ข่าวโซเชียล
นายกฯ กลับถึงไทย หลังประชุม UNGA ฉุนสื่อถามปม “ทักษิณ” ลั่น ฟังที่ผมพูด คุณอย่าตีความสิครับ
24 ก.ย. 2566
576 views
เมื่อเวลา 7.30 น. 24 ก.ย.2566 ที่สนามบินสุวรรณภูมิ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางกลับจากการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA ถึงประเทศไทย พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า จากการเดินทาง 4 วัน ต้องขอขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ทุกท่านรวมถึงเลขาธิการ Boi ที่ได้ดำเนินภารกิจจำนวนมาก ได้ร่วมประชุมพบปะกับผู้นำหลายประเทศ กล่าวสุนทรพจน์ 5 ครั้ง และพบองค์กรต่าง ๆ อีก 2 องค์กร บริษัทใหญ่ระดับโลก อาทิ Tesla, Google, Microsoft, Citibank, JP Morgan, Estee Luder โดยทั่วไปบริษัทเหล่านี้มีความสนใจที่จะมาลงทุน หรือลงทุนแล้วตามรูปแบบต่าง ๆ หน้าที่ของผมคือไปประกาศอีกหนหนึ่งว่าประเทศไทยเปิดแล้ว พร้อมและยินดีที่จะให้บริษัทเหล่านี้มาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้พบกับ ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ซึ่งเป็นที่น่าแปลกใจว่าบริษัทดี ๆ หลายแห่งในไทยไม่เคยไปจดทะเบียนที่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเลย ซึ่งตอนนี้ได้เห็นลู่ทางแล้ว หวังว่าปีนี้จะมีสักบริษัทได้เข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก
ขณะที่สหประชาชาติแสดงความเป็นห่วงเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ ที่มีความขัดแย้งแตกแยก และประเด็นสำคัญคือ เรื่องการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนทั้ง 17 ข้อ ซึ่งทุกประเทศให้ความสำคัญ ทั้ง 190 กว่าประเทศมีเป้าหมายเดียวกันคือมุ่งไปสู่การพัฒนาเพื่อความยั่งยืน รวมถึงเรื่องภาวะโลกร้อน ซึ่งเวลานี้กลายเป็นภาวะโลกเดือดแล้ว เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เช่นเดียวกับเรื่องสิทธิมนุษยชน ประเทศใกล้เคียงต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ลี้ภัยสงครามที่อพยพมา
“หนึ่งในจุดมุ่งหมายที่ผมไป คือประกาศจุดยืนว่าเราเป็นประเทศที่มีประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เราจะยึดมั่น ผลักดัน ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปกครองประเทศ”
ทั้งนี้ ยังได้น้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงผ่านปรัชญาอารยเกษตร สะท้อนผ่านนโยบายที่อำนายความสะดวกประชาชนให้เลือกเข้าถึงบริการสาธารณสุขของรัฐบาลได้อย่างสมเกียรติ
นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยว่า สำหรับภารกิจเดินทางไปต่างประเทศครั้งต่อไป คือการร่วมประชุม APEC ณ เมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้นัดหมายกับหลายบริษัท รวมถึงเชื้อเชิญบริษัทในไทยที่ประสงค์จะเปิดประตูทางการค้าด้วย โดยคณะผู้แทนรัฐบาลไทยจะเดินทางล่วงหน้าไปก่อน 2 วัน เพื่อเปิดให้นักธุรกิจไทยไปพบปะกับบริษัทใหญ่ ๆ ของสหรัฐอเมริกา
นอกจากบริษัทด้านเทคโนโลยีที่ตนได้ไปพบปะแล้ว ยังมีบริษัทด้านการเงินที่มีความสำคัญ เพราะบริษัทต่างประเทศ ที่เข้ามาลงทุนในไทยก็ต้องการแรงสนับสนุนในด้านการเงิน
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า นักลงทุนต่างประเทศ แทบไม่มีความกังวลการกลับมาสู่ประชาธิปไตยของประเทศไทย แต่มองไปที่ความสะดวกในการมาทำธุรกิจมากกว่า ซึ่งทางเราก็พร้อมมาก สำหรับการเข้ามาลงทุน และรับฟังความคิดเห็น ส่วนใดที่ต้องแก้ไขในเรื่องข้อกฎหมายหรือระเบียบ ก็จะมาดูความเหมาะสม
