ดรามาหาดสวนสน นทท.สั่งอาหาร 3 พันกว่า โดนเก็บค่าเตียงผ้าใบอีก 500.- ร้านอ้างที่นั่งเป็นคนละเจ้ากัน

จากกรณีกลุ่มนักท่องเที่ยวนับสิบกว่าคน ไปเที่ยวบริเวณหาดสวนสน จ.ระยอง แล้วเข้าไปใช้บริการร้านอาหารแห่งหนึ่ง ที่อยู่ริมหาด หลังจากเลือกที่นั่งได้จึงสั่งอาหารและนั่งดื่มกินกันจนอิ่ม ก่อนสั่งเช็คบิลและจ่ายค่าอาหารไปเกือบ 4 พันบาท หลังจากจ่ายเงินไปแล้ว ได้มาตรวจสอบบิลค่าอาหาร พบว่า ทางร้านคิดค่าที่นั่งมาด้วย 500 บาท ทำเอาเกิดความสงสัย

เมื่อไปถามทางร้าน ก็โยนกันไปโยนกันมาว่า ร้านอาหารกับเก้าอี้โต๊ะนั่ง เป็นคนละเจ้ากัน สุดท้ายจึงนำเรื่องราวโพสต์ถามลงเฟซบุ๊กส่วนตัว ทำให้ถูกวิจารณ์ว่าไม่สมควรเก็บ หรือถ้าจะเก็บก็ควรแจ้งลูกค้าก่อน เพราะโดยปกติเวลาไปนั่งทานอาหาร บริเวณริมหาดและมีโต๊ะผ้าใบให้นั่ง เมื่อสั่งอาหารของร้านทานจะไม่มีการเก็บค่าเตียงผ้าใบ ค่าที่นั่งเพิ่ม หรือถ้าจะเก็บ ก็ควรจะมีการแจ้งลูกค้าให้รับทราบก่อน เพื่อเป็นแนวทางตัดสินใจว่าจะนั่งหรือไม่นั่ง

ผู้สื่อข่าวได้โทรไปสอบถามผู้โพสต์ น.ส.กมลรัตน์ สุขแสวง อายุ 30 ปี เล่าให้ฟังว่า ในวันเกิดเหตุ ทางร้านไม่เคยแจ้งก่อนว่าต้องเสียที่นั่ง มารู้ตอนเช็คบิล เราก็พยายามถามร้านว่า ต้องเสียเงินด้วยหรอ ทุกครั้งที่ไปทานอาหารและนั่งเตียงผ้าใบริมหาดสวนสน ระยอง พร้อมสั่งอาหารทาน ไม่เคยมีร้านไหนเก็บค่าที่นั่งเลย แต่ทางร้านก็บ่ายเบี่ยง อ้างว่าเตียงผ้าใบไม่ใช่ของที่ร้านเป็นของอีกเจ้า

ยิ่งทำให้สงสัยมากขึ้นเพราะถ้าเป็นของอีกเจ้า แต่ค่าเตียงทำไมถึงมารวมในบิลร้านอาหาร ทำไมไม่เก็บแยกกัน ซึ่งมองว่าเป็นการกล่าวอ้างของทางร้านมากกว่าเพราะนี่ไม่ใช่ไปครั้งนี้ครั้งแรกไปบ่อยมาก และ กรณีนี้จึงเป็นบทเรียนราคาแพงว่าควรถามให้ชัดเจนก่อนนั่ง และยืนยันว่าจะไม่ไปใช้บริการ ร้านที่ตนเองโดนเก็บค่าที่นั่งอีกแน่นอน

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปบริเวณ หาดสวนสน จ.ระยอง และได้ไปพูดคุยกับเจ้าของกิจการ ที่ให้บริการร้านอาหารและมีเก้าอี้ผ้าใบนั่งริมหาด ให้บริการ

นายสมาน ใจอินทร์ อายุ 47 ปี เจ้าของร้าน ให้สัมภาษณ์ ยืนยันว่า ร้านส่วนใหญ่บริเวณหาดสวนสน จะเหมือนกันทั้งหมด คือ ถ้าลูกค้ามาเช่าเตียงผ้าใบกับโต๊ะ อันนี้เราจะคิดค่าเช่าปกติและมีราคาชัดเจน เพราะเป็นราคาที่กรมอุทยานประชุมร่วมกันและกำหนดมา ส่วนกรณีลูกค้ามานั่งแล้วสั่งอาหารทาน ส่วนใหญ่จะไม่มีการเก็บค่าที่นั่งเพิ่ม

ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ แค่มีลูกค้าเดินเข้ามาใช้บริการ ก็ดีใจกันแล้ว เพราะฉะนั้น อย่าไปเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวเลย อย่างกรณีเคสที่เกิดขึ้น ตนมองว่า เป็นการสื่อสารกันไม่เข้าใจว่า โต๊ะกับร้านอาหาร มันคนละเจ้ากัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทางร้านควรแจ้งให้ลูกค้ารับทราบก่อน เพราะถ้ามันมีเรื่องราวออกไปแบบนี้ สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงกันทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามพุดคุยกับผู้ประกอบการ อีก 1 ท่าน นางพิมพ์ใจ อินทร์ธนู อายุ 57 ปี ให้ข้อมูลยืนยันว่า โดยปกติถ้ามีลูกค้ามาใช้บริการนั่งเตียงผ้าใบและสั่งอาหารที่ร้านทานด้วย เวลาเช็คบิลยอดเพียง 5-6 ร้อยบาท เราก็ไม่เก็บแล้ว แต่กรณีที่ลูกค้ามานั่งแล้วไม่สั่งอะไรเลย เราก็จะเก็บ ปกติที่นั่งละ 40 บาท แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก่อนลูกค้าจะนั่ง เราจะพูดคุยกับลูกค้าก่อนเสมอ

ข่าวที่ออกมาส่งผลเสียแก่ผู้ประกอบการ บริเวณหาดสวนสนทั้งหมด จึงฝากถึงผู้ประกอบการควรทำความเข้าใจกับลูกค้าก่อนใช้บริการ จะได้ไม่มีปัญหาตามมา

สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้น จึงฝากถึงเจ้าหน้าที่ที่ดูแลรับผิดชอบ บริเวณหาดสวนสน หามาตรการให้ผู้ประกอบการ ชี้แจงถึงค่าบริการ ให้ลูกค้าเข้าใจเพราะถ้าปล่อยไว้และมีข่าวออกไปจะส่งผลเสียและกระทบการท่องเที่ยวทั้งหมด