สังคม

จับแล้ว! คนร้ายบุกเดี่ยวถือปืนบุกเผา รพ.เดชอุดม คนไข้หนีตายวุ่น อ้างเครียด โดนโกง-ธุรกิจล้มเหลว

โดย petchpawee_k

1 ก.พ. 2568

166 views

คนร้ายบุกปาระเบิดขวด ชั้น 3 รพ.สมเด็จพระยุพราชเดชอุดม จนเพลิงลุกไหม้ คนไข้หนีตายวุ่น ขณะที่มือเผา รับวางแผนมาอย่างดี ขับรถมาดูลาดเลาแล้ว 1 ครั้ง ก่อนก่อเหตุ ส่วนที่ยิงปืนใส่นั้นเพราะหมอถือถังดับเพลิงจะมาดับไฟ

วานนี้ (31 ม.ค.) เวลาประมาณ 15.15 น. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ที่ตึกผู้ป่วยในตึก 3 ชั้น 3 โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดม อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่จึงเร่งเข้าระงับเหตุ และขนย้ายผู้ป่วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีชายวัยกลางคนได้เดินสะพายเป้ในมือถือระเบิดขวด และปืนเดินขึ้นบันได เข้าไปที่บริเวณภายในอาคารตึก 3 ชั้น3 จากนั้นก็จุดไฟพร้อมปาระเบิดขวดที่เตรียมมาเข้าไปภายในบริเวณตึก 3 ชั้น 3 จนเกิดไฟลุกไหม้ ก่อนหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ คนไข้ พร้อมญาติแตกตื่น ต้องระดมช่วยกันขนผู้ป่วยออกจากตัวอาคารโดยด่วน โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด

ทั้งนี้ มีคลิปจากกล้องวงจรปิด เป็นนาทีก่อเหตุ ในภาพจะเห็นชายคนหนึ่งสะพายกระเป๋า เดินขึ้นมาบริเวณชั้น 3 โดยในคลิปจะเห็นคนร้ายถือปืน พร้อมขว้างระเบิด จากนั้นได้ทำการจุดไฟจนเกิดเพลิงลุกไหม้ ทำให้คนไข้และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลต้องวิ่งหนีตาย  อีกทั้งยังมีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายได้อย่างชัดเจน โดยคนร้ายสวมแมสปิดบังใบหน้า สะพายกระเป๋า และถือถุงสีดำ

ขณะที่ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพการอพยพผู้ป่วยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Patipat Thongkomol” โพสต์คลิปสัญญาณเตือนไฟไหม้ดังตลอดเวลา เจ้าหน้าที่กู้ภัย แบกถังดับเพลิงเข้าไปในอาคาร เพื่อค้นหาผู้ป่วยที่ติดค้าง

จากภาพจะเห็น ความชุลมุน พยาบาล - เจ้าหน้าที่ ต่างพากันขนย้ายผู้ป่วย อุปกรณ์การแพทย์ระหว่างทางมีควันสีขาว ออกมาเป็นระยะๆ โดยผู้ป่วยบางคน ใช้เครื่องออกซิเจน พยาบาลต้องช่วยกันอย่างทุลักทุเล พร้อมกับปลอบผู้ป่วยไปด้วย (ต้องเปลี่ยนถังออกซิเจน ขนาดเล็ก เพราะต้องเคลื่อนย้ายลงจากตึก)

ส่วนอีกคลิปเป็นภาพจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก “สุดใจ บุตรดา” เผยภาพกู้ภัยกำลังเร่งอพยพผู้ป่วยอย่างทุลักทุเล จากภาพจะเห็นว่ายังคงมีกลุ่มควันดำ เจ้าหน้าที่อีกชุดฉีดน้ำล่อเลี้ยง โดยเจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันพยุงผู้ป่วยออกมาก จากภาพจะเห็นว่าผู้ป่วยเนื้อตัวเปียกปอน ใส่หน้ากากอนามัย และหน้ากากเป็นสีดำ เพราะควันไฟ  ส่วนอีกภาพ เจ้าหน้าที่ต้องใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำ คลุมศรีษะผู้ป่วย และช่วยกันลากออกมา  ซึ่งจะได้ยินเสียงคล้ายคนสำลักควันไฟ

นอกจากนี้ยังมีคลิปจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ‘Nok Joe’ เป็นภาพเจ้าหน้าที่เข็นเตียงผู้ป่วยเพื่ออพยพ โดยระบุข้อความในภาพว่า “ขอให้คุณพระคุ้มครองจนปลอดภัย สาธุ”

