สาวโวย ทองคำแท่งส่งไปรษณีย์ ถูกคนร้ายแอบอ้างรับแทน ผ่านมาเกือบเดือนไปรษณีย์ไร้คำตอบ

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 8 พ.ย.66 ที่สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี น.ส.รัตนากร อายุ 30 ปี เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีทองคำแท่งที่ส่งจากเพจผ่อนทองในจ.สุพรรณบุรี ผ่านขนส่งไปรษณีย์ไทยสูญหาย เหตุเกิดเมื่อเวลา 11.35 น.วันที่ 17 ต.ค 66

สืบเนื่องจากน.ส.รัตนากร อายุ 30 ปี ได้ผ่อนทองคำแท่งผ่านเฟซบุ๊กผ่อนทองแห่งหนึ่ง ในจ.สุพรรณบุรี โดยทางเพจฯดังกล่าวได้ส่งทอง คำแท่ง 2 แท่ง น้ำหนักแท่งละ 3 สลึง โดยส่งจากไปรษณีย์สุพรรณบุรี ถึงปลายทางไปรษณีย์บางบัวทอง สาขาวัดมะเดื่อ ต.บางรักใหญ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 17 ต.ค.66 แต่งเนื่องด้วยผู้เสียหายไม่ว่างเข้าไปรับในวันดังกล่าวจึงได้เดินทางไปขอรับในวันที่ 19 ต.ค.66 เวลาประมาณ 16.00 น. พนักงานไปรษณีย์ แจ้งว่าได้มี น.ส.นัท (นามสมมุติ) เป็นไรเดอร์แห่งหนึ่ง มาติดต่อขอรับไปแทนแล้ว เมื่อวันที่ 17 ต.ค.66 โดยระบุว่าเป็นน้องสาวของชื่อผู้รับตามหน้ากล่องพัสดุ ซึ่งผู้เสียหายเชื่อว่าเป็นคนร้ายแอบอ้างไปรับเอาทองคำของผู้เสียหายไป

จากการสอบถาม น.ส.รัตนากร เจ้าของทองคำแท่ง กล่าวว่า ตนสั่งทองทางเพจนี้มาหลายครั้งแล้วไม่เคยมีปัญหาอะไร แต่ล่าสุดมีสั่งทองคำแท่ง 2 สลึงได้หาย โดยตนตรวจสอบเลขพัสดุพบว่าถึงไปรษณีย์ สาขาวัดมะเดื่อ ตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค.66 แต่ตนยังไม่มีเวลาไปรับเพราะทำงาน พอวันที่ 19 ต.ค.ตนเดินทางไปรับพัสดุ เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ได้ขอเลขพัสดุไปตรวจสอบ จากนั้นเจ้าหน้าที่บอกว่ามีคนมารับพัสดุไปแล้ว ชื่อนัทเป็นน้องสาวของตน มีบัตรประชาชนมาแสดงด้วย ตนจึงยืนยันไปว่าไม่เคยให้ญาติมารับของแทน และตนก็ไม่มีน้องผู้หญิงด้วย


น.ส.รัตนากร กล่าวอีกว่า คนที่มารับของไปมีลักษณะเป็นทอม เขามีเลขพัสดุจึงทักแชตมาที่ไปรษณีย์ แล้วแจ้งว่าจะมารับของชิ้นนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ตรวจสอบบัตรประชาชนตรงกับที่เขาทักแชตมาที่ไปรษณีย์ จึงทำการจ่ายสินค้าไป ทั้งที่บัตรประชาชนก็ไม่ใช่หน้าของตน ไม่มีใบเซ็นมอบอำนาจอะไรเลย ทางบริษัทไปรษณีย์ให้ตนไปติดต่อกับร้านทอง ตนจึงโทรศัพท์ไปที่เพจร้านทอง ซึ่งทางเพจร้านทองแจ้งว่าถ้าของหายกลางทาง หรือชำรุดถูกแกะระหว่างทาง ร้านจะรับผิดชอบ แต่กรณีนี้ร้านไม่รับผิดชอบเพราะร้านส่งแบบมีประกัน ซึ่งกรณีนี้เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ต้องรับผิดชอบ แต่เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ก็บ่ายเบี่ยง แจ้งว่าต้องให้สำนักงานใหญ่ของไปรษณีย์รับผิดชอบ



น.ส.รัตนากร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเงินที่ซื้อทองคำแท่งนั้นตนใช้วิธีส่งเป็นรายวัน โดยมีการวางดาวน์เป็นจำนวนเงิน 6,000 บาท ตามสัญญาแล้วค่าส่ง 40 บาท แล้วผ่อนวันละ 350 บาท พอส่งได้ 7 งวด เขาก็จะส่งทองมาให้ ซึ่งตนทำแบบนี้ผ่อนทองกับทางร้านมาหลายครั้งไม่มีปัญหาได้รับทองตลอด ตนติดใจเรื่องการจ่ายของที่ไปรษณีย์ ให้ของคนอื่นไปโดยที่ไม่มีใบเซ็นมอบอำนาจ บัตรประชาชนก็ไม่ใช่ตน ไม่โทรสอบถามตามเบอร์หน้ากล่องว่าให้ใครมารับแทนหรือไม่ แต่ทำการจ่ายของให้คนอื่นไปเลย อยากให้ไปรษณีย์ออกมารับผิดชอบในฐานะผู้กระทำการว่าเขาจะรับผิดชอบอย่างไร เพราะว่ารอมานานแล้ว

