คึกคัก! นักวิ่งกว่า 1 หมื่นชีวิต เดิน-วิ่ง ฉลองเปิดสะพานทศมราชัน ท่ามกลางฝุ่น

เช้าวันนี้ 26 ม.ค.68 ทีมข่าวช่อง 3 ได้เดินทางมายังสะพานทศมราชัน หรือสะพานคู่ขนานสะพานพระราม 9 ซึ่งได้จัดกิจกรรมมหกรรมสุขเต็มสิบ หรืองานเดิน-วิ่งลอยฟ้า เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดสะพานทศมราชัน โดยเริ่มกิจกรรมให้นักวิ่งเข้าพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเวลา 03.00 น. และเริ่มปล่อยตัววิ่งในระยะ 10 กิโลเมตร บริเวณโดยรอบสะพานในเวลา 05.00 น.


อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในกรุงเทพฯ ที่อยู่ในขั้นวิกฤต ทำให้เกิดการตั้งคำถามว่าควรจะจัดกิจกรรมดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย แม่งานจัดกิจกรรมดังกล่าว ยังคงยืนยันที่จะจัดกิจกรรมมหกรรมสุขเต็มสิบต่อไป โดยระบุว่าจะเพิ่มมาตรการในการป้องกันผลกระทบฝุ่นละออง PM 2.5 ทั้งการแจกหน้ากากอนามัยแก่ผู้เข้าร่วมงานทุกคน ติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ และแจ้งเตือนหากพบว่าคุณภาพอากาศไม่เหมาะสม รวมทั้งใช้รถฉีดน้ำเพื่อลดฝุ่นละอองสะสมบนสะพานก่อนเริ่มงาน


โดยจุดที่ทีมข่าวปักหลักรายงานข่าวในช่วงเช้านี้ คือบริเวณจุดปล่อยตัวเชิงสะพานทศมราชันฝั่งพระนคร แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา พบว่า ในช่วงเวลา 05.00 น. มีค่าดัชนีคุณภาพอากาศหรือ AQI อยู่ที่ 119 ส่วนค่าฝุ่นละออง PM 2.5 อยู่ที่ 43 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ถือว่ามีคุณภาพอากาศที่อยู่ในระดับสีส้ม ที่ค่อนข้างอันตรายต่อสุขภาพในระดับหนึ่ง


ซึ่งบรรยากาศที่งานเดินวิ่งพบว่า มีบรรดานักวิ่งไม่ต่ำกว่าพันรายเดินทางมาร่วมงาน ต่างคนต่างแต่งกายด้วยชุดของงานเดินวิ่งและสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันฝุ่นละอองที่มีปริมาณหนาแน่นในช่วงเช้า แต่พบว่ามีบางรายที่ไม่ได้สวมหน้ากากอนามัยแต่อย่างใด ขณะที่ผู้จัดงานได้มีการแจกหน้ากากอนามัยที่บริเวณจุดลงทะเบียนให้กับผู้เข้าร่วมงานทุกคน นอกจากนี้จากสังเกตแสงเสาไฟฟ้า จะเห็นว่ามีหมอกฝุ่นถูกแสงสาดส่องลงมาอย่างเห็นได้ชัด


ทีมข่าวช่อง 3 ได้พูดคุยกับ นายสุรศักดิ์ อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นนักวิ่งประจำ และนายโรจน์ อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นนักวิ่งสมัครเล่น ทั้งคู่เปิดเผยว่า ยอมรับว่างานวิ่งวันนี้มีความกังวลเรื่องฝุ่นละออง เพราะที่ผ่านมาขณะซ้อมวิ่งกลางแจ้งก็มีอาการแสบจมูกบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม งานวิ่งดังกล่าวถือว่าเป็นงานประวัติศาสตร์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้ขึ้นมาบนสะพานทศมราชัน และผู้จัดงานได้มีมาตรการเตรียมความพร้อมในการป้องกันฝุ่นละอองเป็นอย่างดี โดยเฉพาะการแจกหน้ากากอนามัยให้กับผู้เข้าร่วมงาน จึงไม่มีความรู้สึกกังวลว่าจะมีอาการเหนื่อยหอบจากภาวะฝุ่นละอองบนสะพาน เพราะเตรียมร่างกายมาพร้อมแล้ว วันนี้จึงมุ่งเน้นมาร่วมสนุกกับงานและยินดีที่ได้เปิดสะพานใหม่มากกว่า


ด้าน น.ส.นคนันทินี อายุ 35 ปี ระบุกับทีมข่าวว่า ก่อนออกมาวิ่งวันนี้ตนได้ตรวจสอบค่าสภาพอากาศแล้ว ซึ่งเห็นว่ามีค่าฝุ่นละอองสูงขึ้นทุกวัน แต่เนื่องจากเห็นว่าวันนี้ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ครั้งหนึ่งในชีวิต จึงตัดสินใจเข้าร่วมงาน โดยตนเองได้มีการเตรียมหน้ากากอนามัยเพื่อสวมใส่ป้องกันฝุ่นละอองอยู่แล้ว แม้ว่าจะกันไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ช่วยกรองได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งสภาพอากาศในเช้าวันนี้ก่อนเริ่มงานตนก็มีความกังวล เพราะยังมีค่าฝุ่นที่สูง อาจส่งผลต่อสุขภาพในระดับที่รุนแรงและเสี่ยงต่อภาวะสุขภาพในระยะยาว อย่างไรก็ตาม พบว่าผู้จัดการเองได้มีการเตรียมรถฉีดน้ำเพื่อลดปริมาณค่าฝุ่นละอองบนสะพานตั้งแต่เมื่อคืนและก่อนเริ่มงาน ซึ่งอย่างน้อยก็ช่วยลดปริมาณค่าฝุ่นละอองและทำให้นักวิ่งคลายความกังวลได้บ้าง


