ข่าวโซเชียล

เพื่อนบ้านเอือมระอา เด็ก 13 ป่วยทางจิต อาละวาดปารถ อ้างเป็นเยาวชน กฎหมายทำอะไรไม่ได้

โดย thichaphat_d

5 มิ.ย. 2566

140 views

ชาวบ้านผวา เด็กชายวัย 13 ป่วยทางจิต อาละวาดปาของใส่รถเพื่อนบ้าน ไม่กลัวใคร เพราะรู้ว่าเป็นเยาวชน กฎหมายทำอะไรไม่ได้ วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลและพาไปรักษา ก่อนที่จะมีเหตุรุนแรงมากกว่านี้

จากกรณีที่เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 เล่าเรื่องจากหลังไมค์ ถึงผู้ป่วยมีความผิดปกติทางจิตก่อเหตุหลายครั้งซ้ำยังเป็นเยาวชน หน่วยงานไหน ใช่ พ.ม. จังหวัดไหม ที่ต้องเข้าไปดูแลและพาไปรักษา ก่อนที่จะมีเหตุรุนแรงมากกว่านี้ เหตุเกิดที่บ้านเอื้ออาทรลาดใหญ่ ซ.7 ต.ลาดใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ต้นคลิปเกิดเหตุครั้งแรกปี 65 คลิปถัดมา เกิดเหตุครั้งที่ 2 ปี 66 นั้น



ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบกับผู้เสียหายที่ไม่ขอเปิดเผยตัวว่า เล่าว่า เยาวชนอายุประมาณ 13 ปี อยู่บ้านใกล้เคียง น่าจะมีปัญหาด้านอารมณ์ ทะเลาะกับแม่อาละวาดโวยวายพังข้าวของเป็นประจำ ครั้งแรกที่เกิดเหตุ เยาวชนดังกล่าวทะเลาะกับแม่แล้วใช้ขวดพลาสติกปาใส่รถเพื่อนบ้านอีกหลังหนึ่ง แล้วแฟนตนเห็นและกลัวว่าจะมาโดนรถ จึงได้ตะโกนไปว่า "เห้ย ปารถเค้าทำไม" เยาวชนชายคนดังกล่าว ก็ตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายขู่จะยิงทิ้ง จะเอามีดแทง จะเผาบ้านบ้าง แล้วก็บอกว่าจะทุบรถ แล้วก็วิ่งมาทุบตามภาพในคลิปแรก เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2565 เวลา 12.56 น.

หลังเกิดเหตุได้แจ้ง 191 ให้มาระงับ และแจ้งเคลมประกันและเดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้ เพราะยังเป็นเยาวชนชายและเท่าที่ทราบมีบัตรผู้ป่วยทางจิต จึงทำให้กฎหมายทำอะไรมากไม่ได้ เพียงแค่ให้แม่ของเยาวชนรับชดใช้ค่าเสียหายกับทางประกัน แต่หลังจากนั้นเราก็ต้องใช้ชีวิตแบบหวาดระแวง เพราะเมื่อเยาวชนชายคนดังกล่าวทะเลาะกับแม่ ก็จะตะโกนบอกแม่อีกว่า "เดี๋ยวทุบรถมันเลย" อยู่บ่อยครั้ง



จนกระทั่งก่อนวันที่เกิดเหตุครั้งที่ 2 ได้ 2-3 วัน เกิดทะเลาะกับแม่เสียงอย่างต่อเนื่องทุกวัน จนวันเกิดเหตุวันที่ 30 พฤษภาคม 2566 เวลา 14.08 น. เยาวชนชายก็ตะโกนบอกแม่ว่า "จะทุบรถมัน เพราะมันทำให้กูไม่ได้เงิน" พูดจบก็วิ่งไปกำก้อนกรวดที่พื้นบ้าน แล้วปาใส่ท้ายรถและวิ่งมาทุบรถของตนอีก ก่อนวิ่งหนีกลับเข้าบ้านไป

ตนก็แจ้ง 191 และแจ้งประกันเช่นเดิม แต่ปัญหาคือ ครั้งนี้ทางตำรวจแจ้งว่า เยาวชนคนนี้ทำเรื่องแบบนี้บ่อยครั้ง แม้กระทั่งรถตำรวจก็ทำ แต่เยาวชนคนนี้รู้ว่าทางตำรวจทำอะไรไม่ได้มาก ทุกครั้งที่ก่อเหตุเสร็จจะหนีเข้าบ้านทันที และเมื่อตำรวจมา ก็จะยอมรับกับตำรวจทันทีว่าเป็นคนทำ แต่ไม่เคยสำนึกกับการกระทำ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ความช่วยเหลือชาวบ้านด้วย เนื่องจากชาวบ้านอยู่ด้วยความหวาดผวา

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบบ้านผู้ก่อเหตุ ซึ่งอยู่บ้านห่างไป 1 หลัง พบว่าบ้านล็อกกุญแจ ไม่มีใครอยู่บ้าน จึงไม่สามารถติดต่อใครได้

แท็กที่เกี่ยวข้อง  สมุทรสาคร ,ป่วยทางจิต ,ปารถ

คุณอาจสนใจ

Related News