เดือด ลูกหนี้-เจ้าหนี้ ตบกันกลางตลาด เจ้าหนี้เผยเป็นหนี้ตั้งแต่ปี 62 ติดต่อไม่ได้

ปราจีนบุรี คลิปปะทะเดือด ลูกหนี้-เจ้าหนี้ ตบกันกลางตลาด เจ้าหนี้เผยเป็นหนี้ตั้งแต่ปี 62 ติดต่อไม่ได้


จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Rattiya Srinongkoth ได้โพสต์คลิป พร้อมข้อความระบุว่า "น่าไม่อายติดหนี้กุไม่ใช้ ยังมาใช้กฎหมาหมู่อีก เก๋งจริงตัวต่อตัวสิวะ"


ซึ่งในคลิปเป็นภาพ มีผู้หญิงสวมใส่ชุดพนักงานสีน้ำเงิน ยืนโต้เถียงหน้าร้านหมูย่างชั่งกิโล กับผู้หญิงสวมเสื้อแดงผ้ากันเปื้อนสีแดง จับใจความได้ว่ามีการยืมเงินกันแล้วไม่ยอมจ่าย หลังจากนั้นมีผู้หญิงอีก 1 คน ที่สวมเสื้อลายแขนสั้นผ้ากันเปื้อนและกางเกงขาสั้น ออกมายืนโต้เถียงด้วย ก่อนที่จะมีการทำร้ายร่างกาย ปะทะเดือดกลางตลาด และมีคนมาห้ามปราม


วันที่ 25 มี.ค.65 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบ เหตุการณ์เกิดในตลาด 304 พลาซ่า ม.10 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี สอบถามผู้ชายที่ได้ยินเสียงอยู่ในคลิป ที่เข้ามาห้ามปราม ซึ่งเป็นแฟนเจ้าของร้านขายเนื้อย่างหมูกระทะ โดยให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นเหตุการณ์ที่ปรากฏขึ้นตามคลิป คนที่มาทำร้ายร่างกายและมีเรื่องกับแฟนของตน บังเอิญเขามาเจอกับแม่ยายของตน ซึ่งแม่ยายของตนเขาไปติดเงินหรืออะไรสักอย่าง ตนก็ไม่รู้เพราะเขามาทวงกัน ซึ่งตอนที่เขามาเจอกัน ตนกับแฟนเข้าไปซื้อของอยู่ในตลาด พอกลับมาก็เห็นเขาทะเลาะกันอยู่แล้ว ซึ่งตนก็ถามเขาว่ามีอะไรเกิดขึ้น ก็มีคนบอกว่าคู่กรณีมาทวงเงินและคว่ำของที่ร้าน


ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางตนกับแฟน พร้อมทั้งแม่เลี้ยงที่ขายของอยู่ร้านฝั่งตรงข้าม ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมทั้งบอกว่าให้ออกไปทวงกันข้างนอก ไม่ให้ทวงกันอยู่หน้าร้าน เพราะร้านตรงนี้ไม่ใช่ร้านของแม่ยายของตน มันเป็นร้านของตนกับแฟน ซึ่งตนมองว่าเขาน่าจะเกรงใจกันบ้าง และเวลานั้นลูกค้ากำลังเยอะ เหมือนเขามาประจานทำให้ตนเสียหาย หลังจากนั้นก็ปรากฏการทะเลาะวิวาทอย่างที่เห็นตามคลิป ตนก็พยายามที่จะเข้าไปห้าม


ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยว และไม่เคยไปกู้เงินเขามา แต่ถ้ากับแม่ยายนั้นเขาจะมีเอี่ยวมีอะไรตนไม่รับรู้ แต่เคยเห็นเขามาเดินตลาดเป็นประจํา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเขาเดินทางมาทำร้ายแฟนตน และทำให้ร้านตนเสียหาย ตนก็ไม่ได้คิดติดใจเอาความ ไม่ได้เดินทางไปแจ้งความ ก็อยากจะฝากกราบขอโทษลูกค้าที่เดินทางมาซื้อหมูที่ร้านของตนในวันที่เกิดเหตุ ซึ่งตนก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นหรอก ต้องฝากขอโทษแม่ค้าที่อยู่ภายในตลาด ฝากขอโทษเจ้าของตลาดด้วย ตนก็ไม่อยากให้เกิดปัญหา ก็ต้องทำมาค้าขายอยู่ภายในตลาดนี้อยู่


