ข่าวโซเชียล
จบ 'ทริปน้ำไม่อาบ' ทยอยกลับแล้ว ชาวบ้านเอือมแหกทุกกฎ ชี้มาปีละครั้งแต่ทำเดือดร้อนทุกปี
โดย passamon_a
27 พ.ย. 2566
102 views
จบ ทริปน้ำไม่อาบ ทยอยเดินทางกลับ แต่ชาวบ้านยังเอือมระอาแหกทุกกฎ ขี่รถกีดขวางเส้นจราจร เบิ้ลเครื่องเสียงดัง "มาปีละครั้งแต่สร้างความเดือดร้อนปีละครั้งเหมือนกันทุกปี" ด้านผู้การฯเพชรบูรณ์ เผย ผลการถูกดำเนินคดีหรือจับกุมตรวจยึดรถ ยังไม่ปรากฏเป็นคดี
จากกรณีกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ทริปน้ำไม่อาบ ที่ได้นัดหมายรวมตัวกันเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวใน จ.เพชรบูรณ์ ระหว่างวันที่ 25-26 พฤศจิกายน 2566 โดยในคืนของวันที่ 25 พ.ย.66 มีจัดกิจกรรมภายในกลุ่มและเวทีคอนเสิร์ต ส่วนเช้าวันที่ 26 พ.ย.66 ทำบุญทอดกฐิน ที่วัดม่วงเย็น บ้านน้ำอ้อย หมู่ที่ 4 ต.นาเกาะ อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ และมอบเป็นทุนการศึกษาแก่เด็กผู้ด้อยโอกาส
เมื่อวันที่ 26 พ.ย. เพจเฟซบุ๊ก เมลาย รัชดา แฟนเพจ ได้นัดทำบุญทอดกฐินที่วังม่วงเย็น บ้านน้ำอ้อย จ.เพชรบูรณ์ พร้อมโพสต์ภาพการจัดกิจกรรมระบุ "กฐินใหญ่ปีนี้" และไลฟ์ขณะทำบุญทอดกฐิน "กฐินน้ำไม่อาบ" และโพสต์ภาพเงินยอดกฐินน้ำไม่อาบ 414,127 บาท
ทีมข่าวสอบถามไปยังเพจเฟซบุ๊ก เมลาย รัชดา แฟนเพจ ปลายสายบอกว่าเป็นผู้จัดการของทริปนี้ ตนเองและเมลายไม่ขอให้สัมภาษณ์ใด ๆ จากนั้นก็ตัดสายทิ้ง
นอกจากนี้ เพจเฟซบุ๊ก เมลาย รัชดา แฟนเพจ ยังได้โพสต์อีกว่า "กูก็งงกับทัวร์พม่านะ จะให้เหมารถทัวร์มาทำบุญให้ได้เลย พวกกูชอบมอไซค์จะให้กูเหมารถทัวร์มาทำบ้าไร กูจะรั่ว นักข่าวไม่ต้องโทรมานะคับ ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ทุกช่อง เห็นลงข่าวทริปน้ำไม่อาบกันไม่หยุดเลย ช่วยลงข่าวยอดกฐิน4แสนให้ผมดูเป็นบุญตาหน่อยคับ"
ขณะที่เช้าวันที่ 26 พ.ย. ผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่ง ได้โพสต์คลิปขณะพักอยู่บนภูทับเบิก ทริปน้ำไม่อาบเบิ้ลรถเสียงดังลั่น เจ้าตัวเขียนแคปชั่นว่า "เบิ้ลทำ....ไรคะกูนอนอยู่ เบิ้ลบนเขาแต่เช้าเลยนะ"
ชาวบ้านใน จ.เพชรบูรณ์ ตั้งคำถาม กติกา 10 ข้อ กลุ่มทริปน้ำไม่อาบ ซึ่งทำข้อตกลงกับทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ ทำอะไรตรงตามกติกาบ้าง โดยก่อนหน้านี้ เมลาย รัชดา หัวหน้าทีม พร้อมด้วยทีมงาน เข้าพบผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อทำข้อตกลง 10 ข้อ ในการเดินทางมาจัดกิจกรรมบนภูทับเบิก คือ
