สังคม

หลวงตาตบลูกศิษย์-พระ ฉุนถูกทิ้งที่ปั๊ม ค้นเจอกัญชารับเสพทุกวัน หลังโดนจับสึก ขับรถเสียหลักลงข้างทาง

6 เม.ย. 2568

103 views

เมื่อช่วงค่ำ วันที่ 5 เมษายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีมหาโพธิ ได้รับแจ้งว่ามีพระถูกทิ้งที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง อยู่ริมถนนสาย 304 มุ่งหน้าบ้านครองรั้ง ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพร้อมให้การช่วยเหลือ และได้พามาพักที่ป้อมตำรวจจุดประสพโชค และได้ประสานให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ 20 ไปส่งที่วัด


เบื้องต้นจากการสอบถามพระสงฆ์รูปนี้ ทราบว่าชื่อ หลวงตาตุ้ม อายุ 63 ปี โดยให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า บวชมาแล้ว 23 พรรษา โดยได้เดินทางมากับรถกระบะพร้อมด้วยลูกศิษย์ชื่อเจี๊ยบ และพระอีก 1 รูป ชื่อหลวงตาแม้น ได้เดินทางมาจากจังหวัดสระแก้ว พอมาถึงปั๊มน้ำมันที่เกิดเหตุทางหลวงตาตุ้มได้บอกกับทางนายเจี๊ยบคนขับรถ ให้จอดรถซื้อสเปรย์เพื่อที่จะมาฉีดพ่นรถที่เกิดจากอุบัติเหตุบริเวณกันชนด้านหน้าฝั่งซ้าย จากนั้นตนก็ถูกทิ้ง ซึ่งตนจ้างนายเจี๊ยบมาขับรถให้วันละ 300 บาท ซึ่งเรื่องบาดหมางนั้นไม่มี แต่ทางด้านนายเจี๊ยบมักจะชอบเถียงตนในเรื่องของเส้นทาง จึงทำให้ตนรู้สึกโมโห และพูดออกไปว่าจะตบให้เลือดกบปาก


จากการตรวจสอบพบว่าพระสงฆ์รูปดังกล่าวมีสเปรย์อยู่ภายในถุงพลาสติก และและยังมีถุงก๋วยเตี๋ยวที่บรรจุเส้นหมี่เหลืองพร้อมน้ำซุปและเครื่องปรุงอยู่ภายด้านในถุงหิ้ว โดยพระสงฆ์รูปดังกล่าวมีอาการฉุนเฉียวหัวร้อน


ต่อมา เวลา 20.30 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจรถยนต์ของ สภ.ศรีมหาโพธิ ได้ตรวจสอบและทราบแน่ชัดว่าหลวงตาตุ้มได้จำทำวัดอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.หนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ จึงได้นำรถสายตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจพาหลวงตาตุ้มไปส่งที่วัดดังกล่าว หลังจากที่หลวงตาตุ้มไปถึงวัดก็ได้เดินดิ่งไปหาทางด้านนายเจี๊ยบและหลวงตาแม้น ที่นั่งอยู่บริเวณม้าหินอ่อนภายในวัด ก่อนเดินเข้าไปตบบริเวณใบหน้าของนายเจี๊ยบจนเสียงดังลั่นวัด จากนั้นนายเจี๊ยบได้ลุกขึ้นมากอดปล้ำกับทางหลวงตาตุ้ม และตอนนั้นได้มีชาวบ้านได้มาห้ามและแยกทางหลวงตาตุ้มกับนายเจี๊ยบออก โดยทางหลวงตาตุ้มยังได้ก้มหยิบขวดน้ำที่ร่วงอยู่บริเวณพื้นเขวี้ยงใส่หน้านายเจี๊ยบ ก่อนที่จะเดินปรี่ไปตบบริเวณท้ายทอยหลวงตาแม้นที่ยืนอยู่ใกล้กัน ชาวบ้านที่อยู่ในที่เกิดเหตุและรักษาการเจ้าอาวาสได้เข้ามาห้ามปราม ก่อนที่หลวงตาตุ้มจะเดินกลับขึ้นไปกุฏิ


ต่อมาเวลา 21.50 น. ทางรักษาการเจ้าอาวาสได้โทรประสานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยคณะสงฆ์ที่อยู่ในพื้นที่ ลงมาทำการตรวจสอบเพิ่มเติม หลังจากที่มีชาวบ้านไม่พอใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจากการตรวจสอบของทางคณะสงฆ์และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บริเวณภายในห้องโดยสารของรถกระบะ ที่หลวงตาตุ้มอ้างว่าเป็นรถของตนนั้น เบื้องต้นพบกัญชาที่ห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกจำนวน 2 ห่อ และทางหลวงตาตุ้มยอมรับว่าตนมีการเสพกัญชาทุกวัน เพราะการเสพกัญชาทำให้ตนรู้สึกได้อารมณ์เข้าถึงกรรมฐาน ทำให้จิตนิ่งและทำให้เข้าถึงในพระธรรม ซึ่งกัญชาที่ตนใช้เสพนั้นจะมีเด็กมาส่ง และตนสั่งแต่ละครั้ง ครั้งละ 2 ห่อ ห่อละ 100 บาท แต่ตนจะดูดกัญชาพันลำดูด ไม่ได้ดูดเป็นบ้อง ซึ่งถ้าหากดูดเป็นบ้องการพกพาไปไหนมาไหนจะไม่สะดวก