อีกคลิป ส่วนอีกคลิปผู้ใช้เฟซบุ๊ก ‘Pitsamai Suyotha’ โพสต์คลิปพ่อแม่ ผู้ปกครอง ต้องอุ้มลูก หอบหลาน พร้อมถือสายน้ำเกลือ พากันอพยพ และจะเห็นผู้ป่วยเด็กนั่งอยู่กับพื้นอาคารด้านล่าง


โพสต์ดังกล่าว ระบุข้อความว่า “เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ รพ.เดช ที่ตึก 3 ซึ่งเป็นตึกที่หลานมา Admit  กำลังมาเยี่ยมหลานได้ยินเสียงระเบิดก้อนึกว่าคนไข้กระโดดตึก สักพักได้เสียงพยาบาลบอกไฟไหม้ เลยตัดสินใจอุ้มหลานวิ่งออกมา พอลงมาถึงชั้น 3 เจอควันไฟจนมองไม่เห็นอะไร คนก้อจะวิ่งชนกัน ไฟเริ่มดันขึ้นถึงชั้น 4 เกือบลงมาไม่ได้ มาเด้อขวัญเอ๋ย”


ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในที่เกิดเหตุเมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงยังพบเพลิงยังลุกไหม้อยู่ที่บริเวณชั้นที่ 3 ของตึก มีกลุ่มควันสีดำพุ่งออกมาจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องใช้รถกระเช้านำนักดับเพลิงฉีดน้ำสกัดเพลิงไม่ให้ลุกไหม้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงชุดแรกพยายามขึ้นบันไดไปยังต้นเพลิง แต่พบคนไข้และแพทย์พยายาลอยู่ที่บริเวณบันไดหนีไฟจำนวนมาก จึงต้องประสานนักดับเพลิงและชุดดับเพลิงในอาคารจะ อบจ.อุบลฯ หน่วยงานมูลนิธิการกุศลในพื้นเข้าสนับสนุน


โดยชั้นที่เกิดเหตุเป็นที่พักของผู้ป่วยในโรคหู คอ จมูก เจ้าหน้าที่เร่งช่วยกันลำเลียงคนป่วยที่เดินได้และนอนรักษาอยู่บนเตียงลงมาชั้นล่างไว้ในจุดรวมพล ตามที่มีการซ้อมอพยพเพลิงไหม้ของโรงพยาบาล โดยผู้ป่วยที่อพยพหนีไฟลงมาจากตึก เจ้าหน้าที่ได้นำกระจายไปนอกพักรักษาตัวต่อที่ตึกพยาบาลใกล้เคียง โดยให้นอนอยู่ตามระเบียงของตึกต่างๆ ไปจนกว่าการตรวจสอบที่เกิดเหตุและการซ่อมแซมอาคารที่ได้รับความเสียหายจะแล้วเสร็จ


เบื้องต้น ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ มีเพียงได้รับบาดจากแขนขากระแทกระหว่างอพยพเท่านั้น ซึ่งเพลิงได้ลุกไหม้อยู่นานประมาณ 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ก็สามารถช่วยกันควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่ทำความเสียหายให้กับชั้น 3 ทั้งชั้น แต่ไม่ได้ลุกลามไปยังชั้นอื่นๆ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครรักษาดินแดน ฝ่ายปกครองจิตอาสา 904 มาช่วยในการขนย้ายอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ไปไว้ในที่ปลอดภัยแล้ว


ทีมข่าวได้คุยกับคุณหนึ่ง กู้ภัยสว่างบุญธรรม จุดเดชอุดม หนึ่งในทีมกู้ภัยที่เห็นเหตุการณ์และเข้าไปช่วยเหลือ เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุเวลา 15.55 น. ตนนั่งกินข้าวอยู่ตรงข้ามโรงพยาบาล อยู่ๆ ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น 2 ครั้ง จากนั้นจึงพยายามมองหาว่าต้นสายปลายเหตุมาจากที่ไหน ตอนแรกคิดว่าเป็นล้อรถ 10 ล้อระเบิด  จากนั้น จึงมองไปที่โรงพยาบาลจนเห็นว่ามีกลุ่มควันเริ่มพวยพุ่งออกมาจากตึก 3 ชั้น 3  จากนั้นทีมกู้ภัยจึงรีบเข้าไปให้ความช่วยเหลือซึ่งเหตุการณ์ตอนนั้นชุลมุนมาก พยาบาลต้องรีบเร่งในการขนย้ายผู้ป่วย ซึ่งเหตุการณ์ระทึกแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่มาก่อนเลย ขณะเดียวกันส่วนตัวไม่ได้สังเกตุเห็นคนร้ายแต่อย่างใด เพราะมุ่งไปที่การช่วยอพยพคน

