บริษัททำประกันโควิดให้ หนุ่มติดเชื้อรับ 1 แสน แต่โดนยึดเงินเป็นกองกลาง ไม่แจ้งให้ทราบ

วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความของพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งทำนองว่า “ถ้าบริษัทรักเรา เราก็จะรักบริษัท แต่ถ้าบริษัทไม่รักเรา เราจำเป็นต้องรักป่ะ บริษัทที่เราทำงานนะไม่ใช่บริษัทประกันติดโควิดกูก่อติดเองแต่เงินต้องเอาให้บริษัท ถือว่าทำบุญครั้งยิ่งใหญ่ ยอมเซ็นให้มันจบ ๆ เบื่อล่ะ ที่ยังอยู่เห็นแก่งานเห็นแก่เงินเดือนเท่านั้นโว้ย”

พร้อมโพสต์เช็คสั่งจ่ายเงินจำนวน 100,000 บาท ซึ่งเช็คดังกล่าวระบุชื่อ-นามสกุล พนักงานผู้รับเงิน ว่าได้รับเช็คสินไหมทดแทนกรณีติดเชื้อโควิด-19 ของบริษัท....ลงวันที่ 14 กรกฎาคม 2564 จำนวนเงิน 100,000 บาท เรียบร้อยแล้วโดยข้าพเจ้ายินยอมโอนเงินค่าสินไหมทดแทน กรณีติดเชื้อโควิด-19 คืนให้แก่บริษัท.....จำนวน 100,000 บาท ตามวัตถุประสงค์ของบริษัท

ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังคุณโอ๋ อายุ 25 ปี พนักงานคนดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนเองทำงานบริษัทเกี่ยวกับอุปกรณ์ทางการแพทย์แห่งหนึ่งที่ จ.เชียงใหม่ โดยเมื่อเดือน เม.ย. ปี 2564 เริ่มทำงานได้ 2-3  เดือน ต่อมาตนติดเชื้อโควิด-19 เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสนามใน จ.เชียงใหม่ และมาทราบว่าทางบริษัททำประกันโควิดให้กับพนักงานแต่ไม่ทราบรายละเอียดอะไรมาก

หลังจากที่ตนหายป่วยโควิดก็ส่งหลักฐานต่างๆ และผลตรวจจากแล็บของโรงพยาบาลให้กับบริษัท ซึ่งตนเองก็ติดตามความคืบหน้าเคลมประกันมาโดยตลอด ทางฝ่ายบุคคลก็แจ้งว่าหากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบ ถามกี่ครั้งก็ตอบแบบนี้เรื่อยๆ ผ่านมาจนถึงปี 2565 ก็ยังไม่ได้เงินประกัน 100,000 บาท ตามที่ทางบริษัทได้แจ้งไว้ว่าทำประกันโควิด-19 ให้พนักงาน เป็นสวัสดิการ

ทั้งนี้พบว่าบริษัทประกันได้สั่งจ่ายเช็คเป็นเงิน 100,000 บาท เป็นชื่อของตน ให้กับบริษัทที่ตนเองทำงานอยู่ตั้งแต่กรกฎาคม ปี 2564 ทาง โดยทางบริษัทประกันแจ้งผ่านอีเมลมาว่าออกเช็คให้แล้วให้ตนเองไปติดต่อกับฝ่ายบุคคล ตนพยายามสอบถามฝ่ายบุคคล แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนว่าจะได้รับเงินจำนวนนี้หรือไม่

กระทั่งฝ่ายบุคคลแจ้งว่าเงินประกันโควิดของพนักงาน จะต้องจ่ายให้กับบริษัททั้งหมดเพื่อรวมเป็นเงินกองกลาง หากพนักงานคนใดมีค่าใช้จ่ายเกิน จากการรักษาโควิด สามารถเบิกเงินกองกลางไปจ่ายได้ แต่หลายคนติดโควิดรักษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ตนคาดว่าทางบริษัทเปลี่ยนเงื่อนไขจ่ายเงินประกันโควิดให้กับพนักงานหรือไม่ โดยที่พนักงานไม่ทราบ และบริษัทก็ไม่เคยแจ้งเงื่อนไขนี้ให้ทราบมาก่อน