ตนรออยู่อย่างนี้ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรถึงจะได้ของ ไม่รู้ว่าต้องรออีกนานแค่ไหน ครั้งต่อไปจะใช้บริการของไปรษณีย์ตนจะไว้ใจได้อีกไหม ส่วนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจหนูก็พอใจ ที่เขาทำตามขั้นตอนของเขา แต่ที่ว่าหนูร้อนใจคือระหว่างเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์และร้านทองก็โยนกันไปมาแบบนี้ ตนจะได้รับค่าเสียหายที่เสียไปจากใคร ก็เลยงง พยายามตามก็บ่ายเบี่ยงตลอด บางครั้งเขาก็โยนให้ไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็บอกว่าส่วนนี้ไม่เกี่ยวกับตำรวจ เพราะมีหน้าที่จับคนร้ายมาดำเนินคดี

พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญสาสน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง กล่าวว่า คดีนี้ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นการสวมรอยมารับของ ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามตัวคนร้าย โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกำลังไล่กล้องวงจรปิด ซึ่งไล่จากจุดเกิดเหตุบางบัวทองเข้าไปจนถึงเขตนครบาล อยู่ระหว่างติดตามไล่ไปจนถึงตัวคนร้าย

นอกจากนี้ยังจะตรวจสอบระบบการติดต่อของคนร้ายที่สั่งให้มารับของ ส่วนเรื่องการขอรับเงินคืนต้องติดต่อที่ทำการไปรษณีย์ ซึ่งผู้เสียหายต้องไปติดต่อที่ไปรษณีย์และเจ้ากน้าที่ดำเนินการ ส่วนเรื่องของการส่งทองจากร้านไปถึงไปรษณีย์และมีคนสั่งการให้ไรเดอร์มารับของนั้นต้องมีคนล่วงรู้รหัสสินค้าถึงเข้าไปติดต่อรับได้ แต่ตนก็ไม่ทราบการตรวจสอบของไปรษณีย์ว่าทำไมคนอื่นถึงรับของได้ อาจมีการหลงเชื่อข้อมูล ซึ่งหลังจากนี้ทางตำรวจจะตรวจสอบว่าคนร้ายมีขั้นตอนยังไงถึงมารับของได้ซึ่งต้องแยกส่วนกัน ตนเข้าใจว่าผู้เสียหายเดือดร้อนเกี่ยวกับเรื่องเงินที่ต้องได้รับการชดใช้เงิน

ต่อมาเวลา 17.00 น. น.ส.รัตนากร ได้เดินทางไปติดต่อที่ไปรษณีย์ สาขาวัดมะเดื่อ เพื่อติดตามความคืบหน้า เปิดเผยว่า วันนี้ไปตามเรื่องที่ไปรษณีย์เจ้าหน้าที่ก็พูดบ่ายเบี่ยง แล้วทางไปรษณีย์ก็ไม่ค่อยให้ความร่วมมือ พูดจาไม่ค่อยสุภาพ พูดดูถูกคนอื่น ไม่ให้ความร่วมมือ แถมยังพูดด้อยค่าคนอื่นด้วย ตนมีความเห็นว่าคำพูดเขา พูดทำนองว่าตนรู้จักกับคนที่ขโมยของ พูดออกมาได้ยังไง เจ้าหน้าที่ไม่ควรจะพูดแบบนี้ ตั้งแต่ขั้นตอนการส่งของ แล้วก็พยายามไปสอบถามเขาเรื่องการส่งของเพื่อจะได้มีหลักฐาน แต่เจ้าหน้าที่ไม่ให้ความร่วมมือแถมพูดจาไม่สุภาพด้วย ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ก็ยังไม่ได้แสดงความรับผิดชอบอะไรยังบ่ายเบี่ยงอยู่ ก็ยังไม่รู้ว่าเรื่องของตนเองจะได้ความรับผิดชอบเมื่อไหร่



ตนก็อยากจะฝากถึงคนที่เอาไปว่าของที่ไม่ใช่ของตัวเองเอามาคืนเถอะ คุณกินอยู่บนความทุกข์ของคนอื่น คนอื่นเขากว่าจะหามาได้ลำบากแค่ไหน ต้องประหยัดเก็บเงินเพราะอยากจะได้ของชิ้นนี้มา อย่าไปกระทำแบบนี้กับใครอีกและขอให้โดนดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

เบื้องต้นผู้เสียหายยังไม่ได้รับคำตอบจากทางสำนักงานไปรษณีย์ สาขาวัดมะเดื่อ ซึ่งพนักงานผู้ดูแลเรื่องจัดส่งพัสดุให้ไปติดต่อสำนักงานใหญ่บริษัทไปรษณีย์ไทยเอง