ทั้งนี้ ในตอนแรกไม่ได้คิดว่าเป็นการวางเพลิงคิดว่าน่าจะเป็นไฟฟ้าลัดวงจรจนกระทั่งเริ่มมาเห็นข่าวว่ามีคนร้ายวางเพลิง

ด้านเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งมีเพลิงไหม้ ก็พยายามใช้ถังดับเพลิงที่เป็นถังเคมีดับไฟก่อน โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ ขณะช่วยเหลือลงมาเล็กน้อย ทั้งเจ้าหน้าที่ คนไข้ และญาติคนไข้ที่มาดูแลคนป่วย ซึ่งทุกคนปลอดภัยดี


ด้านว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ที่รุดมาดูที่เกิดเหตุระบุว่า หลังได้รับแจ้งเหตุได้มีการประสานขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยต่างๆ และได้เคลื่อนย้ายคนป่วยลงมาจากชั้นที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ไม่มีใครเสียชีวิต เพราะโรงพยาบาลมีระบบในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและญาติ  


ทั้งนี้เทางเพจ 'อุบลเมืองน่าอยู่' ยังได้โพสต์ภาพความเสียหายของโรงพยาบาล พร้อมมีข้อความ ระบุ "ขณะนี้ต้องการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจำนวนมาก จะใช้เส้นทางเดชอุดม-อุบลราชธานี ไปที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิ์ที่ประสงค์เนื่องจากเมื่อสักครู่มีสถานการณ์เหตุเพลิงไหม้ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดมขอความกรุณาผู้ที่สัญจรผ่านไปผ่านมาให้ทางแก่รถพยาบาลฉุกเฉินในเวลานี้ด้วยครับ ขอบคุณ หน่วยกู้ชีพจีตัมเกาะ จุด อ.เดชอุดม ผู้ปิดทองหลังพระ"


ต่อมาหลังเกิดเหตุ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ‘ยุทธนา แสงอื้อ’ โพสต์คลิปรถเก๋งคันสีดำจอดอยู่ข้างทางหลังจากพุ่งชน จยย. ชาวบ้านได้รรับบาดเจ็บ พร้อมข้อความ ระบุ “ตามหาเจ้าของรถ ชนแล้วหนี จอดรถทิ้งไว้ข้างสะพานเหตุเกิดที่ห้วยไผ่ เส้น นาเรือง – นาเยีย”

นอกจากนี้ยังมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก 'Noey Punyanat' คาดว่าเป็นเจ้าหน้าที่พยาบาลของโรงพยาบาลดังกล่าว โพสต์ให้ข้อมูลคนร้าย โดยพบรถของคนร้ายจอดอยู่ข้างทาง อีกทั้งยังขับพุ่งชนรถของชาวบ้านก่อนหลบหนีไปอีกด้วย  


จากนั้นได้โพสต์ข้อความอีกว่า "คนขับรถรับสารภาพว่าไปยิงคนที่ รพ.เดชและก่อเหตุเผา รพ.เดช แล้วขับรถหนีชนคนมาเรื่อย (ย้ำว่าชนคนมาเรื่อย) พร้อมจับเด็กเป็นตัวประกัน #แล้วเลือกสถานที่ คือ โรงพยาบาล จิตใจทำด้วยอะไร ? ก็ว่าอยู่ทำไม อยู่ดีๆได้ขับเข้ามาใน รพ. !!!"

จากนั้นยังคอมเม้นต์ใต้โพสต์อีกว่า "ผู้ก่อเหตุอายุประมาณ 40 ปี ทำธุรกิจล้มเหลวถูกโกง เช่ารถเก๋งจากสนามบินมายิงกราดก่อเหตุที่ รพ.เดชและเผารพ.เดช เสร็จแล้วมาก่อเหตุขับเฉี่ยวชน จนท.รพ.นาเยีย 1 คน บาดเจ็บ และเฉี่ยวชนเด็กนักเรียนขับ จยย. 2 คัน 3 คน บาดเจ็บ แล้วจอดรถทิ้งไว้ข้างทางวิ่งหนี ไปจับเด็กเป็นตัวประกัน"

ทั้งนี้มีภาพจากเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมคนร้ายโดยพบตัวคนร้ายเดินอยู่บริเวณข้างถนน ก่อนจะบุกเข้าจับกุมตัวดังกล่าว ขณะเดียวกันมีภาพจากเฟซบุ๊ก “Patipat Thongkomol” โพสต์ภาพขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังควบคุมตัวคนร้ายไว้ได้ โดยจับคนร้ายกดลงกับพื้น หลังก่อเหตุเผา และปาระเบิด รพ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังเกิดเหตุตำรวจ สภ.นาเยีย ร่วมกับ สภ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ได้ติดตามตามจับกุมคนร้ายเป็นชายวัย 40 ปี โดยทราบชื่อ คือ นายพิบูลย์ ราชาธรรมกุล ได้ขับรถยนต์เก๋งสีดำ หนีออกจาก รพ.สมเด็จพระยุพราชเดชอุดม จ.อุบลราชธานี มุ่งหน้า อ.นาเยีย จ.อุบลราชธานี โดยตำรวจได้นำกำลังติดตาม พร้อมวิทยุสกัดจับอย่างเร่งด่วน

อย่างไรก็ตามระหว่างหลบหนีคนร้ายได้ขับรถไปประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ชาวบ้าน จนไม่สามารถหลบหนีได้ต่อ ทำให้ตำรวจ สภ.นาเยีย สามารถติดตามจับกุมไว้ได้ ก่อนควบคุมตัว ส่ง สภ.เดชอุดม ทำการสอบสวนเป็นการด่วน

เบื้องต้นทราบว่า ผู้ก่อเหตุทำธุรกิจล้มเหลวถูกโกง ก่อนเกิดเหตุได้นั่งเครื่องบินมาลงที่สนามบินอุบลราชธานี จากนั้นได้เช่ารถเก๋งจากสนามบินมาก่อเหตุไม่คาดฝันในครั้งนี้

จากการสอบถามเบื้องต้นผู้ต้องหาเล่าว่า เดินทางด้วยเครื่องบินโดยสารมายังจังหวัดอุบลราชธานีตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค. และเช่ารถยนต์เก๋งจากสนามบินมาใช้ ขับกลับไปบ้านป้าที่ อ.พิบูลมังสาหาร แล้วขับรถมาดูลาดเลาเพื่อที่จะก่อเหตุที่โรงพยาบาลยุพราชเดชอุดมแล้วครั้งหนึ่ง กระทั่งบ่ายวานนี้ (31 ม.ค.) ขับรถมาก่อเหตุโดยพกปืนลูกซองสั้น และน้ำมันเตรียมมาก่อเหตุ และเดินดูลาดลาวอีกครั้ง ที่ตึก 2 และ 3 ของโรงพยาบาล ก่อนจะเติมน้ำมันใส่ถุงหวานเย็นขนาดเท่าลูกบอลเบอร์ 3 แล้วเข้าไปปาใส่บริเวณตึก 3 ชั้น 3 จุดเกิดเหตุ โดยเอาแอลกอฮอล์ก้อนจุดไฟโยนเข้าไปด้วย แล้วยิงถังดับเพลิงไป 1 นัด เพราะมีคนจะวิ่งมาเอาถังดับเพลิง ก่อนหลบหนีไปจนถูกจับดังกล่าว

ด้านพันตำรวจเอก สินชัย นิ่มปุญญกำพงษ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ขณะหลบหนีไปในพื้นที่ สภ.นาเยีย โดยหลังก่อเหตุคนร้ายขับรถยนต์เก๋งชนชาวบ้านที่ขับรถอยู่ระหว่างทาง ก่อนคนร้ายจะทิ้งรถ หนีเข้าป่าข้างทาง และทิ้งอาวุธระหว่างเส้นทางหลบหนี

ทั้งนี้ผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่สนามบินดอนเมือง มาก่อเหตุเนื่องจากความเครียดหลายเรื่อง ทั้งการโดนโกงเรื่องซื้อขายที่ดิน เบื้องต้นจากการตรวจสอบไม่พบปัญหาทางจิต สามารถพูดคุยได้ปกติ โดยผู้ต้องหาไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับใครในโรงพยาบาล แต่ตั้งใจมาก่อเหตุโดยเฉพาะ ที่สำคัญผู้ต้องหาอย่างเป็นข่าวให้ดังจึงคิดมาก่อเหตุที่โรงพยาบาล  ส่วนที่ผู้ต้องหาพูดว่า ทำตามใบปลิวซึ่งพบใบปลิวในตัวคนร้ายจะได้ตรวจสอบอีกครั้ง เบื้องต้นได้สั่งตำรวจสายตรวจตรวจตรารักษาความปลอดภัยภายในโรงพยาบาลยุพราชเดชอุดม อย่างเข้มงวด

ส่วนการตั้งข้อหาผู้ต้องหานั้นเบื้องต้นเข้าข่ายความผิดหลายข้อหา ทั้งข้อหาพยายามฆ่า วางเพลิง พกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ ผิดกฎหมาย ทำให้มีผู้บาดเจ็บ เสียทรัพย์ ทั้งร่างกาย และ ทรัพย์สินทางราชการ และ บุคลทั่วไป  ซึ่งยังมีอีกหลายข้อหาหลายจุดที่คนร้ายได้ก่อเหตุ  



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/k13gMgLXSFc

คุณอาจสนใจ

Related News