สังคม

กระทบหนักรับสิ้นเดือน! มาตรการ ‘ปิดปากม้า’ เจ้าของบัญชีโวย ไม่ใช่ ‘บัญชีม้า’ แต่ถูกอายัดบัญชี

1 ก.พ. 2568

6K views

เจ้าของบัญชีโวย! หลังธนาคารระงับบัญชีต้องสงสัยเป็นบัญชีม้า ธนาคารทยอยส่งข้อความระงับใช้งานชั่วคราวไม่สามารถทำธุรกรรมได้ ผู้เสียหายลั่นไม่ใช่บัญชีม้าแต่โดนอายัดบัญชีเดือนร้อนรับสิ้นเดือน มิจฉาชีพปรับเปลี่ยนวิธีการโทรหาเหยื่อถาม “บัญชีโดนระงับเหรอเขาให้ติดต่อมาเบอร์นี้“ กดวางสายยังโทรตื้ออีก

วานนี้ (31 ม.ค.) เพจ Drama-addict โพสต์ว่า “ลูกเพจแจ้งว่าที่ธนาคารหลายแห่งมีคนมาติดต่อที่ธนาคารว่าบัญชีถูกระงับการใช้งาน จากนโยบาย ธปท.เรื่องบัญชีม้าเยอะมาก”

นอกจากนี้ทางเพจฯ ยังโพสต์ระบุอีกว่า “ในธนาคารตอนนี้มีวัยรุ่นมาโวยที่ธนาคารอื้อว่าใช้บัญชีไม่ได้ หลังธนาคารระงับบัญชีม้าล็อตใหญ่รวมถึงบัญชีอื่นของเจ้าของเดียวกัน”

ขณะเดียวกันมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ในช่องคอมเม้นต์ว่า “เมื่อวาน (30 ม.ค.) ไปทำธุรกรรม ประมาณ 30-60 นาที ข้าง ๆ บัญชีถูกระงับจากหน่วยงานรัฐและธุรกรรมผิดปกติไปแล้ว 3-4 คน ก็งง ๆ อยู่ว่าทำไมเยอะจัง”

นอกจากนี้ทีมข่าวได้เจอกับคุณปลา เล่าว่า ตนเป็นไรเดอร์อยู่ดี ๆ โดนระงับบัญชีธนาคาร โดยตนได้รับข้อความจาก KBank ว่า “บริการ  K PLUS ของคุณถูกระงับใช้งานชั่วคราว หากต้องการเปิดใช้บริการ กรุณาติดต่อ K-Contact Center โทร 02-8888888 กด 03“ ซึ่งตนเองก็กลัวจะเป็นขบวนการแก๊ง Call Center จึงกดเบอร์เช็คใน Whoscall ก่อน ซึ่งเป็นเบอร์ KBank จริง

จากนั้นตนก็ติดต่อไปยังเบอร์ของธนาคารดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบให้ สรุปสาเหตุที่บัญชีโดนระงับเพราะพบว่าไปเป็นหนึ่งในเส้นทางการเงินที่มีคนโดนมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินเข้ามายังบัญชีของตน ทางธนาคารได้รับแจ้งมาตำรวจ สภ.โพธ์แก้ว จ.นครปฐม จึงต้องระงับเพื่อตรวจสอบเป็นเวลา 72 ชั่วโมง จากนั้นเจ้าหน้าที่ธนาคารก็แจ้งตนมาว่าเป็นยอดวันไหน จำนวนเท่าไหร่ ที่มีการแจ้ง

ในการคุยกับเจ้าหน้าที่ธนาคารไม่มีการถามรหัสอะไรใด ๆ มีแค่ตอนโทรครั้งแรกที่ให้กดเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก เพื่อที่เขาจะได้รู้ว่าเป็นใคร ใช้บัญชีอะไร และตอนคุยเนื่องจากในชื่อบัญชีเป็น น.ส. แต่เสียงหล่อมากและตนพูดครับ จึงให้แจ้งเบอร์โทรเพื่อยืนตัวว่าเป็น LGBTQ  จึงแจ้งยืนยันกับทางธนาคารไปว่าตนเองเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารนั้นจริง แต่ไม่ใช่ฉิจฉาชีพ

จากนั้นตนได้ทำเรื่องขอให้ธนาคารปลดล็อค ซึ่งทางธนาคารได้ดำเนินการยกเลิกการระงับใช้บริการ K PLUS ชั่วคราวให้บางรายการ และให้รอ 3 วัน จะปลดล็อคแอปและบัญชีธนาคารให้ จนถึงขณะนี้ยังไม่ปลดล็อคบัญชี ตนโทรไปสอบถาม ทางแบงค์บอกต้องให้ติดต่อตำรวจเจ้าของคดีให้ตำรวจออกใบปลดล็อกให้ พอจบการคุยกับธนาคาร ตนก็กลับมาเช็คในแอปงานตัวเอง(จากการวิ่งไรเดอร์) ว่ายอดที่ว่าเป็นงานตัวไหน  ก็เจอว่าเป็นงาน ๆ หนึ่ง ซึ่งเขาสั่งอาหารผ่านแอปที่ตนวิ่ง เขาตนเอาอาหารไปส่งให้แล้วก็ให้แขวนไว้หน้าบ้าน แล้วก็โอนเงินมาให้เป็นค่าอาหารบวกค่ารอบผ่านบัญชีธนาคารของตน เท่านั้นจริง ๆ

