อดีตกู้ภัยหนัก 200 กก. ป่วยติดเตียง ไม่มีญาติ เป็นแผลกดทับ-ติดเชื้อถูกทิ้งไว้ รพ.

วันนี้ (9 ก.พ.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ รพ.ไทรน้อย ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ดร.ชัยเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ ดร.แก้ว ประธานกต.ตร.จังหวัดนนทบุรีได้รับการติดต่อจาก นาย สมพงษ์ นนทะไชย ผู้ใหญ่บ้าน ม.10 ต.ไทรน้อย จึงเดินทางเข้าช่วยเหลือนาย สุรศักดิ์ อานามนารถ ชื่อเล่น ม่อน อายุ 44 ปี อดีตเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัย (น้ำหนักตัว 200 กก.) มีโรคประจำตัว ความดันสูงและมีแผลเรื้อรังที่ลำตัว แผลติดเชื้อที่บริเวณสะโพกและแผลกดทับ บางแผลมาจากการถูกหนูและแมลงสาบกัดแทะแต่ไม่รู้สึกตัวจนติดเชื้อ ตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบญาติ ได้เข้ารับการรักษาที่ รพ.ไทรน้อย เมื่อวันที่ 7 ก.พ.67 เวลา 03.00 น.โดยปัจจุบันอาศัยอยู่กับนาย วรพจน์ นามวงษ์ อายุ 34 ปีซึ่งเป็นรุ่นน้องที่เมื่อก่อนเคยทำกู้ภัยด้วยกันและน.ส.น้ำทิพย์ จันทร์พลับ อายุ 75 ปี (แม่ของนายวรพจน์) มีอาการตาบอดแต่กำเนิดและกระดูกกดทับเว้นประสาท อาศัยอยู่ด้วยกัน3คน ที่หมู่บ้านปิยะวรารมณ์ เฟส1 ซอย 1/18 บ้านเลขที่ 90/578 หมู่6 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวนายวรพจน์ได้ซื้อไว้และเพิ่งพากันย้ายมาจากบ้านหลังเก่าย่านไทรน้อยมาประมาณ1ปี

ในเวลาต่อมา น.ส.กัลยากร ทองคัณฑา หัวหน้าฝ่ายสังคมสงเคราะห์/รักษาการผอ.กองสวัสดิการสังคมและเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมจังหวัดนนทบุรี, น.ส.สุรีรัตน์ ก้านบัวแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์บริการคนพิการจังหวัดนนทบุรีและนายธวัชชัย เจริญนนทสิทธิ์ เลขานุการนายกเทศบาลเมืองใหม่บางบัวทองลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือครอบครัวดังกล่าว เบื้องต้นทางทาง พม.จ.นนทบุรีจะออกบัตรคนพิการให้กับผู้ป่วยก่อนหลังจากนั้นจะดูแลในเรื่องของสิทธิและสวัสดิการของคนพิการที่ควรจะได้ เช่นเรื่องของเงินช่วยเหลือฟื้นฟูคนพิการเบื้องต้น จำนวน 3,000 บาท และประสานทางเทศบาลเมืองใหม่บางบัวทองให้ช่วยเหลือในเรื่องของ แผ่นรองนอนและแพมเพิส ในส่วนของกองสวัสดิการสังคมก็จะช่วยเหลือในเรื่องของสิ่งอุปโภคบริโภคที่มีความจำเป็น

น.ส.น้ำทิพย์ จันทร์พลับ อายุ 72 ปี ผู้พิการทางสายตา กล่าวว่า ตนกับลูกชายอาศัยอยู่กับผู้ป่วยมาตั้งแต่ผู้ป่วยอายุ 18 ปี พ่อแม่ของผู้ป่วยเสียชีวิตหมดแล้ว เหลือแต่พี่ชาย แต่ไม่ได้มีการดูแลหรือรับผิดชอบภาระในส่วนนี้ ผู้ป่วยเคยเล่าให้ตนฟังว่าสาเหตุที่หนีออกจากบ้าน เพราะพ่อแม่ไม่สนับสนุนให้ทำงานเกี่ยวกับกู้ภัย แต่ผู้ป่วยชอบและมีใจรักที่จะช่วยเหลือคน ผู้ป่วยเป็นเพื่อนสนิทกับลูกชายของตน เขาติดเตียงมาเป็นระยะเวลาประมาณ 2 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้ตนอยู่ดูแล ทำกับข้าวให้กิน แต่ช่วงนี้ตนทำไม่ไหว เพราะเป็นกระดูกทับเส้น ตอนผู้ป่วยยังไม่ติดเตียงก็ช่วยดูแลตนเหมือนลูก ทุกครั้งที่ผู้ป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล ตนจะใช้ชีวิตอยู่กับสุนัข 1 ตัว ในบ้าน ทั้งที่ตาก็มองไม่เห็น ตนรู้สึกสงสาร เพราะก่อนที่จะติดเตียงผู้ป่วยชอบช่วยเหลือคน ทำงานป่อเต็กตึ๊งหรือร่วมกตัญญู เพราะชอบและรัก ไม่อยากให้พ่อแม่บังคับจึงเลือกที่จะหนีออกมา ตนจึงรับเลี้ยงไว้และให้ช่วยกันทำงาน ส่วนแผลกดทับบนร่างกายของผู้ป่วย บางส่วนมาจากที่บ้านเก่าซึ่งเมื่อก่อนอยู่ที่ไทรน้อย เขานอนอยู่บนเตียงแล้วก็มีหนูมากัดมาแทะบาดแผลจึงทำให้เกิดการติดเชื้อ เพราะตัวผู้ป่วยเองไม่รู้สึกตัวและไม่สามารถไล่พวกหนูออกไปเองได้ ก่อนจะย้ายบ้านมาที่นี้ แต่ล่าสุดทางลูกชายสามารถติดต่อพี่ชายของผู้ป่วยได้แล้วเห็นว่าพรุ่งนี้จะเดินทางมาจากกรุงเทพฯ

ด้าน ดร.ชัยเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ ดร.แก้ว ประธานกต.ตร.จังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งจากทางสื่อมวลชน และผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 ประสานตนเข้ามาว่ามีผู้ป่วยติดเตียง น้ำหนักประมาณ 200 กิโลกรัม ไม่มีญาติ ปล่อยทิ้งไว้ที่โรงพยาบาล หลังได้รับเรื่องตนจึงได้มีการประสานเรื่องไปที่พม.จังหวัดนนทบุรีและเทศบาลเมืองใหม่บางบัวทอง เพื่อเข้ามาช่วยเหลือดูแลกัน และมีทางโรงพยาบาลไทรน้อยที่ติดตามการรักษาตั้งแต่แรก และสอบถามผู้ป่วยว่ามีบ้านอยู่ที่ไหน อย่างไร เพื่อที่จะให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลและได้รับสวัสดิการตามที่ควรได้ หลังจากนี้ตนจะคอยช่วยเหลือในด้านของภาคเอกชนหรือมูลนิธิให้เข้ามาช่วยเหลือเพิ่มเติมต่อไป