คุณโอ๋ เผยต่อว่า ตนได้รับเอกสารเช็ค จากบริษัทซึ่งส่งให้ทางอีเมล ให้ตนเซ็นยินยอมโอนเงินค่าสินไหมทดแทน กรณีติดเชื้อโควิด-19 คืนให้แก่บริษัท หากเซ็นยินยอมแล้วให้ส่งกลับทางอีเมล โดยรอบแรกตนเองไม่ยอมเซ็นมองว่าไม่เป็นธรรมต่อพนักงาน ฝ่ายบุคคลก็โทรมาทวง ตนจึงอธิบายและขอทราบรายละเอียด เงื่อนไขดังกล่าว ฝ่ายบุคคลแจ้งเพียงว่าได้เปลี่ยนฝ่ายบุคคลชุดใหม่และได้ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขใหม่

เมื่อวานนี้ (15 ก.พ.) ได้รับอีเมลจากบริษัทอีกครั้งให้เซ็นยินยอมโอนเงินค่าสินไหมทดแทน จึงตัดสินใจเซ็นเอกสารเพราะเบื่อกับเรื่องนี้แล้ว คิดว่าไม่น่าจะได้เงินแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ส่งเอกสารให้กับบริษัท อีกทั้งบริษัทก็ไม่ได้ส่งเอกสารเงื่อนไขใดๆ มาให้ดู ที่ผ่านมาบริษัทโทรมาขู่จะให้ทนายโทรมาคุยเรื่องที่ไม่ยอมเซ็น ตนก็กลัวเพราะไม่มีเงินไปจ้างทนายมาสู้คดี

ขณะที่พนักงานหลายคนติดโควิด ทางบริษัทประกันโอนเงินเข้าบัญชีให้พนักงาน แต่บริษัทก็ทวงเงินคืนจากพนักงานบางคนเซ็นยินยอมโอนเงินคืนให้บริษัทแล้วก็ลาออก บางคนไม่ยอมเซ็น บางคนนำเงินไปใช้จ่ายหมดแล้วพอบริษัททวงเงินคืนก็ต้องหาเงินมาจ่ายหรือยอมให้หักเงินเดือน

ผู้สื่อข่าวสอบถามชื่อบริษัทที่คุณโอ๋ ทำงานอยู่ เพื่อติดต่อสอบถามข้อเท็จจริง เจ้าตัวบอกว่ากลัวเป็นเรื่องใหญ่ยังไม่อยากบอกชื่อบริษัท หรือให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ เนื่องจากตนเองยังทำงานอยู่บริษัทดังกล่าว หวั่นว่าบริษัทจะให้ออกจากงาน ซึ่งตนเองก็ยังไม่ได้หางานรองรับไว้

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 2564 ทางบริษัทได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กแจ้งว่า ได้จัดทำประกันโควิด-19 ให้แก่พนักงานทุกคนต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 สำหรับพนักงานประจำ พนักงานสัญญาจ้าง และพนักงานที่เริ่มงานใหม่ ก็ได้รับสวัสดิการนี้ เริ่มคุ้มครอง 20 มี.ค.64 ถึง 19 มี.ค.65

เงื่อนไขการรับผลประโยชน์ ระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปี กรณีตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 รับ 100,000 บาท กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ รับ 100,000 บาท ซึ่งจากโพสต์ดังกล่าวไม่มีเงื่อนไข ให้พนักงานโอนเงินค่าสินไหมทดแทน กรณีติดเชื้อโควิด-19 คืนให้แก่บริษัท

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/J05WGsQO4LA