คุณปลา บอกว่าจู่ ๆ ตนกลายเป็นมิจฉาชีพ เพราะมีคนไปหลอกขายของออนไลน์ และมีผู้เสียหายไปแจ้งความที่ สภ.โพธ์แก้ว จ.นครปฐม โดยมิจฉาชีพได้นำเลขบัญชีของตนไปหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินผ่านบัญชีนี้ ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าทำไมต้องนำเลขบัญชีของตนไปหลอกคนอื่นให้โอนเงิน ยืนยันตนเองไม่รับเปิดบัญชีม้า และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการมิจฉาชีพ เป็นเพียงไรเดอร์ที่วิ่งงานหากินไปวัน ๆ หากผู้เสียหายไม่ถอนแจ้งความอาจต้องถูกดำเนินคดี

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความระบุว่า โดนอายัดบัญชีธนาคาร แล้วโดนสิ้นเดือนที่ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จากยอดที่บริษัทตัวเองโอนเข้าบัญชีส่วนตัวเราเอง โทรถามเกิดไรขึ้น ธนาคารบอกมีคนโทรมาแจ้งอายัดยอด เพราะโดนโกง แล้วเงินจากบริษัทเราเองใครจะโทรไปแจ้ง ระยำจริง โทรไปโทรมา สันนิษฐาน ว่ามีคนโกงเงินผู้เสียหาย แล้วคนโกงไปใช้จ่ายกับลูกค้าเรา ซึ่งลูกค้าเราเป็นโรงแรม แล้วโรงแรมจ่ายค่าบริการกับบริษัทเรา แล้วเราก็โอนออกมาบัญชีส่วนตัวเพื่อทำค่าใช้จ่ายบางส่วน แต่ตอนนี้ซวย เงินโดนอายัดหมด ทำไรไม่ได้ ต้องรอ 72 ชม แล้วถ้าคนโทรอายัดไปแจ้งความโดนต่ออีกยาว ต้องไปให้ปากคำ เคยโดนทีนึงเป็นเดือนกว่าจะปลด บัดซบจริง ๆ เกลียดกฏหมายใหม่นี้มาก

และโพสต์ Update ว่าติดต่อจนได้หมายเลขเคสจากธนาคาร โทรไป 1441 เพื่อบอกเลขเคส แล้วได้ชื่อร้อยเวรและเบอร์มา โทรไปหาร้อยเวร บอกเลขเคส ร้อยเวรบอกไม่มีชื่อเรา น่าจะเป็นโดนมาหลาย ๆทอด ทำไรไม่ได้ต้องรอ แล้วเราต้องทำไง บ้าไปแล้ว

นอกจากนี้ทีมข่าวอาชญากรรม ช่อง 3 ได้คุยกับนายเอ (นามสมมติ) เปิดเผยว่า  ถูกอายัดบัญชีทั้งหมด 2 บัญชี คือ บัญชีชื่อบริษัท 1 บัญชี และบัญชีชื่อตัวเอง 1 บัญชี เมื่อตรวจสอบข้อมูลย้อนกับไปกับธนาคาร ทราบว่าสาเหตุมาจากการรับโอนเงิน 30,000 บาท เมื่อ 16 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา เพราะพบว่า มีคนที่คาดว่าเป็นมิจฉาชีพ ไปใช้บริการโรงแรมแห่งหนึ่ง และมีการใช้จ่ายโอนเงินเข้าบัญชีโรงแรม จากนั้น โรงแรม ซึ่งเป็นลูกค้าของบริษัทผู้เสียหาย (เขาทำบริษัทเกี่ยวกับ การทำแอปพลิเคชัน) มีการโอนเงินจ่ายให้บริษัทของผู้เสียหาย 30,000 บาท

และตัวคุณเอ เอง ก็โอนเงินจากบริษัทตัวเอง เข้าบัญชีส่วนตัวของตัวเอง ยอด 30,000 บาท จุดนี้ทำให้ถูกสงสัยว่า เขากลายเป็นเส้นบัญชีม้าและทำให้ถูกอายัดเงิน ซึ่งจุดแรกที่ทำให้รู้ว่าเงินถูกอายัด เพราะเมื่อวันที่ 30 ม.ค.68 จะต้องการโอนเงินจากบัญชีส่วนตัวเพื่อใช้จ่ายค่าจอดรถ แต่ปรากฏว่ายอดเงินในบัญชีขึ้นว่าเหลืออยู่ 0 บาท แต่ตนก็คิดว่า แอปธนาคารอาจจะมีปัญหา จึงได้โอนเงินจากบัญชีบริษัทไปที่บัญชีส่วนตัว 50,000 บาท ปรากฏว่ายอดเงินก็ไม่ขึ้น

