะ เคลื่อนย้ายโดยไม่ได้รับอนุญาต


เมื่อวันที่ 22 ม.ค.67 ที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “แอน สาวอีสานรัสเซีย” โพสต์คลิป ชายชาวต่างชาติขับรถสปอร์ตสุดหรูเปิดประทุนพาสิงโตนั่งรถสุดชิลล์ชมเมืองพัทยา พร้อมแคปชั่นระบุว่า “ที่นี่พัทยา”  


ซึ่งเธอได้อธิบายในคลิปบอกว่า “พี่น้องจ๋า มาดูสิงโต น่าจะเชื่อง น่าจะรู้เรื่องมากๆ  เจ้าของเขาเป็นชาวต่างชาติที่ร่ำรวยในพัทยา มักจะพาสิงโตขับรถเล่นตากแดดจากลมช่วงเย็น”


หลังเรื่องดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป โดย บางส่วนมีการตั้งคำถามว่า สิงโตไม่ใช่สัตว์เลี้ยงทั่วไป สามารถพาออกมาในที่สาธารณะได้ด้วยหรือ?


กรณีดังกล่าวทางกรมอุทยาน ตรวจสอบแล้ว ชี้แจงว่า จนท.ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สบอ.2 ได้ตรวจสอบข้อมูลการแจ้งครอบครองสิงโตในพื้นที่ จ.ชลบุรี โดยตรวจสอบไมโครชิพ พบว่า ลูกสิงโตที่นำไปโชว์ในรถหรูขับในพื้นที่พัทยา เป็นลูกสิงโตที่แจ้งครอบครองในพื้นที่ สบอ.3 อ.บ้านโป่ง ราชบุรี โดยคนไทย คือ น.ส.สว่างจิต (สงวนนามสกุล) 


ซึ่ง น.ส.สว่างจิต คงเคลื่อนย้ายลูกสิงโตมายังพื้นที่พัทยา โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เคลื่อนย้ายเปลี่ยนแปลงสถานที่ครอบครอง แต่ว่าเจ้าตัว ได้ดำเนินการขอโอนการครอบครองไปยังพื้นที่ จว.ชลบุรี สบอ.2 แล้ว แต่เนื่องจากเอกสารไม่ครบถ้วน อยู่ระหว่างการส่งเอกสารเพิ่มเติม สำหรับเคสนี้พบว่าคนขับเป็นชาวต่างชาติ “ชาวอินเดีย” เป็นเพื่อนของ น.ส.สว่างจิต


ด้านเพจดาวแปดแฉก โพสต์ข้อความ ระบุว่า #เจ้าของสิงโตเดินทางออกนอกประเทศไทยแล้ว โดยพล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. สั่งการให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชลบุรี สืบสวนหาข้อเท็จจริง โดยทราบภายหลังว่า รถยนต์หรูคันดังกล่าว มีสุภาพสตรีคนหนึ่ง เป็นผู้ครอบครองมีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.ภูเก็ต จึงประสานงานกับผู้ครอบครอง ทราบว่ารถยนต์หรูเป็นรถเช่า


ต่อมาวานนี้ (23 ม.ค.) เวลาประมาณ 14.00 น.ฝ่ายสืบสวน ตม.จว.ชลบุรี ประชุมเพื่อหารือแนวทางในการป้องกันและดำเนินการตรวจสอบรวมถึงดำเนินคดีหากพบการกระทำความผิดโดยมีเจ้าหน้าที่กรมสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา และเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในที่ประชุมยังไม่ได้ข้อสรุปถึงการดำเนินการกับผู้ครอบครองสิงโต


จากนั้นเวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบที่บ้านหลังหนึ่ง ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของ Mr.Vaikundar สัญชาติ ศรีลังกา ในเบื้องต้นตรวจสอบพบว่า Mr.Vaikundar เดินทางออกนอกราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 22 ม.ค.2567 โดยที่ยังไม่ไม่ได้เดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักรไทย อีกทั้งภายในบ้านไม่มีใครอยู่ด้านใน


โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้น มีรั้วล้อมรอบขอบชิด ในรั้วบ้าน พบกรงเลี้ยงสัตว์ 2 กรง กรงแรกมี สิงโต 1 ตัว ส่วนกรงที่สอง มีสุนัข 3 ตัว บ้านถูกปิดเงียบ โดยเจ้าหน้าที่ มีการกดกริ่งเรียกคนในบ้าน แต่กลับไม่มีใครออกมาเปิดประตูให้


รายงานข่าวแจ้งว่า ตำรวจพยายามติดต่อกับ Mr.Vaikundar โดย Mr.Vaikundar อ้างว่า รถยนต์ซื้อจากเต็นท์ แต่ยังไม่ได้โอนเนื่องจากยังจ่ายไม่หมด ส่วน คนไทยชื่อปูเป้ เป็นคนดำเนินการซื้อจากฟาร์มแถว จ.ราชบุรี และได้ไปยื่นเรื่องกับกรมอุทยานแล้ว แต่ยังไม่ได้โอนเช่นกัน ส่วนบ้านเป็นบ้านเช่า โดยคนไทยชื่อปูเป้เป็นคนติดต่อคาดว่าตนเองจะเดินทางกลับไทยในอีก 15 วัน


รายงานข่าวแจ้งอีกว่า Mr.Vaikundar อ้างว่าการขนย้ายสิงโต เพื่อพาสิงโตไปรักษา และกลัวว่าสิงโตจะข่วนหลังคารถยนต์ซึ่งเป็นผ้าอย่างดีขาด โดยตำรวจประสานให้ Mr.Vaikundar ส่งข้อมูลการพาสิงโตไปรักษามาให้เพื่อตรวจสอบ 


นางสาวริต้า นามสมมุติ อายุ 50 ปี ชาวบ้านซึ่งพักอยู่ในคอนโดติดกับบ้านหลังดังกล่าว เล่าว่า เห็นชาวต่างชาติผิวสี เลี้ยงสิงโตตัวนี้มานานกว่า 1 เดือน ช่วงเย็นของทุกๆ วัน ชาวต่างชาติผิวสีรายนี้ จะพาสิงโต พร้อมกับสุนัข ขึ้นรถเบนท์ลีย์ แบบเปิดประทุน แล้วพาขับไปตระเวน ย่านชายหาดดงตาล-จอมเทียน โดยช่วงแรกไม่รู้ว่าเป็นตัวอะไร พอได้ยินเสียงร้องคำรามออกมาจากบ้านหลังดังกล่าวบ่อยๆ จึงใช้โทรศัพท์มือถือแอบถ่าย พอซูมเข้าไปใกล้ๆ จึงรู้ว่าเป็นสิงโต ทำให้รู้สึกตกใจมาก และตั้งข้อสงสัยว่า ชาวบ้านทั่วไปสามารถเลี้ยงสิงโตได้หรือไม่ จนกระทั่งมาเป็นข่าวโด่งดังในโลก TikTok ดังกล่าว


ด้านตำรวจ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้น พบว่าสิงโตดังกล่าว ถูกลงทะเบียนไว้ ในพื้นที่จังหวัด ราชบุรี โดยมีผู้หญิงไทยเป็นเจ้าของ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ อยู่ในระหว่างการติดต่อ ให้เดินทางมายังบ้านหลังดังกล่าว เพื่อทำการตรวจสอบข้อมูลเท็จจริงของสิงโต ส่วนชาวต่างชาติที่ปรากฏในคลิป เบื้องต้นเป็นชาวผิวสี คาดว่า เป็นชาวศรีลังกา ส่วนรถหรูเบนท์ลีย์ จากการตรวจสอบทะเบียน พบว่าเป็นรถเช่า มาจากพื้นที่จังหวัดภูเก็ต


ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น. ได้มีทนายของเจ้าของสิงโตได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่โดยได้แจ้งว่า ได้รับมอบอำนาจจากทางเจ้าของสิงโต มาทำการเจรจากับเจ้าหน้าที่ ก่อนจะมีการเปิดประตูบ้าน เข้าไปตรวจสอบสิงโต โดยพบว่าเป็นลูกสิงโต เพศเมีย อายุประมาณ 4 เดือน ซึ่งทางเจ้าของสิงโต มีการขอนัดหมาย เข้าพบเจ้าหน้าที่ เพื่อแสดงเอกสารการครอบครอง ในวันนี้ (24 ม.ค.) ที่ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งรอเจ้าของนำเอกสารมาแสดงข้อเท็จจริงต่อไป


ทั้งนี้ สิงห์โตถือเป็นสัตว์ป่าควบคุมที่ต้องแจ้งการครอบครองโดยเป็นสัตว์ควบคุมชนิด ก. ผู้ขออนุญาตต้องมีมาตรการการควบคุมที่เข้มแข็ง เข้มงวดเพราะเป็นสัตว์ที่มีความดุร้าย อาจจะสร้างความหวาดกลัว หรือทำอันตรายแก่ผู้อื่นได้ หากไม่แจ้งมีการแจ้งการครอบครอง จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ หรือหาก ไม่ปฏิบัติตามระเบียบ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


และหากนำมาโชว์ในที่สาธารณะ ไม่ดูแลรักษาในสถานที่ครอบครองที่แข็งแรงปลอดภัย และเคลื่อนย้ายสิงโตมาโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามระเบียบ อส. ว่าด้วยการแจ้งและการรับแจ้ง และการครอบครองซึ่งสัตว์ป่าควบคุมและซากสัตว์ป่าควบคุม 2565  จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 50,000 บาท


โดยเจ้าหน้าที่กรมอุทยาน กล่าวว่า กระบวนการต่อจากนี้ จนท.อยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียดรวมทั้งเรื่องการเอาผิดเจ้าของที่แจ้งครอบครอง และคนที่พาสิงโตออกมาขับรถชิลล์ชมเมืองพัทยา ซึ่งขอยืนยันเบื้องต้นว่าเคสนี้มีการแจ้งเอาผิดอย่างแน่นนอน


นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่าต่อไปนี้ กรมอุทยานฯมีแนวคิด จะห้ามบุคคลไม่ให้ครอบครอง สัตว์ดุร้าย ที่อาจจะเป็นอันตรายอีกต่อไป เพราะถือว่าไม่มีความจำเป็น หากไม่ใช่สวนสัตว์ ก็จะไม่อนุญาตให้ครอบครองอีกต่อไป ทั้งนี้ กรมอุทยานฯ ได้กำหนดสัตว์ป่าควบคุม ชนิด ก. สัตว์ในกลุ่มสัตว์ขนาดใหญ่ ดุร้าย มี 10 ชนิด 3 กลุ่ม ได้แก่ เสือชีต้า สิงโต เสือจากัวร์ กอริลล่าภูเขา กอริลล่า ชิมแพนซีธรรมดา โบโนโบ้ อุรังอุตังสุมาตรา อุรังอุตังบอเนียว และ งูอนาคอนดาเขียว 


ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับการครอบครองสิงโตส่วนใหญ่จะนำเข้ามาเพื่อเพาะเลี้ยงในสวนสัตว์แต่ตอนหลัง มีการขอนุญาตเพื่อสันทนาการและเลี้ยงในบ้านเหมือนกับสัตว์ป่าในบัญชีไซเตสอื่นๆ ซึ่งราคาที่จำหน่ายกันตกตัวละ 500,000 บาท  กำลังเป็นนิยมของกลุ่มชาวต่างชาติและคนไทย ในพื้นที่จ.ชลบุรี มีการแจ้งครอบครองเป็นบุคคลทั่วไปคนไทย 4 ราย และสวนสัตว์ 1 แห่งรวม 15 ตัว


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/5D-7fDtj7MY

คุณอาจสนใจ

Related News