จากการเข้าตรวจสอบภายในกุฏิของหลวงตาตุ้มนั้น พบว่ายังคงมีข้าวกล่องและห่ออาหารวางอยู่บริเวณกลางห้อง พบว่ายังมีหม้อหุงข้าวที่เสียบปลั๊กไว้อยู่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ยังพบถุงกัญชาเพิ่มเติมอีก 1 ห่อ ภายในกุฏิ โดยหลวงตาตุ้มยอมรับว่าทางหลวงตาตุ้มต้องฉันข้าวตลอดเวลาที่หิว เพราะถ้าหากไม่ฉันข้าวแล้วไปทานยาจะกัดกระเพาะจนตาย


ต่อมาหลวงตาตุ้มได้เดินทางลงมาจากกุฏิ พร้อมทั้งนำสเปรย์ที่ไปซื้อมาก่อนหน้ามาพ่นฉีดบริเวณกันชนด้านหน้ารถฝั่งซ้าย เเต่จากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าว พบว่าสเปรย์ดังกล่าวไม่ใช่สเปรย์สีตามที่หลวงตาตุ้มต้องการไปซื้อมา เพราะเมื่อพ้นออกไปเป็นเพียงละอองน้ำ และต่อมาทางหลวงตาตุ้มได้เดินทางไปขอโทษทางนายเจี๊ยบและหลวงตาแม้น ที่นั่งอยู่บริเวณโต๊ะไม้หินอ่อนจุดเกิดเหตุ


ต่อมาเวลา 22.30 น. ทางคณะสงฆ์และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ ต่างลงความเห็นกันว่าต้องการที่จะให้หลวงตาตุ้มลาสิกขาบท แต่ทางด้านหลวงตาตุ้มกลับอ้างข้อวินัยสงฆ์ในเรื่องของปาจิตตีย์ พร้อมทั้งยืนกรานว่าจะไม่ยอมลาสิกขาเพราะตนไม่ได้ทำผิด พร้อมทั้งด่ากราดชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ ซึ่งต่อมาทางหลวงตาตุ้มจึงยอมจำนนด้วยหลักฐานและค้านเสียงของชาวบ้านและคณะสงฆ์พร้อมด้วยทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ จึงยอมลาสิกขาออกจากการเป็นพระ


จากการสอบถาม นายเจี๊ยบ ได้เล่าว่า ตนได้ขับรถพาหลวงตามาจากวัดท่าเรือ วัดบ้านลาน วัดโคกกระต๋าย โดยได้จ้างขับรถมา แต่ไม่เคยได้ค่าจ้างเลย พอมาเสร็จจะให้เลี้ยวโน้นเลี้ยวนี้แล้วแกก็ดูดกัญชาในรถ มีหลักฐานอยู่ในรถ เหตุที่ทะเลาะกันเกิดจากเขาให้ตนจอดรถเพื่อลงไปซื้อสีสเปรย์ ให้ตนรอจน 2 ชั่วโมง ตนจึงเลยพากันกลับมาวัด จึงบอกหลวงตาแม้นว่ารถแกจอดอยู่นี้นะตนไม่เกี่ยวนะ เดี๋ยวจะว่าตนเอาของเขา ตนบอกกับหลวงตาแม้นว่าถ้าไม่ใช่พระนะไม่เหลือแล้ว นี้เป็นรถท่านไม่ใช่รถตน ตนขับรถให้แกได้ไม่นาน ล่าสุดที่ออกไปหาซื้อสีสเปรย์ เพื่อที่จะไปพ่นบังโคลนหน่อยเดียว แล้วร้านสีที่ไหนจะขายนี่มัน 18.00 น. แล้ว ไหนจะต้องมารอท่าน ให้ตนรออยู่ 2 ชั่วโมง


หลังจากที่นายตุ้มได้สวมใส่ชุดฆราวาส ก็ยังได้มีอาการเกรี้ยวกราดไม่ยอมที่จะออกจากวัด จนทางเจ้าหน้าที่และชาวบ้านต้องจับตัวขึ้นรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อไปพักสงบสติอารมณ์ที่ สภ.ศรีมหาโพธิ


ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. วันที่ 6 เมษายน 2568 อาสาสมัครมูลนิธิสว่างบำเพ็ญแล้วธรรมสถาน รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถกระบะเสียหลักลงข้างทาง บริเวณถนนปราจีนศรีมหาโพธิ หมู่ที่ 5 ตำบลท่ายาง อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ที่เกิดเหตุนั้นพบรถกระบะ สีบรอนซ์เงิน เสียหลักลงข้างทางลึกประมาณ 2 เมตร ในตัวรถพบสัมภาระเป็นที่นอน พัดลม และเป็นจีวรของพระ เบื้องต้นในที่เกิดเหตุนั้น พบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย มีแผลแตกบริเวณศีรษะ พูดจาคล้ายคนเมา อาสาสมัครมูลนิธิจึงได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและนำส่งโรงพยาบาล


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/TBHqMpAMSGE

คุณอาจสนใจ

Related News