จากนั้นเขาจึงได้โทรศัพท์สอบถามไปยังธนาคาร ทางธนาคารบอกว่าบัญชีของตนนั้นถูกอายัด ซึ่งโดนทั้งหมด 2 บัญชี โดยก่อนที่จะถูกอายัดทางธนาคารก็ไม่มีการส่ง SMS มาบอกก่อน หรือมีการแจ้งเตือนอะไรมาก่อน เมื่อประสานไปที่ธนาคาร และ ศูนย์ AOC สายด่วน 1441 มีการให้ชื่อตำรวจมาและต้องประสานงานเอง ซึ่งพบว่า จุดเริ่มต้นคดีที่มิจฉาชีพหลอกเงินมาใช้จ่ายในเส้นเงินของเขา อยู่ที่ สภ.ศรีราชา หลังจากนี้ต้องเสียเวลา ไปยื่นหลักฐานแสดงความบริสุทธิ์ด้วย

คุณเอ ยังบอกอีกว่า ตอนนี้ได้รับผลกระทบบัญชีถูกอายัด ต้องไปหยิบยืมเงินคนอื่นมาใช้จ่ายก่อน ส่วนบัญชีอื่น ๆของบริษัทยังพอมีเงินอยู่บ้าง 8-9 แสนบาท ส่วนบัญชีส่วนตัวจากหลักแสนตอนนี้ใช้ไม่ได้เลย จนกว่าจะได้รับการปลดอายัด และเท่าที่คุยกับคนรู้จักหลายคน มีคนโดนเหมือนกัน และส่วนใหญ่จะโดนในลักษณะเดียวกัน คือ ได้รับเงินมาเป็นทอดๆ จ่ายการขาย จากการจ่ายหนี้คืน ทั้งนี้มองว่ามาตรการนี้ มีข้อดีที่ช่วยเหลือคนที่โดนโกงเงินมาเพื่อจะตามเงินได้ง่ายขึ้นแต่ติดตรงที่ว่า หากคนที่ได้รับผลกระทบนั้นไม่ได้มีความผิด เป็นผู้บริสุทธิ์ กว่าจะเสร็จสิ้นขบวนการใช้เวลาเป็นเดือนจึงปลดอายัดได้

และจากกรณีที่วานนี้ (31 ม.ค.) ธปท. ดีเดย์มาตรการ “ปิดปากม้า” ซึ่งจะเป็นวันแรกที่ให้ทุกสถาบันการเงินห้ามทำธุรกรรม หรือห้ามโอนเงินเข้าบัญชีต้องสงสัยเป็นบัญชีม้า หากเป็นบัญชีต้องสงสัยจะไม่สามารถโอนเงินเข้าบัญชีดังกล่าวได้ ปรากฏว่ามิจฉาชีพก็ปรับเปลี่ยนวิธีการหลอกลวงอีก  โดยพระรูปหนึ่งที่ จ.บุรีรัมย์ ออกมาเปิดเผยว่ามีมิจฉาชีพโทรศัพท์มาหา ถามว่า “บัญชีโดนระงับเหรอครับบัญชีของพี่สาวคุณ พอดีเขาให้ติดต่อมาที่เบอร์นี้” ซึ่งพระรูปนี้ตอบไปว่าไม่มีพี่สาว กดวางสายแล้วยังโทรเขามาอีก 2 ครั้ง กดวางก็โทรมาอีก บัญชีระงับแล้วโทรมาเบอร์นั้นเบอร์นี้ ถ้าเป็นเรื่องจริงต้องไปติดต่อธนาคาร หรือโทรบอกน้องเขาเองโดยตรง ไม่ใช่ให้ใครก็ไม่รู้โทรมา งึดสมองพวกมิจ

ทีมข่าวสอบถามไปยังตำรวจ สอท. หรือ ตำรวจไซเบอร์ ได้รับข้อมูลว่า ข้อมูลของบัญชีที่ธนาคารอายัดนั้น ทางพนักงานสอบสวนแต่ละท้องที่ทั่วประเทศ ที่รับแจ้งความจากผู้เสียหาย ซึ่งมีทั้ง สน. สภ. หรือ หน่วยต่าง ๆ ของ สอท. เอง แต่ละท้องที่จะเป็นผู้รวบรวมข้อมูลบัญชีม้า ส่งให้ตำรวจไซเบอร์ เพื่อเป็นตัวกลางในการประสานงานกับทางธนาคารเป็นผู้ดำเนินการอายัดบัญชี 8  ส่วนกรณีที่มีคนออกมาระบุว่าไม่เคยเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด แต่ถูกอายัดบัญชีนั้น ยืนยันว่าทุกบัญชีที่ได้รับข้อมูลมา ต้องมีที่มาที่ไป ที่ทำให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า ซึ่งแต่ละเคสก็มีรายละเอียดแตกต่างกัน ดังนั้นแนะนำให้ผู้เสียหายไปแจ้งกับทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีนั้น ๆ ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/8BQ9BBd6828

คุณอาจสนใจ

Related News