เจ้าของโรงงานน้ำปลาร้า โต้กลับทั้งน้ำตา หลังแม่ค้าออนไลน์ดังไลฟ์แจง ไม่ได้ติดหนี้ใคร

ผู้เสียหายโรงงานผลิตสินค้าพลาสติก ถูกแม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง สั่งผลิตกล่องอาหารทรงเหลี่ยมมูลค่ากว่าล้านบาท แต่กลับถูกแม่ค้าคนดังเบี้ยวยังไม่ชำระ ทวงถามคนใกล้ชิดไปส่งแค่สติกเกอร์ไลน์กลับมา ไม่ก็บอกว่านายทราบแล้ว ขณะที่เคสก่อนหน้า เรื่องโรงงานน้ำปลาร้า พิมรี่พายไลฟ์สดแจงเมื่อคืนไม่ได้ติดหนี้ใคร


วานนี้ (วันที่ 5 ก.ค.) ทีมข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ มีกระแสข่าวว่า เจ้าของโรงงานน้ำปลาร้าแห่งหนึ่ง ลงทุนสร้างโรงงานผลิตน้ำปลาร้าให้แม่ค้าออนไลน์คนดัง แต่พอส่งของให้ แม่ค้าคนดังกลับไม่จ่ายเงิน พอทวงถามไปก็กลับโดนต่อว่า ก่อนที่จะถูกยกเลิกออเดอร์ไป จนทำให้เสียหายอย่างหนัก

เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา คุณพิมรี่พาย ออกมาไลฟ์สดชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า ทำธุรกิจเข้าปีที่ 4 แล้ว หากไม่มีสัจจะ ไม่สามารถอยู่ได้ และมีลูกค้าขนาดนี้ ขอฝากทุกคนว่าอย่าเชื่อง่าย ทุกคนมีประสบการณ์ มีความรู้ มีวิจารณญาณ

ถ้าไม่มีคุณภาพ ของไม่ดี ตามมาตรฐานที่เราตั้งเอาไว้ ไม่ปล่อยออกสู่ตลาด และเราไม่ทำ สิ่งใดที่เป็นข้อครหา ทำให้ลูกค้าไม่ไว้ใจ เราไม่ทำ เช่นเดียวกัน น้ำปลาร้า ไม่มีคุณภาพ ไม่ได้มาตรฐานตามที่แบรนด์ตั้งใจไว้ ตนไม่ทำ ไม่สั่งผลิต

แต่ลูกค้าก็จะสงสัยว่ามีคนมาทวงเงินจริงไหม คำตอบคือ ตนไม่ได้เป็นหนี้เขา เขามาเสนอของคุณภาพมาตรฐานที่เราตั้งไว้ไม่ผ่าน เราก็ไม่ทำ เท่านั้นเลย

ตนทำแบรนด์ขนาดนี้ จะปล่อยให้สินค้าไม่ได้คุณภาพออกสู่ตลาดได้อย่างไร ตนก็ไม่ปล่อย ถามว่ามีหลักฐานไหม หลักฐานมีเยอะมาก แต่เป็นเรื่องของการทำธุรกิจ หลักฐานที่ต้องไปสู้ในชั้นศาล

ต่อมาทีมข่าวพยายามติดต่อไปสอบถาม คุณกบ เจ้าของโรงงานน้ำปลาร้า ขณะนี้ยังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ ซึ่งทีมข่าวพยายามสอบถามเกี่ยวกับเรื่องที่แม่ค้าออนไลน์ออกมาชี้แจง ซึ่งเจ้าตัว บอกว่ามีหลายประเด็นที่พูดมาแล้วมันไม่ใช่

อย่างแชทที่นำมาเปิดเผย เป็นแชทตั้งแต่ปี 64 ก่อนการเปิดใบสั่งซื้อ ก่อนการปรับสูตรน้ำปลาร้า ส่วนที่มีการระบุว่า สินค้าไม่มีคุณภาพ ยืนยันว่า มีอุปกรณ์วัดต่างๆ ตามมาตรฐาน


คุณกบ บอกว่า ตนมีอุปกรณ์วัดค่าต่อหน้าเขาเลย ทั้งค่าความเค็ม ค่าต่างๆ  มันมีมาตรฐาน โดยมีการไปหาอยู่หลายครั้ง จนในที่สุดได้สูตรที่ถูกใจ จึงอยากถามกลับว่าถ้าของไม่มีคุณภาพแล้วทำไมถึงเปิดใบสั่งซื้อกว่า 1,000,000 ขวด และทำไมจึงไม่เอาน้ำปลาร้าของตนกลับมาเคลมสินค้า  


เมื่อพอได้ฟังไลฟ์สด ยอมรับว่า ตนรอเวลาตั้งแต่ ปี 64 ให้เขามาเคลียร์ ไม่ได้อยากมีปัญหากับเขา หลังเป็นข่าวก็ไม่ได้พยามติดต่อมาที่ตนเองเลย


คุณกบ เผยว่า ได้รู้จักกับพิมรี่พายผ่านทางโรงงานปลาร้าอีกเจ้า เมื่อเดือน ก.พ.64 ก่อนจะนัดเจอกันกับพิมรี่พายที่กรุงเทพฯ และพิมรี่พายต้องการให้ตนผลิตน้ำปลาร้าทั้งหมด 10 ล้านขวด ตกวันละ 5 แสนขวด