1.สวมหมวกกันน็อค เอกสารรถต้องมี 2.ขับรถชิดซ้าย 3.เจอด่านไม่ต้องหนี ไม่ขับย้อนศร 4.ไม่ยกล้อ ไม่นอนขับ ไม่ขับในท่าประมาทหวาดเสียว 5.นัดแข่งรถเส้นบายพาส 6.หลบหลีกเขตชุมชน 7.ไม่เบิ้นรถมรปั๊ม 8.ให้เกียรติสถานที่และพื้นที่ชุมชน 9.ใครทำไม่ได้ให้อยู่บ้านไม่ต้องมา 10.หากมีภาพหรือคลิปหลุดแข่งขันต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
แต่หลังวัยรุ่นยกขบวนรถ เข้าพื้นที่ก็สร้างปัญหาให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนเหมือนเดิม คือยังปรากฏภาพการขับขี่รถในท่าประมาทหวาดเสียว การขับขี่กีดขวางเส้นทางการจราจร การเบิ้ลเครื่องรถโดยไม่เกรงใจประชาชนในยามวิกาล การไม่สวมหมวกนิรภัย การแข่งขันความเร็วบนท้องถนน การขับรถยกล้อ ล้วนเป็นวีรกรรม ที่ชาว จ.เพชรบูรณ์ เอือมระอาแหกทุกกฎ
ทริปนี้จบการทำบุญแล้วทยอยแยกย้ายกลับ ซึ่งปรากฏคลิปชาวโซเชียลที่มากับทริปน้ำไม่อาบ ได้โพสต์วิดีโอ โดยชายรายดังกล่าว พูดว่า "ที่นี่เพชรบูรณ์ กลับก่อนทริปน้ำไม่อาบ ไม่มีใครเบิ้ล คนที่คอมเม้นท์ว่าทริปน้ำไม่อาบก่อกวนชาวเพชรบูรณ์ ดู เขาขี่เป็นระเบียบเรียบร้อย เขามาทำบุญกัน"
บางมุมดี ๆ ของกลุ่มทริปน้ำไม่อาบ นอกจากทำบุญทอดกฐินซึ่งต้องชื่นชม ยังมีคลิปขณะขับขี่รถอยู่บนถนนเจอบัติเหตุรถยนต์ชนมอเตอร์ไซค์ ระหว่างจอดติดไฟแดงได้ลงมาช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจเข็นรถเข้าข้างทาง ผู้ถ่ายคลิปบรรยายว่า "แก๊งอาบไม่อาบมาช่วยเหลือกัน น้ำไม่อาบน้ำใจคนไทย อย่างเฟี้ยวเลย แก๊งนี้ใช้ได้ครับรถกู้ภัยยังไม่มาเลย" มีรายงานข่าวว่ามอเตอร์ไซค์ที่ถูกชนคือแก๊งน้ำไม่อาบเหมือนกัน
ผู้ใช้เฟซบุ๊กบางรายได้โพสต์ถาม "ขอสอบถามหน่อยค่ะ ทริปน้ำไม่อาบหลายคนก็น่าจะสงสัยเหมือนกันว่าทำไมผู้การถึงอนุญาตให้ทริปนี้นำรถดัดแปลงสภาพ ท่อดัง ไม่มีกระจก แผ่นป้ายทะเบียนไม่ติด 90% ที่มา ผ่านไปได้อย่างง่ายแถมยังมีตำรวจคอยบริการอย่างดีด้วย จากใจคนเพชรบูรณ์ตั้งแต่เกิด เขามาปีละครั้งแต่สร้างความเดือดร้อนปีละครั้งเหมือนกันทุกปี ทำไมต้องให้พี่น้องชาวเพชรบูรณ์ใช้รถใช้ถนนแบบหวาดระแวงด้วยคะ? แถมเสียงท่อรบกวนชาวบ้านมาก มีอะไรมากกว่านี้รึป่าว คำถามที่ต้องมีคนสงสัยเหมือนกัน
ตัดภาพมาที่ลูกหลานเราขี่รถไปโรงเรียนกลับโดนจับ น่าจะมีผู้ใหญ่ออกมาพูดปัญหานี้นะคะ ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ก่อนที่เรื่องมันจะใหญ่ไปมากกว่านี้ เพราะหนูเองก็จะไม่ทนเรื่องนี้ต่อไปเหมือนกัน อุบัติเหตุจะเกิดกับเราปีไหนก็ไม่รู้ ทำไมต้องมาให้เราระวังทั้งที่เมืองเราเป็นเมืองเงียบสบาย ต้อนรับคนที่เขามาเที่ยวปีใหม่ดีกว่าค่ะเงินสะพัดทั่วเมืองเเบบเห็นได้ชัด แต่ทริปนี้เงินสะพัดเข้าใคร????"
