เจ้าของบ่อตกปลาเซ็ง ถูกชายอ้างเป็นทหาร สั่งอาหาร-เครื่องดื่มเกือบ 3 พันบาท กินเสร็จแล้วชักดาบ

จากกรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part6 โพสต์ภาพเหตุการณ์ชายอ้างตัวเป็นอดีตทหารผ่านศึก มากางเต๊็นท์และทานอาหารที่บ่อตกปลา อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยสั่งอาหารและเครื่องดื่มไปว่า 2,800 บาท ก่อนจะเชิดหนี ไม่จ่ายเงิน จนเจ้าของบ่อปลาต้องออกมาโพสต์ตามหาชายคนดังกล่าว

ทีมข่าวได้พูดคุยกับเจ้าของบ่อตกปลาท่านเอ้ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้เสียหายจากเหตุการณ์นี้ ระบุว่า ชายคนดังกล่าวแทนตัวเองว่าน้า อายุประมาณ 57 ปี เป็นชายพิการขาขวาขาด อ้างว่าตัวเองเป็นทหารผ่านศึก สูญเสียขาไปในสงคราม และรู้จักกับนายทหารระดับสูงหลายนาย ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าเป็นทหารจริงหรือไม่ ก่อนหน้านี้เขามาตกปลาที่บ่อประมาณ 3-4 ครั้ง โดยเป็นคนช่างคุยจนสนิทสนมกับทางร้าน ซึ่งที่ผ่านมา เขาจะมากับครอบครัวและจ่ายเงินค่าบริการกับค่าอาหารตลอด ครั้งละประมาณ 500-600 กว่าบาท จึงไม่เคยเห็นว่าเขาจะมีพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจ

ปรากฎว่าเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ชายคนนี้ได้มาตั้งเต็นท์ที่บ่อปลาข้ามปี ซึ่งตนก็ยินดีให้บริการ โดยเขาได้สั่งอาหารและเครื่องดื่มไปหลายรายการ รวมมูลค่าค่าอาหารและเครื่องดื่มกว่า 2,800 บาท ซึ่งตนไม่ได้คิดค่าเต็นท์แต่อย่างใด เพราะถือว่าเป็นการบริการลูกค้า ต่อมาเช้าวันที่ 1 มกราคม 2567 เขาก็เดินทางกลับโดยจะไม่ชำระเงินและอยู่ในสภาพที่เมา โดยอ้างว่า เขาไม่มีเงินจ่าย ภรรยายังไม่โอนเงินให้ จะขอขับรถออกไปกดเงินสดที่ตู้ ATM ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ่อตกปลา ตนเห็นว่าเขาเป็นคนที่บ่อตกปลาคุ้นเคยและเป็นห่วงก ลัวจะประสบอุบัติเหตุ ทั้งมีอาการเมาและร่างกายไม่สมบูรณ์ จึงได้ให้ลูกน้องนั่งรถไปด้วยเพื่อคอยดูแล แต่เขาปฏิเสธและให้ลูกน้องขี่รถจักรยานยนต์ไป ซึ่งตนก็ยินยอม เพราะเชื่อว่าเขาคงจะนำเงินมาจ่าย

ทว่าพอถึงตู้ ATM ลูกน้องตนที่ขี่รถจักรยานยนต์ตามไปด้วยได้เดินลงไปช่วยประคอง แต่เขากลับเร่งเครื่องยนต์หนีลูกน้องขับหายไปทันที เมื่อตนทราบเรื่อง ตอนแรกก็ยังไม่คิดจะเอาความ เพราะเข้าใจว่าอาจจะเมาและตกใจ แต่ภายหลังตนก็จับสังเกตได้ว่า เหตุการณ์ผ่านมาถึงเช้าวันนี้ ตัวเขาน่าจะต้องสร่างเมาและรีบนำเงินมาจ่าย จึงตัดสินใจโพสต์เรื่องราวนี้ เผื่อให้เขาหรือคนรู้จักช่วยแจ้งไปให้มาจ่ายเงิน แต่ปรากฎว่า มีคนส่งข้อมูลมาบอกตนว่า ชายคนนี้เคยมีประวัติกินอาหารแล้วชักดาบเชิดหนีที่ร้านอาหารใน จ.อ่างทอง และบ่อตกปลาแถวปทุมธานี นั้นจึงทำให้ตนรู้สึกโกรธและไม่พอใจอย่างมาก 

ตนเองในฐานะผู้ประกอบการร้านอาหาร จึงรู้สึกเซ็งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เงิน 2,800 บาทอาจจะไม่ได้มากมาย แต่ก็ทำลายความรู้สึกในฐานะผู้ให้บริการ ทั้งนี้ ตนยังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจ แต่นำป้ายทะเบียนรถยนต์ไปตรวจสอบ โดยเตรียมที่จะเดินทางไปพูดคุยเจรจา หากเขายินดีจ่ายเงินหรือยอมขอโทษ ตนก็ยินดีให้อภัย แต่ถ้าปฏิเสธก็เตรียมที่จะแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป