ข่าวโซเชียล

ผมใช้ชีวิตคุ้มแล้ว...'ทนายเกิดผล' ป่วยไตเสื่อมระยะสุดท้าย ขอบคุณกำลังใจ ยันไม่ขอรับบริจาคไต

โดย thichaphat_d

19 ก.ย. 2565

1.5K views

ทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความชื่อดัง เผยผลการวินิจฉัยของโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าเมื่อวันที่ 15 กันยายน ที่ผ่านมา พบว่าเข้าสู่สภาวะไตเสื่อมระยะสุดท้าย (ระยะที่ 5) จากนี้ต้องเตรียมการสำหรับวางท่อเพื่อฟอกเลือด ฟอกไตเต็มระบบ



“ผมเกิดมายากจน  ไม่เคยได้รับโอกาสดีๆจากใคร และกว่าจะได้เป็นทนายความ ต้องดิ้นรนต่อสู้ เลือดตาแทบกระเด็น

แต่ผมเข้าใจ หัวอก ของคนที่ต้องการโอกาส ต้องการพลัง ผมจึงตั้งโครงการติวทนายแลกบุญ เพื่อมอบโอกาสให้น้องๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย มาหลายรุ่นหลายปี

ผมเคยถูกคนใส่ร้ายป้ายสี ข่มเหงรังแก ผมจึงหยิบยื่นความช่วยเหลือทางกฎหมาย และร่วมต่อสู้กับคนที่อ่อนแอ และถูกรังแก โดยไม่ลังเล

ผมใช้เวลา ใช้พลัง ใช้ทุนทรัพย์ เพื่อคนอื่น โดยความรู้สึกดีๆ มาโดยตลอด โดยไม่หวังผลตอบแทน เวลานี้สภาพร่างกายผมแย่ลง ไม่เหมือนเก่า แต่กำลังใจผมยังดี ผมอาจลุกขึ้นมาลุยด้วยตัวเองไม่ได้แล้ว

แต่...ผมหวังว่า เมล็ดพันธุ์ ที่ผมหว่านไว้ เคยให้โอกาสกับทนายรุ่นน้อง และคนที่ผมเคยยื่นมือช่วยไว้ในวันนั้น เขาจะสานอุดมการณ์ของผมต่อไปในวันนี้  และตลอดไป”



หลังจากที่เผยเรื่องราวออกไป ทำให้ผู้ติดตามและโลกโซเชียลต่างส่งกำลังใจให้ทนายเกิดผลจำนวนมาก ทำให้ต่อมาเจ้าตัวได้โพสต์ขอบคุณว่า

“ขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วงสุขภาพผม ส่งข้อความ และโทรมาถามไถ่ น้องบางคน จะขอบริจาคไต ให้พี่ชายคนนี้ ขอบใจอย่างสุดซึ้งครับ ผมยังดำรงชีวิตได้เป็นปกติ มีกำลังใจเกินร้อย ป่วยก็รักษา ผมอาจเข้าโครงการปลูกถ่ายไตจากผู้บริจาค ในอนาคต ก็ได้

แต่ปัจจุบันนี้ ผมจะพยายามดูแลสุขภาพตัวเอง ด้วยการรักษาและควบคุมอาหาร รวมทั้งการฟอกไต ขอบใจที่จะช่วยบริจาคไตให้ ผมซาบซึ้งครับ แต่ผมยังไม่ขอรับความปรารถนาดี ตอนนี้ผมเชื่อว่า ยังมีคนที่มีความจำเป็นและต้องการมากกว่าผม

ผมใช้ชีวิตคุ้มค่าแล้ว ถึงเวลาตายก็ต้องตาย และ ผมก็ไม่ได้ติดใจ หรือติดค้างอะไร สิ่งใดๆ ที่เชื่อเป็นความดี เป็นกุศล ผมทำเกือบหมดสิ้นแล้ว ถ้าถึงเวลา ก็เป็นไปตามกาลเวลาและบุญกรรม

ขอบคุณครับ”


“ผมใช้ชีวิตคุ้มแล้ว..มีผู้ใจบุญเมตตาจะบริจาคไตให้ผม ผมได้ขอบคุณ และอนุโมทนา ในกุศลจิต ครั้งนี้ 3-4 ท่าน แต่ผมไม่อาจรับความปรารถนาดีตรงนี้ได้

สภาพร่างกาย และกำลังใจผม ยังดีอยู่ ผมยังสามารถต่อสู้กับมันได้ และถึงแม้ว่า ถ้าผมสามารถรับบริจาคปลูกถ่ายไตได้จริง  ก็คงไม่คุ้มค่า กับการเสียสละของท่าน

ผมใช้ชีวิตมาอย่างคุ้มค่าแล้ว สร้างครอบครัวที่อบอุ่น  ดูแล และทำทุกอย่างตามหน้าที่อย่างไม่บกพร่อง ไม่มีอะไรติดค้าง และคาใจ หากผมรับไต อันมีคุณค่านั้นมา ก็คงมีเวลาไม่กี่ปี

แต่ถ้าหากไตอันมีค่านั้น ได้ส่งมอบ  หรือ บริจาค ให้กับ คนที่มีภาระ มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบอีกหลายชีวิต  หรือ  ให้กับ น้องๆ ที่ยังมีอนาคต มีชีวิตอีกยาวไกล ผมเชื่อว่า คุณค่าของไต ที่เขาได้รับ จะสร้างชีวิตยาวนาน มากกว่าผม และ ผู้บริจาค จะได้กุศุลบุญ สมดังเจตนา อนุโมทนา สาธุ ด้วยครับ”



ด้าน หนุ่ม กรรชัย ได้เข้าไปคอมเม้นท์ให้กำลังใจทนายเกิดผลเช่นกัน โดยระบุว่า แข็งแรงๆนะพี่ เป็นกำลังใจให้พี่ในทุกๆเรื่องนะครับ มีอะไรให้ผมรับใช้ ติดต่อผมได้ตลอดเวลานะครับพี่เกิด”


ขณะที่ ทนายตั้ม-ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้โพสต์ภาพหมู่ของเพื่อนทนายของทนายตั้ม และทนายเกิดผล ที่ถ่ายร่วมกับ ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต, ทนายรัชพล ศิริสาคร, ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ พร้อมระบุข้อความว่า



“ไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้รับข่าวร้ายจากพี่เกิดผล แกป่วยเป็นโรคไตเสื่อมขั้นสุดท้าย ทุกคนเป็นห่วงมากๆ สำหรับผม พี่เกิดผลเป็นพี่ชายที่น่ารักเสมอมา เป็นคนใจเย็น และคอยให้คำแนะนำดีๆกับพวกเราทุกคน

ผมขอคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์ทั้งหลายช่วยให้แกแข็งแรง อยู่เป็นที่พึ่งคนยากคนจน คนไม่รู้กฎหมายไปอีกหลายสิบปีเลยนะครับ”



ทั้งนี้ ประวัติ ทนายเกิดผล แก้วเกิด เกิดที่อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดอุดรธานี (ปัจจุบัน ขึ้นกับจังหวัดหนองบัวลำภู) เมื่อปี 2518 ปัจจุบันอายุ 47 ปี เติบโตมาในครอบครัวฐานะยากจน เรียนจบเเค่ชั้น ป.6 ต้องออกไปทำงานเป็น จับกัง เด็กไต้ก๋งเรือ คนขับเเท็กซี่ ค้าขาย ฯลฯ แต่ด้วยความใฝ่ดี จึงขวนขวายร่ำเรียนจนจบปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์ ที่ ม.รามคำแหง และมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช โดยใช้เวลาเรียนทั้งสองแห่ง 4 ปี จนจบพร้อมกัน

คดีที่สร้างชื่อให้ทนายเกิดผลเป็นที่รู้จัก คือ คดีไฮโซหมูแฮม ขับรถเบนซ์ชนคนเสียชีวิตและบาดเจ็บที่ป้ายรถเมล์ ซึ่งสุดท้ายศาลพิพากษาจำคุกโดยไม่รอลงอาญา จำเลยถูกนำตัวเข้าเรือนจำหมดสิ้นซึ่งอิสรภาพ 2 ปี 1 เดือน

คุณอาจสนใจ

Related News