นอกจากนี้ในโซเชียลยังมีคลิปและกลายเป็นคลิปดราม่า เนื่องจากในคลิปมีพระสงฆ์ พรหมน้ำมนต์ ให้กับกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ทริปน้ำไม่อาบ พร้อมระบุข้อความว่า # น้ำไม่อาบ # เจิมรถ # ขับขี่ปลอดภัย # Aumshop # ติ้กสายสร้าง ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ของ อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ นอกจากนี้ในคลิปรถจักรยานยนต์ยังเป็นรถแต่งซิ่งไม่ติดป้ายทะเบียนไม่มีกระจกมองข้าง
จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ว่ามีการละเว้นหรือไม่ เช่น "อันนี้ทริปประจำปีครับ จะจับก็ไม่ได้เพราะมันมีทุกปีจนจะกลายเป็นประเพณีไปแล้วตำรวจเข้าใจทุกคน,ทะเบียนไม่มี ,ตำรวจไม่จับ ความผิดซึ่งหน้า ,แบบนี้ตำรวจทำผิดกฎหมายฐานละเว้นมั้ย, ถุย!!กฎจราจรป้ายทะเบียนไม่มีแต่เสือกไม่จับ, เขาขออนุญาตตำรวจก่อนหน้านี้แล้วครับ, งานนี้ตังค์ถึงตำหรวจพูดเพราะเลยนะ, และมีคนยอกว่า ลบตอนนี้ยังทันนะครับ"
พลตำรวจตรี สรนัย คงเมือง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ ถึงกรณีทำดำเนินการกับกลุ่มผู้กระทำผิด ทั้งขับรถกีดขวางทางจราจร ขับรถประมาทหวาดเสียวและอื่น ๆ ที่กติกาทริปน้ำไม่อาบตั้งเอาไว้ 10 ข้อ ว่าผลจากการเรียกหัวหน้ากลุ่มต่าง ๆ มาพบปะพูดคุยและสร้างกติการ่วมกัน ถ้ามาเที่ยวจะเที่ยวแบบไหน ก็พบว่ามีการให้ความร่วมมือที่ดี จากทุกปีที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีการวางระบบแบบนี้ ซึ่งมีคนมาเที่ยวทุกสารทิศ โดยครั้งนี้ก็มีการจัดระเบียบ มีการตกลงร่วมกัน
ซึ่งจากการตรวจสอบจะแยกออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือกลุ่มที่ได้รับรู้การสื่อสาร จะอยู่ในกติกา ส่วนกลุ่มที่ 2 อาจเป็นน้อง ๆ เยาวชน ที่เข้าไม่ถึงช่องทางสื่อสาร ก็ยังใช้วิธีเดินทางแบบเดิม แต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ ไม่ได้ผ่านเข้าสู่ตัวเมืองชั้นในถือว่าอยู่ในกฎระเบียบในระดับหนึ่ง
ส่วนการดำเนินคดีรถที่ผิด วันที่ 26 พ.ย. ทางท่านผู้ว่าฯ ร่วมกับขนส่งจังหวัด และ ภจว.เพชรบูรณ์ ได้ร่วมกันตั้งด่านจับกุมการทำผิดกฎหมาย เช่น แผ่นป้ายทะเบียน การดัดแปลงสภาพรถ ฯลฯ สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 25 พ.ย. แม้จะมีการทำตามกฎกติกา แต่ก็ยังมีบางส่วน ที่ไม่อยู่ในกติกา จึงมีการดำเนินบังคับใช้กฎหมาย 100%
และวันที่ 26 พ.ย. เป็นวันเดินทางกลับ ก็จะมีการตั้งด่าน เพื่อกวดขันจับกุมการกระทำผิด ก็อยากฝากถึงผู้ที่มาเที่ยวในทริปนี้ ควรมีการเคารพ ให้เกียรติซึ่งกันและกันบนท้องถนน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็เข้าใจบริบททั้งในส่วนกลุ่มเยาวชนและสังคมคือตำรวจอยู่ตรงกลาง ระหว่าง 2 ส่วนนี้ ซึ่งสังคมก็คาดหวังในการบังคับใช้กฎหมาย 100%
แต่ในขณะเดียวกันเด็ก ๆ เยาวชน เขาก็มีวัฒนธรรมของทริปน้ำไม่อาบ ซึ่งหากเข้าไปดูรายละเอียด จะพบว่ามีอยู่ 2 ส่วน กลุ่มหนึ่งคือคนโตคือทำธุรกิจ การจัดงาน สำนักแต่งรถ เพื่อมาทำธุรกิจ ส่วนกลุ่ม 2 คือกลุ่มลูกค้า ซึ่งคือเด็กเยาวชนที่รักการขับรถแต่ง ก็จะเข้ามาร่วมกับบรรยากาศทริปน้ำไม่อาบ
โดยปีนี้พบว่าหลังจากการจัดรูปแบบมีการทำอีเว้นท์พบว่าเด็กหายไปเยอะ จากการประเมิน จากที่มาเป็นหมื่นคงเหลือไม่เกิน 3,000 พอเข้าไปในงาน เหลือไม่ถึง 300 สาเหตุสำคัญที่พบ คือมีการเก็บค่าเข้างาน 250 จะเห็นได้ชัด พอมีการเก็บตังค์ เด็กก็หายไปเยอะ
พลตำรวจตรีสารนัย คงเมือง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า ได้รายงานสรุปผลการปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการแต่งรถในทางและคดีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ของทริปน้ำไม่อาบ พบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ดำเนินการ ตรวจค้นรถยนต์ จำนวน 39 คัน ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย, ตรวจค้นรถจักรยานยนต์ จำนวน 210 คัน ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย, ประชาสัมพันธ์ผู้ขับขี่ให้เคารพกฎจราจร จำนวน 720 ราย และประชาสัมพันธ์การจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่ จำนวน 120 ร้าน ส่วนผลการจับกุมตรวจยึดยังไม่พบว่ามีคดีปรากฏในพื้นที่
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/VRAZqcy_AGo
แท็กที่เกี่ยวข้อง ทริปน้ำไม่อาบ ,เพชรบูรณ์