'ภูมิธรรม' หารือเอกชน รับฟังปัญหา-ข้อเสนอแนะ ยัน 2 ต.ค.นี้ เห็นรายการสินค้าที่จะลดชัดเจนขึ้น

วันที่ 27 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หารือร่วมกับภาคเอกชน รับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากภาคเอกชน พร้อมระบุเวลานี้ประชาชนยังคงแบกภาระในภาวะวิกฤต ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการในการกลับไปดูราคาสินค้าที่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ภายในวันที่ 31 ก.ย.นี้ จะครบกำหนดกรอบระยะเวลาทบทวนต้นทุน และในวันที่ 2 ต.ค.เป็นต้นไปจะเห็นชัดเจนจะสามารถลดราคาสินค้าชนิดใดได้บ้าง โดยเฉพาะสินค้าที่มีความจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน 20 รายการ พร้อมยืนยันว่าได้รับความร่วมมืออย่างดีในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการจัดงานมหกรรมลดราคา รถโมบายธงฟ้า ควบคู่การขอความร่วมมือลดราคาและการลดราคาตามต้นทุนที่แท้จริง ด้านนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ยืนยันว่า ได้พูดคุยกับทุกภาคส่วนแล้ว สินค้าที่จะลดราคาจะมีทั้งสินค้า บริการรวมถึงการค้าออนไลน์ด้วย


ขณะที่นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย บอกว่า การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในวันนี้ เป็นเรื่องที่ดี ได้ติดตามสถานการณ์ปัจจุบันสถานการณ์โลก ปัญหาอุปสรรค เรื่องที่ต้องเร่งแก้ไข โดยเฉพาะการประสานงานกับกระทรวงอื่นๆให้การขับเคลื่อนการทำงานเร็วขึ้น เพราะกระทรวงพาณิชย์ทำงานเพียงกระทรวงเดียวไม่ได้ เพราะการส่งออกที่ยังไม่ดีขึ้น การเร่งเจรจาFTAในกรอบต่างๆต้องเร่งทำ รวมถึงมาตรการรองรับเมื่อเศรษฐกิจโลกกลับมา ยืนยันว่าภาคเอกชนไม่ได้อยากขายสินค้าราคาแพงแต่ขึ้นอยู่กับห่วงโซ่การผลิต จึงต้องฝากให้ทางกระทรวงพาณิชย์ ช่วยดูแลทั้งห่วงโซ่ไม่ใช่เฉพาะปลายทาง หากให้ผู้ผลิตลดทางเดียวคงทำได้ลำบาก


ด้านสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ระบุว่า ก่อนหน้านี้กังวลว่าในช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม กำลังซื้อของประชาชนจะหดหายไป แต่เมื่อมีดิจิทัล wallet แล้ว ทางสมาคมก็ได้จัดทำรายการสินค้าที่สามารถลดราคาได้เอาไว้ เพื่อเป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายทำให้เกิดการหมุนเวียนเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจ แม้ต้นทุนหลายอย่างจะเพิ่มขึ้นแต่ยินดีให้การสนับสนุนและยินดีจะทำให้ภาระประชาชนลดลง


ทั้งนี้ จะมีการนำเสนอข้อคิดเห็นของแต่ละส่วนส่งกลับมาที่กระทรวงพาณิชย์ และจะดำเนินการแก้ไขให้ต่อไป โดยจะมอบหมายกรมฯที่เกี่ยวข้องช่วยแก้ไข และภาครัฐและเอกชนต้องพูดคุยกันอย่างต่อเนื่องทุก 2-3 เดือน