ทปอ.เร่งหามือดี ปล่อยข้อสอบ GAT-PAT โผล่ว่อนแอป คาดถูกถ่ายจากอุปกรณ์ที่ไม่ใช่มือถือ

เพจ Dek-D’s TCAS สอบติดไปด้วยกัน เผยว่า มีบุคคลหนึ่งแจ้งเข้ามายังเพจ พบข้อสอบ GAT- PAT (ปี 2565) รั่วไหลแชร์ว่อนบนโลกออนไลน์ โดยทางเพจได้แนะนำให้แจ้งทาง ทปอ. ขณะเดียวกันเพจได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมด พร้อมกับส่งให้ทาง ทปอ. ด้วยเช่นกัน ทางเพจจึงนำมาแชร์พร้อมอธิบายรายละเอียดว่า

"ภาพข้อสอบ 7 ข้อที่ถูกส่งดังกล่าวได้รับการยืนยันจากผู้เข้าสอบว่าเป็นข้อสอบ PAT1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์ และ PAT2 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ ที่ใช้สอบจริงในวันที่ 12-13 มี.ค.65 โดยบางภาพมีการถ่ายติด LOGO ของหน่วยงานที่จัดสอบในปีนี้ด้วย

พบมีการส่งภาพข้อสอบ PAT1 และ PAT2 รวมจำนวน 7 ข้อ ลงใน App เพื่อถามคำตอบในระหว่างสอบ โดยวิชา PAT1 มีการส่งถามในวันที่ 12 มี.ค.65 ตั้งแต่เวลา 15.06-15.09 น. และวิชา PAT2 มีการส่งถามในวันที่ 13 มี.ค.65 ตั้งแต่เวลา 10.49-10.57 น.

ทั้งนี้ผู้ที่พบเห็นได้แจ้งไปยังผู้ดูแล App ดังกล่าว พร้อมส่งข้อมูลไปยัง ทปอ.เพื่อตรวจสอบแล้ว เบื้องต้นกฏระเบียบการสอบ GATPAT จะไม่อนุญาตให้ผู้เข้าสอบนำโทรศัพท์เข้าห้องสอบ และผู้เข้าสอบต้องปิดโทรศัพท์มือถือตลอดเวลาในการเข้าสอบ”

ชาวเน็ตต่างวิพากษ์วิจารณ์มากมาย สำหรับปล่อยให้ข้อสอบรั่วออกมาได้อย่างไร บางคนถึงกับตั้งคำถามว่า เมื่อข้อสอบรั่วออกมา แล้วจะมีการสอบใหม่ทั้งหมดหรือไม่

ล่าสุด (13 มี.ค.65) รศ.ดร.ชาลี เจริญลาภนพรัตน์ ผู้จัดการระบบสอบการคัดเลือกกลางบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา หรือทีแคส ของที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เปิดเผยภายหลังเข้าแจ้งความที่ สภ.คลองหลวง จ.ปุทมธานี

กรณีตรวจสอบพบการรั่วไหลของภาพข้อสอบวิชา PAT1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์ ซึ่งสอบวันที่ 12 มีนาคม เวลา 13.00-16.00 น.และภาพข้อสอบวิชา PAT2 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ สอบวันที่ 13 มีนาคม เวลา 08.30-11.30 น.

รศ.ดร.ชาลี กล่าวว่า ทราบข้อมูลจากเว็บไซต์หนึ่งที่ระบุว่ามีการนำภาพข้อสอบ GAT และ PAT ที่อยู่ระหว่างการสอบ ไปเผยแพร่ในแอพพลิเคชั่นหนึ่ง หลังจากทราบเรื่องแล้ว จึงนำหลักฐานไปแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพราะการกระทำนี้ เป็นการทุจริตสอบ ซึ่งอาจจะไม่ผิดกฎหมาย แต่ผิดระเบียบการจัดสอบ และเป็นการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และลิขสิทธิ์ข้อสอบของ ทปอ.ซึ่งกระทบถึงความเชื่อมั่น และมาตรการคุมสอบของการสอบ GAT และ PAT ต่อไป

เบื้องต้นพบว่ามีร่องรอยของการกระทำอยู่ เช่น จากรูปข้อสอบที่ถูกถ่าย และเผยแพร่ออกไป พอจะบอกได้ว่าอยู่ที่สนามสอบไหน ลักษณะภาพที่ได้มาก็พอจะบอกได้ว่าใช้แอพพลิเคชั่นไหนแชร์ โดย ทปอ.จะสืบกลับไปยังร่องรอยทางดิจิทัล เพื่อหาตัวการมาลงโทษซึ่งทปอ.ยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อหาคนที่ทุจริตออกมาให้ได้ และทปอ.ได้กำชับให้ทุกสนามสอบดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียด และเคร่งครัด

รศ.ดร.ชาลี กล่าวอีกว่า “จากภาพที่เห็น มองว่ามุมกล้องที่ถ่ายนั้น ไม่น่าจะมาจากโทรศัพท์มือถือ อาจจะใช้วิธีการถ่ายรูปด้วยอุปกรณ์อื่น แม้ข้อสอบจะหลุดระหว่างการสอบ แต่มีความเป็นไปได้ว่าคนโพสต์อาจไม่ได้อยู่ในห้องสอบ เพราะถ้ารูปออกไปจากห้องสอบได้ แสดงว่ารูปอาจจะถูกส่งผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือผ่านแพลตฟร์อมต่างๆ อย่างไรก็ตาม ทปอ.จะรีบดำเนินการให้เร็วที่สุด คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะได้คำตอบ”

ด้าน ดร.พีระพงศ์ ตริยเจริญ ผู้จัดการระบบทีแคส กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าข้อสอบนี้รั่วจากที่ใด อย่างไรก็ตาม ทปอ.ได้แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.คลองหลวง เรียบร้อยแล้ว เพราะการนำข้อสอบไปเปิดเผยสู่ภายนอก ถือเป็นการทำผิดกติกา ผิดลิขสิทธิ์ของ ทปอ.ส่วนจะมีวิธีการใดที่ทำให้ข้อสอบรั่วออกไปบ้างนั้น มองว่าปัจจุบันมีอุปกรณ์ไฮเทคที่มีความหลากหลาย เช่น ปากกา หรือแว่นตา ที่สามารถซ่อนกล้องได้ เป็นต้น

ทั้งนี้ พบว่าข้อสอบที่รั่วนั้น หลุดออกมาระหว่างการสอบ ไม่ใช่สอบเสร็จแล้ว มีการแชร์ หรือเอามาโพสต์ในแอพพลิเคชั่นดังกล่าว ดังนั้น คาดว่าอาจจะมีการนำโทรศัพท์มือถือเข้าไปถ่ายรูป และโพสต์ถามคำตอบระหว่างการสอบ

ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำไปยังศูนย์สอบ และกรรมการคุมสอบทั่วประเทศ ว่าในการสอบ PAT3 ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์ PAT4 ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ ในวันที่ 14 มีนาคมนี้ และการสอบ PAT6 ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์ และ PAT7 ความถนัดทางภาษา ในวันที่ 15 มีนาคมนี้ ต้องตรวจสอบอย่างเคร่งครัด

เพราะทราบว่ามีบางสนามสอบที่ครูผู้คุมสอบไม่ตรวจสอบอะไรเลย บางสนามสอบปล่อยให้เด็กนำนาฬิกาดิจิทัลเข้าห้องสอบได้ ซึ่งตามระเบียบแล้ว ทปอ.ไม่อนุญาตให้นำเข้าห้องสอบ ผมคาดว่าเราต้องยกระดับคุณภาพผู้คุมสอบใหม่ทั้งหมด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้อีก

อย่างไรก็ตาม หากตรวจสอบพบว่าข้อสอบนี้รั่วจากที่ไหน ผู้คุมสอบจะมีความผิด ต้องถูกสอบวินัย เพราะปล่อยให้มีข้อสอบรั่วออกไป ส่วนจะสามารถตรวจสอบได้หรือไม่ว่าคนโพสต์เป็นใคร ยังบอกไม่ได้ เพราะ ทปอ.เพิ่งได้ข้อมูลมา และเรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการสืบสวน ดังนั้น จะยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้มากนัก และขณะนี้ ทปอ.เองยังได้ข้อมูลมาไม่ครบถ้วน แต่ถ้าพบผู้โพสต์แล้ว จะดำเนินการตามระเบียบที่กำหนดไว้ทันที