หลังจากนั้น ทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามคู่กรณี ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ ที่ปะทะเดือดกลางตลาด ทราบชื่อว่า เจ๊นุช อายุ 45 ปี โดยได้เล่าเหตุการณ์ในวันนั้นว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 เวลา 17.00 น. หลังจากตนเลิกงานจะไปซื้อกับข้าวที่ตลาด 304 บังเอิญว่าเดินเข้าไปตลาดแล้วไปเจอกับลูกหนี้ ซึ่งตนเคยโทรหาก็ไม่รับ ไลน์ไปหาก็ไม่อ่าน ส่วนเฟซบุ๊กก็บล็อก ติดต่อไม่ได้ เป็นหนี้เราตั้งแต่ปี 62


ด้วยความที่เขาเป็นหนี้ เราก็เลยเข้าไปถามว่าพี่คะเมื่อไหร่พี่จะใช้หนี้ ให้พี่ผ่อนหนูวันละ 100 ได้ไหม หนูโทรหาพี่พี่ก็บอกไม่มี เดี๋ยวมีพี่จะมาให้หนู เขาก็บอกว่าเขาไม่มี ขายหมูยังไม่ถึง 50 กิโลเลย เดี๋ยวถ้ามีจะเอาไปให้ ตนแล้วก็เลยถามว่าไอ้เรื่องถ้ามีเมื่อไหร่จะมาให้คะ เขาก็ตอบว่าตอนนี้ไม่มี ไป ๆ ๆ คนจะขายของ ซึ่งทางลูกสาวเขาก็สาดน้ำมาไล่ตนที่ยืนอยู่หน้าร้าน ซึ่งตนก็พูดว่าทำไมทำอย่างนี้ล่ะ ทางนั้นก็ตอบกลับมาว่าไปจะไปไหนก็ไป จะมาทวงหนี้อะไรกันที่หน้าร้าน


ซึ่งทางตนก็ยืนยันว่าตนไม่ได้ทวง แค่มาถามและคุยกันดี ๆ หลังจากนั้นเขาก็เอาไม้ตีแมลงวันมาไล่ มาด่าตนเสีย ๆ หาย ๆ ที่ตนทวงตรงหน้าร้านก็เพราะว่าตนเห็นลูกหนี้เวลานั้นพอดี เลยตัดสินใจถามและก็ทวงกับเขาตรงหน้า จึงทำให้เขาไม่พอใจ จึงเกิดการทะเลาะวิวาท เกิดการตะลุมบอนขึ้นตรงหน้าร้าน ซึ่งตอนที่เกิดเหตุมีเพียงแค่ตนแค่คนเดียว ส่วนทางฝั่งโน้นมีทั้งน้าและทางลูกสาวเจ้าของร้านเข้ามารุมตน ตอนนั้นเขาใช้มือผลักตนก่อน และใช้ไม้ตีแมลงวันตีตน ในขณะที่ตนพูดกับเขาดี ๆ


ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ผ่านมานั้นทางตนยังไม่ได้คุยกับคู่กรณี ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคลิปนั้นทางคู่กรณีบอกว่าถ้าอยากได้เงินคืนให้ไปฟ้องเอา กูไม่จ่ายมีอะไรไหม หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนก็เดินทางไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันในวันที่ 22 ที่ผ่านมา และได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกาย สำหรับสาเหตุที่ตนโพสต์คลิปนั้นเนื่องจากวันที่ 23 ตอนเดินทางไปตลาดมีผู้หวังดีบอกว่า มีผู้ชายสักลายมาเต็มตัว 5 คน ยืนดักรอตนอยู่ที่หน้าตลาด ซึ่งหลังจากนั้นตนโพสต์คลิป เพื่อที่จะยืนยันให้ญาติพี่น้องได้รับรู้ว่ามีเรื่องราวเกิดขึ้นจากที่ไหน หากว่าตนเป็นอะไรไปให้สืบสาวราวเรื่องมาได้ที่นี่เลย ซึ่งตนคิดว่ามันเป็นอันตรายสำหรับตัวตน ซึ่งผู้ชายที่เดินทางมานั้นเขาอ้างตัวว่าเป็นลูกน้องผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ และตนก็ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใครมาก่อน จึงอยากจะฝากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลเหตุการณนี้ให้ด้วย