"แพรรี่" เบะปากแรง โพสต์โต้ผู้ศรัทธาครูบาไก่ บอกถ้านำเสนอข้อเท็จจริงคือการใส่ร้าย ก็จนใจจะแย้ง

จากกระแสดรามา “ครูบาไก่” ที่ร้อนแรงในปัจจุบัน ทั้งกรณีภาพลับ รวมทั้ง "แพรรี่" ไพรวัลย์ วรรณบุตร โพสต์ ถึงประเด็น ที่ "ครูบาไก่" อ้างว่าขุดพบพระพุทธรูปและวัตถุ ซึ่งเธอตั้งข้อสงสัยว่า เข้าข่ายอวดอุตริ หลอกลวงหรือไม่ ซึ่งทำให้ชาวบ้าน และลูกศิษย์ที่เคารพครูบาไก่ ออกมา เรียกร้องให้เลิกวิจารณ์ในทางเสียหาย พร้อมขอร้องให้หยุดใส่ร้าย


ด้าน "แพรรี่" ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ดิฉันไปใส่ร้ายพระไก่ยังไงคะคุณป้า ใส่ร้ายว่า ท่านเล่นบานานาโบต ขี่เจ็ทสกีซ้อนท้ายผู้ชายแบบนี้หรอคะ ใส่ร้ายว่า พระพุทธรูปที่ท่านไปขุดมาเป็นของเก๊ แบบนี้หรอคะ ถ้าการนำเสนอข้อเท็จจริงหรือการตั้งข้อสงสัยคือการใส่ร้าย ดิฉันก็จนปัญญาที่จะโต้แย้งกับคุณป้านะคะ


ดิฉันอยู่กับพระศาสนามานาน ดิฉันเข้าใจดีว่า ความศรัทธาเลื่อมใสส่วนตัวที่ฆราวาสมีต่อพระที่ตนเองนับถือเป็นยังไง ไม่อย่างนั้น จะมีชาวพุทธบางกลุ่ม ร้องไห้ขอให้พระที่ฉันบวบกลับไปเป็นเจ้าอาวาสเหมือนเดิมหรอคะ


แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม โดยที่สุดแล้ว คุณป้าต้องแยกแยะนะคะ ความเชื่อกับความจริง อาจไม่ใช่สิ่งเดียวกัน ความศรัทธากับความถูกต้องเป็นคนละเรื่อง คือความศรัทธาอาจเป็นสิทธิส่วนบุคคลได้ แต่ความถูกต้องเป็นเรื่องของพระศาสนาโดยรวมค่ะ


ถ้าเราบอกว่าเราเป็นพุทธศาสนิกชน เราต้องปกป้องความถูกต้องสิคะ ไม่ใช่ปกป้องความถูกใจ ซึ่งมักตั้งอยู่บนพื้นฐานของความอคติ คือลำเอียงด้วยรักและลำเอียงด้วยหลง


ที่สำคัญเลยนะคะคุณป้า ความจริงหรือความถูกต้องที่ดิฉันเอ่ยถึง ไม่ว่าคุณป้าหรือดิฉัน หรือใครก็ตาม ไม่มีสิทธิ์ปกปิดมันค่ะ ไม่มีสิทธิ์เปลี่ยนแปลงหรือบิดเบือนให้มันกลายเป็นอื่นไปได้ (เอ่อ รวมไปถึง ไม่มีสิทธิ์ห้ามไม่ให้ใครพูดด้วยนะคะ)


สนิมย่อมเกิดแต่เนื้อในตนนะคะคุณป้า คนเสียคนก็เพราะพฤติกรรมเจ้าของ พระพุทธเจ้าท่านสอนไว้ชัดเลย พระไก่จะเป็นพระไม่เป็นพระ สิ่งที่พระไก่ทำจะถูกหรือผิด นั่นเป็นเพราะตัวของพระไก่เองค่ะ สิ่งที่ดิฉันนำเสนอต่อสังคม หรือความศรัทธาอันมากล้นของคุณป้า ไม่มีอำนาจเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงอันนี้ได้


ขอให้คุณป้าเข้าใจเสียใหม่นะคะ จบ


และต่อมา เธอ ได้โพสต์อีกข้อความระบุว่า "เมื่อมีคนบอกว่าคุณใส่ร้ายพระ...." พร้อมแนบภาพเบะปาก