ดรามา ตร.ค้นตัวนักดับเพลิง ไฟไหม้บ้านของหาย 20 ล้าน ที่แท้แม่บ้านแสบ จุดไฟเผาบ้านอำพราง

จากกรณีดรามาตำรวจค้นตัวนักดับเพลิง หลังเข้าปฏิบัติหน้าที่ดับเหตุไฟไหม้บ้านพักย่านพัฒนาการ 65 กรุงเทพฯ ท้องที่ สน.ประเวศ และพบว่าทรัพย์สินเจ้าของบ้านหายไปหลายสิบล้านบาท โดยวันเกิดเหตุเจ้าของบ้านไม่อยู่ติดภารกิจต่างจังหวัด มีเพียงแม่บ้านและคนดูแลบ้านเท่านั้น ต่อมาหนึ่งในเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้โพสต์ระบายความในใจ โดยระบุว่า

“เรามาถึงจุดที่เราเข้าไปดับไฟแล้ว ออกมาต้องถูกค้นตัวกันแล้วเหรอ นี่ก็เข้าใจเจ้าของบ้านนะ พวกเราก็แสดงความบริสุทธิ์ใจ อาชีพที่ไม่เคยมีส่วนได้ส่วนเสีย มีแต่เสียกับเสีย อาชีพที่ทั่วโลกมองว่าคือฮีโร่ ในบ้านเรากลับเป็นความหวาดระแวงเป็นผู้ต้องสงสัยเป็นผู้ฉวยโอกาส พวกเราไม่รู้สึกโกรธอะไรเลยนะ แต่ในใจทำไมต้องมองพวกเราแบบนี้ บ้านก็ไม่ใช่บ้านเรา คนที่เข้าไปช่วยก็ไม่ใช่ญาติพี่น้องเรา สิ่งที่ทำมัน สิ่งที่เราทำ เราไม่เคยคิดเรื่องตัวเงินเลย มันคิดไม่ได้จริงๆ แค่ออกมาคำขอบคุณสักคำ น้ำเย็นๆสักขวด เราก็ขอบคุณมาก และจากไปอย่างสุขใจ อย่าให้เกิดภาพแบบนี้ขึ้นอีกเลย

เพิ่มเติม ผมไม่ได้มีเจตนาจะให้โพสต์นี้ดังอะไร ผมเข้าใจทุกคนทำตามหน้าที่ จนท.ตำรวจก็ถูกร้องขอให้ทำเพื่อความบริสุทธิ์ใจ จนท.ดับเพลิงก็ยินยอมเพื่อความบริสุทธิ์ใจ เพราะเคยเกิดเหตุของหายในที่เกิดเหตุ แต่ก็ไม่ใช่จากการกระทำของจนท. ทุกคนเข้าใจแต่แค่มันรู้สึกลึกๆว่ามันรู้สึกน่าน้อยใจต่อการมองอาชีพนี้เท่านั้นเอง”

ในเวลาต่อมา เพจสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้โพสต์ชี้แจงข้อเท็จจริงของเหตุไฟไหม้ครั้งนี้ว่า ผู้ที่ก่อเหตุลักทรัพย์คือแม่บ้านที่วางแผนก่อเหตุ แล้วเผาสร้างสถานการณ์ทำลายหลักฐานจนเกิดเหตุไฟไหม้บ้าน โดยระบุว่า

“ตามที่มีการแชร์ภาพการตรวจค้นตัวเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและอาสาสมัครตามสื่อโซเชียลต่างๆ หลังจากได้ร่วมกันเข้าระงับเหตุเพลิงไหม้นั้น สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอทำความเข้าใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องมาจากมีการกล่าวโทษเจ้าหน้าที่ดับเพลิง มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องทรัพย์สินสูญหายเป็นจำนวนมาก

หลังจากเข้าไประงับเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งได้มีการสืบสวนสอบสวนผู้เกี่ยวข้องต่างๆ ปรากฏว่าผู้ก่อเหตุเป็นแม่บ้านซึ่งอยู่กับเจ้าของบ้านมาเป็นเวลานานเป็นผู้วางแผนก่อเหตุและเผาสร้างสถานการณ์ทำลายหลักฐาน

ดังนั้น เพื่อความโปรงใสในการทำงาน จึงขอให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและอาสาสมัครทุกท่าน ให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจหากมีการขอตรวจค้น เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ความสบายใจของทุกฝ่าย รวมถึงหลีกเลี่ยงข้อกล่าวหาหากมีทรัพย์สินในที่เกิดเหตุสูญหาย”