ข่าวโซเชียล

'อ.เจษฎา' โพสต์เตือน! เห็นผมชี้ตั้งอย่าหัวเราะ ชี้เป็นสัญญาณอันตรายของฟ้าผ่า รีบหาที่หลบด่วน

โดย petchpawee_k

14 มี.ค. 2566

390 views

วานนี้ (วันที่ 13 มี.ค.) ทีมข่าวรายงานว่า ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @gnuman1979 โพสต์คลิปวิดีโอ พร้อมระบุว่า "Run!!!! Danger danger! (วิ่ง!!! อันตราย อันตราย)" ถูกโพสต์เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา

โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวเวียดนามกลุ่มหนึ่ง กำลังสนุกสนาน ยิ้มร่าเริง และหัวเราะ เมื่อเห็นผมของตนเอง ตั้งชี้ขึ้นฟ้า ขณะกำลังชมวิวกลางเรือสำราญที่แล่นในมหาสมุทร หลายคนยังหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกภาพ

คลิปดังกล่าวได้รับความนิยมมียอดวิวแล้ว 12.1 ล้านครั้ง โดยมีผู้รู้ออกมาเตือนว่าเหตุการณ์ขนลุกและผมตั้งชี้ขึ้นกลางอากาศนี้ เพราะมีการปลดปล่อยประจุไฟฟ้าที่เกิดจากการเสียดสีของละอองน้ำในก้อนเมฆ ทำให้เกิดประจุแตกตัวหรือเกิดไฟฟ้าสถิตและอาการเหล่านั้นหมายความว่า ประจุไฟฟ้ากำลังสะสมอยู่บนตัว ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดฟ้าผ่าในเวลาอันใกล้ นั่นคือสัญญาณเตือนให้รีบหนีโดยด่วน

ซึ่งก่อนหน้านี้ มีเหตุการณ์สาวรายหนึ่ง กำลังเดินเล่นกับน้องแมว อยู่ดี ๆ ผมเธอเกิดตั้งขึ้นมา และเธอต้องวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอด เพียง 5 นาที ฟ้าก็ผ่าลงตรงจุดที่เธอเพิ่งถ่ายรูปไป


ขณะที่เพจ อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง byอาจารย์ เจษฎา โพสต์เฟซบุ๊ก ให้ความข้อมูลว่า “การที่ผมตั้ง มันคือ สัญญาณของฟ้าผ่า”


“เวลาที่จะเกิดฟ้าผ่า อาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของประจุไฟฟ้าบริเวณเหนือพื้นดิน และทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตแบบที่เรารู้สึกได้ เช่น ขนลุกชัน ผมตั้งชัน ได้ คำแนะนำคือ ให้หาที่หลบที่ปลอดภัย เช่นหลบเข้าในอาคาร เข้าไปในรถยนต์ (แล้วห้ามแตะตัวถังที่เป็นโลหะ)”


หากอยู่ในที่โล่งและหนีไม่ทันควรทำอย่างไร “หากอยู่กลางที่โล่งแจ้ง ไม่มีที่หลบ ให้พยายามขดตัวให้เล็กที่สุด โดยทำท่านั่งหลบภัยนั่งยอง ๆ ย่อตัวลงต่ำกว่าสิ่งรอบตัวให้มากที่สุด พร้อมทั้งควรจะต้องพยายามสัมผัสพื้นให้น้อยที่สุด และให้เกิดจุดห่างระหว่างอวัยวะที่สัมผัสพื้น 2 จุดให้น้อยที่สุด อาจคู้เข่าและเขย่งเท้าเล็กน้อยเพื่อลดพื้นที่สัมผัสพื้น จากนั้นก้มศีรษะนำมือปิดหูเพื่อป้องกันเสียงดังจากฟ้าผ่า”


“ตามสมมติฐานที่เชื่อกัน เวลาถูกฟ้าผ่าเนี่ย อันตรายที่ได้รับจริงๆ มักจะเป็นกระแสไฟที่วิ่งตามพื้นมาจากจุดที่ฟ้าผ่าลงมา ไหลเข้ามาที่ตัวเรา ทีนี้อันตรายจะเกิดขึ้นมากหรือน้อย จะขึ้นกับ แรงดันไฟฟ้าช่วงก้าว (step voltage) ซึ่งเป็นความต่างศักย์ที่ตกคร่อมระหว่างจุด 2 จุดของร่างกาย ถ้ายิ่งทั้งจุด 2 จุดนี้อยู่ห่างกันมากเท่าไร (เช่น เราก้าวเท้ายาว ยืนบนพื้น โดยที่เท้าทั้งสองแยกห่างจากกัน) โอกาสที่จะเกิดแรงดันไฟฟ้าช่วงก้าว ก็จะมากตามไปด้วย ส่งผลให้กระแสที่ไหลมาตามพื้นเข้าสู่ตัวเรามากขึ้น” 



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/sNy5VAd4IHc

คุณอาจสนใจ

Related News