นายเศรษฐา ยอมรับว่า หากจะประมาณมูลค่าของตัวเลขที่ต่างชาติจะเข้ามาลงทุนในไทยเป็นเรื่องยาก แต่หากยกตัวอย่างในภาคส่วนอุตสาหกรรมหรือเทคโนโลยี เช่น Tesla หรือ Google คาดว่ามูลค่าเบื้องต้น 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1.7 แสนล้านบาท ส่วนบริษัทด้านการเงิน เชื่อว่าจะทำให้มีการลงทุนที่สูงขึ้นอีกมาก เพราะมีโอกาสนำตัวเลยทางเศรษฐกิจที่เจริญเติบโต หรือความน่าอยู่ของประเทศไทย ไปเชื้อเชิญบริษัทอื่น ๆ ให้เข้ามาอีกเยอะ
โดยในการเดินทางไปประชุม APEC ครั้งถัดไป ได้หารือกับเลขาฯ Boi ว่าอาจเชิญบริษัทที่มีขนาดกลางไปเสนอตัวกับต่างชาติ เพื่อให้เกิดการลงทุนระหว่างกันทั้งสองฝ่าย เป็นช่องทางในการสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนทุกคน
นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้พบปะกับผู้แทนของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า เพื่อพูดคุยถึงกลุ่มประเทศในภูมิภาคอาเซียน ที่จะมาเป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดแข่งขันฟุตบอลโลก หรือ ฟีฟ่า เวิร์ลคัพ ปี 2032 หรืออีก 9 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นแผนการที่ไม่ง่าย
อย่างไรก็ตาม ไทยต้องการความสนับสนุนจากฟีฟ่าในเรื่องของฟุตบอลรากหญ้า จากเดิมที่เคยสนับสนุนไทยปีละ 2.5 แสนเหรียญ เป็น 2 ล้านเหรียญ พร้อมกันนี้ยังคาดหวังให้พัฒนาเด็ก และเยาวชนให้ถึงจุดที่ควรจะเป็น
นายเศรษฐา ทวีสิน ยังกล่าวถึงการใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท จะมีการขยายพื้นที่จากรัศมี 4 กิโลเมตร ไปเป็นอำเภอหรือจังหวัดหรือไม่ ว่า ตนเพิ่งกลับจากภารกิจต่างประเทศ เดี๋ยวคงมีการรายงานมา แต่ยอมรับมีข้อเป็นห่วงที่ประชาชนกังวล ก็ต้องนำพิจารณา
ส่วนจะปรับรัศมีตามที่ประชาชนร้องขอให้ขยายไปในอำเภอหรือจังหวัดนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากจะปรับเป็นจังหวัดจะกระจุกตัวอยู่เพียงในอำเภอเมือง อยากให้อำเภอที่กันดารมีโอกาสได้แจ้งเกิดบ้าง ซึ่งคณะกรรมการกำลังพิจารณากันอยู่ ขออย่ากังวล พร้อมย้ำว่า นายกรัฐมนตรี ไม่เคยกังวลกับโครงการนี้ รวมถึงไม่ปัญหาเรื่องงบประมาณที่นำมาใช้
นายเศรษฐา ทวีสิน กล่าวยืนยันว่า ไม่ได้ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวบลูมเบิร์กของสหรัฐฯ ว่า จะตั้งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นที่ปรึกษา หากมีเรื่องอะไร จะปรึกษาก็ปรึกษาได้ เหมือนกับตนปรึกษาข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่หลายท่านที่เกษียณไปแล้ว อดีตนายกรัฐมนตรีตนก็เข้าไปกราบหลายคน ทั้งนายอานันท์ ปัญญารชุน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ตนเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งแรกและเพิ่งเข้าสู่วงการการเมือง ใครมีความรู้ความสามารถที่ดี ตนก็พร้อมที่จะปรึกษา ตนก็พูดแค่นั้น และในบลูมเบแค่ก็แปลแค่นั้น อย่าไปตีความกว้างกว่านั้นเลย เรื่องพวกนี้จะทำให้เกิดประเด็นโดยใช่เหตุ
ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ประเด็นนี้ถูกตีความในวงกว้าง นายเศรษฐา ตอบด้วยน้ำเสียง มีอารมณ์ฉุนเฉียว ว่า “คุณตีความ คุณอย่าตีความสิครับ คุณฟังที่ผมพูดสิครับ นะครับ เรื่องอื่นมีอะไรหรือไม่ สวัสดีครับ”
ก่อนนายกรัฐมนตรีจะชักสีหน้า และเดินออกจากวงสัมภาษณ์ ขึ้นรถเดินทางกลับทันที
แท็กที่เกี่ยวข้อง