ข่าวโซเชียล

สุดยอดทีมเวิร์ก! 2 รพ.ร่วมมือช่วยเด็กถูกพิษไซยาไนด์ นัดพบกันครึ่งทาง ให้ยาต้านพิษทันเวลา

โดย nattachat_c

10 ม.ค. 2567

142 views

วานนี้ (9 ม.ค. 67)  เพจ Ramathibodi Poison Center ได้แชร์เรื่องราวสุดประทับใจ ของทีมแพทย์ 2 โรงพยาบาล ที่ช่วยเด็กจนรอดชีวิต ระบุข้อความว่า


“โพสต์นี้ แอดขอเป็นตัวแทนเจ้าหน้าที่ศูนย์พิษวิทยารามาธิบดี ชื่นชม และขอบคุณ ทีม รพ.ขุนยวม และ รพ.ศรีสังวาลย์ จ.แม่ฮ่องสอน ที่ช่วยเหลือประสานงานการส่งตัวผู้ป่วยเด็กที่หมดสติ และมีเลือดเป็นกรดรุนแรง จากพิษไซยาไนด์ในน้ำยาล้างเครื่องเงิน


ไซยาไนด์ยับยั้งการหายใจระดับเซลล์ ทำให้อวัยวะต่าง ๆ ล้มเหลว และอาจเสียชีวิตได้ หากไม่ได้รับยาต้านพิษทันเวลา


การได้รับยาต้านพิษทันเวลา สำคัญต่อการกู้ชีวิตเด็กคนนี้มาก ๆ เรียกว่า ทุกวินาทีมีค่า ด้วยว่าเป็นภาวะที่เกิดไม่บ่อย (ตลอดชีวิตการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์บางท่าน อาจยังไม่เคยเจอเลยด้วยซ้ำ) ยาต้านพิษนี้จึงจะไม่ได้มีในทุก รพ. แต่มีระบบการเก็บไว้ในโรงพยาบาลจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ ให้มีการส่ง หรือยืมเพื่อช่วยผู้ป่วยตามระบบของโครงการยาต้านพิษ


การที่ทั้งสองทีม รพ. ตัดสินใจให้ ทาง รพ.ขุนยวม มีแพทย์ และพยาบาล อีกสองท่าน ออกรถไปกับเด็ก


ขณะเดียวกัน ทาง รพ.ศรีสังวาลย์ ก็ออกรถนำยาต้านพิษ (sodium nitrite และ sodium thiosulfate) มาพบกันครึ่งทาง


และให้ยาต้านพิษบนรถพยาบาลกลางทาง แล้วรับตัวน้องเด็กไปดูแลต่อที่ไอซียู ทำให้ประหยัดเวลา และรักษาชีวิตคนไข้ได้อย่างทันท่วงที แม้เส้นทางจะคดเคี้ยวหรือทำเวลาได้ยาก แต่ด้วยการประสานพบกันกลางทางนี้ ก็ทันเวลาที่จะช่วยคนไข้ให้ฟื้นตัว และตื่นรู้ตัวเป็นปกติได้ ในเวลาต่อมา


ขอบคุณที่ให้ทีมศูนย์พิษวิทยารามาธิบดีได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือคนไข้ในครั้งนี้ ขอบคุณที่ให้พวกเราได้เห็นตัวอย่างการประสานงานอย่างยอดเยี่ยมระหว่างหน่วยงาน ขอชื่นชมทีมทั้งสองโรงพยาบาล พวกคุณสุดยอดมากครับ”

-------------

นอกจากนี้ เฟซบุ๊ก ธีระดา วงค์ใจ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงเคสดังกล่าว ระบุว่า


เด็กน้อยอายุ 5 ปี มาด้วยอาการไม่รู้สึกตัว แน่นิ่งไม่ตอบสนองใด ๆ แม่ให้ประวัติดื่มน้ำยาแช่เครื่องเงินประมาณ 1 อึก ซึ่งน้ำยาเป็นสารไซยาไนด์ รพ.ที่ไปรักษาเป็นรพ.ชุมชน ซึ่งไม่เคยเจอเคสแบบนี้มาก่อน อย่าว่าแต่รพ.ชุมชนเลย เราที่อยู่รพ.จังหวัด ทำงานมานาน ก็ยังไม่เคยเจอเคสแบบนี้เลย หมอจึงรีบโทรไปหาศูนย์พิษรามาทันที เพื่อปรึกษาเรื่องการรักษาพิษจากไซยาไนด์


อาจารย์แพทย์ที่ศูนย์พิษรามา ได้มีคำสั่งการรักษาผู้ป่วย ด้วยยาหลายตัว ยาบางตัวมีให้ได้เลย แต่ยาที่เป็นพระเอกใช้แก้พิษไซยาไนด์ ไม่มีในรพ.ขนาดเล็ก ๆ แบบนี้ ต้องพาเด็กไปรักษาที่ รพ.จังหวัด ห่างออกไป 60 กม. ทางคดเคี้ยวเลี้ยวลดขับเร็วไม่ได้ ทำเวลาไม่ได้ เอาล่ะสิ ยุ่งแล้ว


หมอปุ้ยโทรปรึกษาแพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน และกุมารแพทย์ เพื่อจะมารักษาต่อที่นี่ และกระโดดขึ้นรถรีเฟอร์ พร้อมพยาบาลอีก 2 คน เพื่อดูแลเด็กระหว่างทาง


หมอกรีคำนวณเวลาแล้วว่า กว่าเด็กจะมาถึงโรงพยาบาลจังหวัด ไซยาไนด์คงทำพิษต่อร่างกายเสียหายไปมาก และเด็กอาจจะเสียชีวิตระหว่างทาง


หมอกรีจึงมีคำสั่งให้เอายาแก้พิษไซยาไนด์ 2 ตัว ให้พนักงานขับรถ นำยาไปส่งให้ทีมหมอปุ้ยที่กำลังเดินทางมา เพื่อที่จะได้รีบให้ยาแก้พิษทันที


หมอปุ้ย และทีมรีเฟอร์ รพ.ขุนยวม เมื่อได้รับยาจาก พชร. แล้วก็ให้ยาแก้พิษ จากนั้นเด็กเริ่มตื่น ดิ้น จากที่นอนแน่นิ่ง ไม่ตอบสนองใด ๆ หมอฉุกเฉิน Kreetha Kamniam หมอแพรซึ่งเป็นหมอเด็ก มารอเตรียมรับผู้ป่วยที่ ER


พอมาถึงที่นี่ ให้ยาแก้พิษซ้ำไปอีก เจาะเลือด ติดตามพิษในเลือด ติดตามสัญญาณชีพ ส่งเด็กนอนรักษาต่อที่ ICU ลุ้นให้เด็กน้อยรอด เช้านี้ ติดตามอาการ เด็กน้อย ตื่นดี ถอดท่อช่วยหายใจแล้ว E4V5M6


การรักษาเด็กน้อยครั้งนี้ เปรียบเสมือนการวิ่งแข่งกับสารพิษไซยาไนด์ ที่เข้าไปทำลายเซลล์ในร่างกาย โดยเราปล่อยยาแก้พิษ (sodium nitrite และ sodium Thiosulfate) เข้าสู่กระแสเลือดให้วิ่งเข้าไปจับไซยาไนด์ แล้วล็อกไซยาไนด์ไว้ให้สิ้นพิษ เฮ้อ..แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว


สรุป.. พวกเราชนะว๊อยย….. เย้!! คำเตือน ใครมีลูกเล็ก ควรจัดสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัย ไซยาไนด์มีพิษร้ายแรงมาก สามารถฆ่าคนในเวลาไม่กี่นาที


คำเตือนอีกข้อ หากผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้น กดหัวใจได้ แต่อย่าจุ๊ฟปากผายปอด เพราะอาจจะได้รับไซยาไนด์ด้วย ตายอ๊องไปด้วยกันเลย คำเตือนสุดท้าย ยังไม่เชยนะ อย่าประมาทไปทานข้าวกับคนแปลกหน้า นะคะ

--------------
วานนี้ (9 ม.ค. 67)  ทีมข่าวช่องสาม ได้พูดคุยกับ รศ.พญ.สาทริยา ตระกูลศรีชัย อาจารย์ประจำศูนย์พิษวิทยา ซึ่งให้คำปรึกษาทั้ง 2 โรงพยาบาล เล่าว่า


เหตุเกิดเมื่อ วันเสาร์ที่ 6 มกราคม 2567  ช่วง4 โมงเย็น หลังเด็กดื่มน้ำยาล้างเครื่องเงินแล้ว ชัก ไม่รู้สึกตัว ถูกนำส่ง รพ.ขุนยวม ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ผลตรวจเลือดพบเป็นกรด คาดเกิดจากไซยาไนด์


เมื่อทาง รพ.ขุนยวมปรึกษามา ก็แนะนำให้ไปเอายาต้านพิษ ที่ รพ.ศรีสังวาลย์ ซึ่งอยู่ใกล้สุด 60 กิโลเมตร แต่ด้วยเส้นทางคดเคี้ยว ต้องใช้เวลา เกรงไม่ทัน ได้รับยาภายใน 1 ชั่วโมง


จึงช่วยประสาน รพ.ศรีสังวาลย์ นำยามาให้พบกันครึ่งทาง และให้ยาในรถผู้ป่วย จนน้องมีอาการดีขึ้น และไปรักษาต่อที่ รพ.ศรีสังวาลย์ หลังจากนั้นก็ให้ยาซ้ำอีกครั้ง ในช่วงกลางคืน จนกระทั่งรุ่งเช้าวันต่อมา ้ด็กมีอาการดีขึ้น และตอนนี้ก็ดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งขอชื่นชมทั้ง 2 รพ. ที่วิเคราะห์ได้ทันท่วงทีว่า เป็นผลที่เกิดจากยาไซยาไนด์ และช่วยชีวิตน้องได้


สำหรับยาต้านพิษ อยู่ในโครงการยาต้านพิษแห่งชาติ เป็นยาที่ผลิตโดยสภากาชาดไทย ไว้ไปประจำที่โรงพยาบาลจังหวัด และรพ.ห่างไกล เพื่อช่วยในภาวะฉุกเฉิน และไม่มีขายในท้องตลาด

-----------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/ZLYP0v4lvSs

คุณอาจสนใจ

Related News