ซึ่งตนบอกไปว่าไม่มีใครทำได้หรอก เพราะตัวเองก็มีโรงงานผลิตให้กับแบรนด์อื่นอยู่แล้ว แต่พิมรี่พาย ก็โน้มน้าวให้ตนเองหยุดผลิตแบรนด์อื่น แล้วมารับจ้างผลิตให้พิมรี่พายเพียงคนเดียว พร้อมวางแผนและสร้างโรงงานขึ้นมาโดยเฉพาะ

กระทั่งวันที่ 19 พ.ค.64 เริ่มเปิดบิล ผลิตน้ำปลาร้า 1 ล้านขวดแรก ส่งมอบวันถัดมา 30,000 ขวด เป็นเงิน 417,300 บาท โดยตกลงจ่ายเงินทุกๆ วันจันทร์ แต่ก็ไม่เคยจ่ายให้ ตนก็พยายามแจ้งว่ามีภาระต้องจ่ายค่าวัตถุดิบ ทั้งผงชูรสและน้ำตาล เมื่อสอบถามไปยังโรงงานอื่นอีก 3 แห่งที่รับผลิตสินค้าให้พิมรี่พาย ก็ทราบว่าไม่ได้รับการจ่ายเงินเช่นกัน พอตนติดต่อพิมรี่พายกลับไปอีกครั้งเพื่อขอให้เข้าใจถึงภาระตนเอง ก็ถูกด่าและยกเลิกออเดอร์ทั้งหมด

นางกบ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ขวดน้ำปลาร้าที่ผลิตขึ้นมา ติดแบรนด์แม่อีพิมไปแล้ว ทำให้ไปขายต่อกับเจ้าอื่นไม่ได้ ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นยังมีค่าก่อสร้างโรงงานอีก 5 ล้านบาท อีกทั้งตนยังให้ลูกเลิกขายของส่งในตลาดเพื่อมาดูแลโรงงานดังกล่าว และที่ผ่านมาไม่มีรายได้ไปฟ้องร้อง เพราะนำโฉนดที่ดินไปจำนองและถูกยึด ประกอบกับกระแสของพิมรี่พายดีมาก จึงทำได้เพียงแค่นั่งมอง ยังคงยืนยันว่าต้องการจะฟ้องร้อง และหลังเกิดเรื่อง ฝ่ายพิมรี่พายก็ไม่เคยติดต่อเข้ามาชี้แจง

โดยหลังจากที่เมื่อวันที่ 4 ก.ค.แม่ค้าออนไลน์คนดังได้ไลฟ์สดชี้แจง คุณอาณัติ กรรมการผู้จัดการของโรงงานผลิตสินค้าพลาสติก ร้องเรียนมายังทีมข่าวว่า ถูกแม่ค้าออนไลน์คนดัง สั่งชุดกล่องอาหารทรงเหลี่ยม สกรีนลายหมีแบรนด์ของแม่ค้ารายนี้ รวมทั้งสิ้น 2 หมื่น 5,008 ชุด มูลค่ากว่า 1 ล้าน 6 แสนบาท

โดยแม่ค้าออนไลน์คนดัง เข้ามาที่โรงงาน และดูตัวอย่างชุดกล่องอาหารเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว โดยทางโรงงาน แบ่งการจัดส่งเป็น 2 ล๊อต คือ วันที่ 16 และ 28 กันยายนปี 65 ซึ่งมีเอกสารวางบิล และเอกสารใบสั่งซื้อถูกต้อง ด้วยความที่แม่ค้ารายนี้ มีชื่อเสียง เป็นคนดัง ทำให้ทางโรงงานให้เครดิตการชำระยอดรวม 1 ล้าน 6 แสนกว่าบาท ภายใน 60 วัน ก็คือต้องชำระภายในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว แต่ปรากฏว่าทางแม่ค้าออนไลน์ก็เงียบหายไป

ตนเองจึงได้มีการทวงถามไปยังคนใกล้ชิดของแม่ค้าออนไลน์ ก็ได้แต่ตอบเป็นสติกเกอร์ LINE มา หรือไม่ก็ตอบเป็นข้อความว่าขณะนี้นายทราบแล้ว แต่ก็ยังไม่มีการชำระยอดเงิน ซึ่งได้มีการพยายามทวงถามไปหลายครั้ง แต่ไม่เป็นผล

จนเวลาล่วงเลยมาหลายเดือน จึงตัดสินใจ ส่งหนังสือทวงถาม แจ้งหนี้ค้างชำระ ไปเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 66 โดยระบุว่าให้ชำระยอดเงินกว่า 1 ล้าน 6 แสน บาทภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 66

ปรากฎว่า ในวันที่ 16 และ 17 พฤษภาคม 66 ทางแม่ค้าออนไลน์ ได้ชำระยอดเงินเข้ามารวม 200,000 บาท แต่ยังคงค้างยอดอยู่อีก 1 ล้าน 4 แสนบาท


ส่วนตัวไม่อยากจะมีปัญหา แต่มองว่าทางโรงงานได้พยายามติดต่อและทวงถามไปหลายครั้งแล้ว หากมีปัญหาอะไรหรือติดขัดตรงไหน ก็ควรจะแจ้ง หรือมาพูดคุยกันมากกว่า และหลังจากนี้ทางบริษัทก็อาจจะจำเป็นต้องดำเนินการฟ้องร้องตามขั้นตอนของกฎหมาย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/-ejvHHkaME4