ข่าวโซเชียล

‘ทนายตั้ม’ แฉต่อ! ซัด ‘ชูวิทย์’ นำที่ดินอุทิศให้สาธารณะ พัฒนาเป็นโครงการอสังหาฯ ลั่นถอนคืนไม่ได้

โดย chutikan_o

2 เม.ย. 2566

177 views

ทนายตั้มโพสต์แฉชูวิทย์อีก ที่ดินที่อุทิศให้คน กทม. กำลังพัฒนาเป็นโครงการอสังหาฯ ชี้ยกให้แล้วถอนคืนไม่ได้ แซะถึงเวลาอาจใช้อภินิหารเหมือนดังคดีเก่า



วันนี้ (2 เม.ย. 2566) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนเพื่อเยาวชนและสังคม โพสต์แฉถึงนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง อีกครั้ง โดยระบุว่า หลายสิบปีก่อนได้ติดตามข่าว “ที่ดินบาเบียร์” ของพี่ชูวิทย์ ที่ให้คนไปรื้อจนถูกดำเนินคดี จำได้ว่าศาลชั้นต้นยกฟ้องพี่ชูวิทย์ ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำคุก ก็สู้คดีมาตลอดแต่พอถึงวันฟังคำพิพากษาศาลฎีกา อยู่ๆ พี่ชูวิทย์ก็แถลงรับสารภาพ!!



ตอนนั้นทนายตั้มเพิ่งเป็นทนายได้ไม่นาน การที่อยู่ๆ จำเลยปฎิเสธมาตลอด จะรับสารภาพ ตอนนั้นก็งงเหมือนกัน ทำได้ด้วยหรือ แล้วศาลจะลดโทษให้ไหม? หลายคนอาจจะเคยได้ยินทนายรุ่นเก่าๆ พูดว่า การรับสารภาพ เพราะจำนนต่อหลักฐาน ส่วนมากศาลจะไม่ลดโทษให้ คำนี้ติดหูมาก ระหว่างที่ศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษาไปนั้น นักกฎหมายสมัยนั้นก็วิจารณ์เรื่องนี้กันไปต่างๆ นานา บ้างก็ว่าไม่น่าจะทำได้ บ้างก็ว่าเป็นสิทธิของจำเลย



พอถึงวันฟังคำพิพากษาปรากฎว่าศาลฎีกาลดโทษให้ โดยเหตุผลหนึ่งคือ จำเลยได้นำที่ดินพิพาทไปทำประโยชน์เป็นสวนสาธารณะให้ประชาชนทั่วไปใช้ได้ โดยไม่ได้นำที่ดินไปทำธุรกิจแสวงหาผลกำไรอีก บ่งบอกว่าจำเลยรู้สึกสำนึกผิด นับว่ามีเหตุปราณี เห็นสมควรกำหนดโทษใหม่ให้เหมาะสม พิพากษาแก้จากจำคุก 5 ปี ให้เหลือแค่ 2 ปี ไม่รอลงอาญา ได้ลดโทษมา 3 ปี เหนาะๆ เพราะให้ที่เป็นสาธารณะประโยชน์



ทนายตั้มถึงรู้สูตรนี้ว่า จำเลยสามารถกลับคำให้การชั้นฎีกา และลดโทษได้ ถ้ามีเหตุผลดีๆ ก็เลยลักจำเอาคดีที่ทนายของพี่ชูวิทย์ใช้วิชาขั้นเทพนี้มาประยุกต์ใช้บ้าง



เมื่อไม่นานมานี้เพิ่งรู้ข่าวว่าที่ดินที่พี่ชูวิทย์อุทิศให้คน กทม.ไว้ใช้เพื่อสาธารณะ ตอนนี้กำลังพัฒนาให้เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ มูลค่าหลายพันล้าน ก็ตกใจเพราะนักกฎหมายทุกคนทราบดีว่า ถ้าแค่พูดว่ายกที่ดินให้สาธารณะมันจะโอนทันที โดยไม่ต้องจดทะเบียน และไม่สามารถถอนคืนการให้ได้



เรื่องนี้ท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ และกรุงเทพมหานคร ก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเอง ทำความจริงให้ปรากฎ ไม่อย่างนั้นคนที่อยู่แถวนั้นและเคยใช้ประโยชน์กับสวนชูวิทย์อาจจะรวมตัวกันไปฟ้องคดีต่อศาลเอง เพื่อทวงคืนปอดของคนกรุงเทพฯ ซึ่งสามารถทำได้



แต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อถึงเวลานั้น พี่ชูวิทย์จะใช้อภินิหารทางกฎหมายท่าไหน เอาที่ดินที่ยกให้สาธารณะไปแล้ว มาเป็นของครอบครัวตัวเองได้อีก เรื่องนี้คงจะถกเถียงกันอีกนาน จนกว่าจะมีคำพิพากษาศาลฎีกาตัดสินเป็นแนวทางต่อไป





คุณอาจสนใจ