ทั้งนี้ หลังจากปล่อยผู้เข้าแข่งขันออกจากจุดปล่อยได้ประมาณ 40 นาที ก็มีนักวิ่งเข้าสู่เส้นชัยเป็นคนแรก คือ นายคำนวน อายุ 22 ปี เข้าเส้นชัยในช่วงเวลาประมาณ 05.40 น. โดยนายคำนวนกล่าวกับทีมข่าวว่า ตนได้เตรียมความพร้อมสำหรับงานวิ่งครั้งนี้ โดยก่อนเดินทางมาถึงงาน ก็ได้สวมหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นละอองตลอดเวลา ส่วนในระหว่างวิ่ง ตนไม่ได้สวมหน้ากากอนามัยแต่อย่างใด แต่ก็อาศัยจุดแจกน้ำดื่มในการนำน้ำมาล้างจมูกเป็นระยะ ๆ อย่างไรก็ตามก่อนมาวิ่ง ตนไม่ได้ตรวจสอบค่าฝุ่นละอองและขณะที่วิ่งบนสะพาน ก็ไม่ได้มีความรู้สึกว่ามีอาการคัดจมูกหรือเหนื่อยหอบแต่อย่างใด


นายคำนวนยอมรับว่า ก็มีความรู้สึกวิตกกังวลในเรื่องของปริมาณฝุ่นละอองที่สะสมหนาแน่น แต่ยังคงตัดสินใจเข้าร่วมงานวิ่งในครั้งนี้เพราะถือเป็นงานประวัติศาสตร์ ซึ่งผู้จัดงานเองก็มีมาตรการในการป้องกันฝุ่นละอองเป็นอย่างดี รวมทั้งรู้สึกภาคภูมิใจที่วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกของงานในครั้งนี้


ขณะที่ นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ระบุว่า ที่ยังคงจัดงานในวันนี้ก็เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะเปิดสะพานให้รถยนต์สัญจรไปมาอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 มกราคม อันเป็นการให้ประชาชนมามีส่วนร่วมในการเฉลิมฉลองเปิดสะพานทศมราชัน เฉกเช่นงานวิ่งเฉลิมฉลองการเปิดสะพานพระราม 9 เมื่อ 30 กว่าปีก่อน


อย่างไรก็ตาม ทางการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ได้เตรียมความพร้อมสำหรับมาตรการในการป้องกันฝุ่นละออง โดยตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาและเมื่อช่วงเช้าก่อนเริ่มงาน ก็ได้จัดให้มีรถมาฉีดน้ำบนสะพานเพื่อลดปริมาณค่าฝุ่นละออง รวมทั้งแจกหน้ากากอนามัยให้กับผู้เข้าร่วมงาน ซึ่งสาเหตุที่ไม่สามารถยกเลิกงานหรือเลื่อนงานออกไปได้ เป็นเพราะในวันที่ 29 มกราคม จะเปิดให้รถสัญจรบนสะพาน จึงจะทำให้ไม่สะดวกต่อการจัดงานวิ่ง


ทั้งนี้ในช่วงเช้าพบว่าปริมาณค่าฝุ่นละอองลดลงเป็นอย่างมากจนเป็นที่น่าพอใจ เสมือนท้องฟ้าเปิดเต็มใจให้งานครั้งนี้สามารถจัดได้อย่างราบรื่น โดยผู้เข้าร่วมงานมีจำนวนมากกว่าหมื่นราย เชื่อว่าส่วนใหญ่เห็นค่าฝุ่นละอองแล้วรู้สึกมีความไว้วางใจจึงกล้าที่จะออกมาวิ่ง เพราะเท่าที่เห็นส่วนใหญ่พบว่าหลายคนก็ไม่สวมหน้ากากอนามัยวิ่งแต่อย่างใด


อนึ่ง ในช่วงเวลาประมาณ 06.00 น. พบว่าค่าดัชนีคุณภาพอากาศหรือ AQI อยู่ที่ 157 ส่วนค่าฝุ่นละออง PM 2.5 อยู่ที่ 64.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ถือว่ามีคุณภาพอากาศที่อยู่ในระดับสีแดงที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งจากบรรยากาศหลังพระอาทิตย์ขึ้นจะเห็นได้ว่า บริเวณโดยรอบสะพานทศมราชันที่จัดงานวิ่งเต็มไปด้วยกลุ่มหมอกฝุ่นอย่างหนาแน่น ซึ่งจากการสอบถามนักวิ่งโดยรวมส่วนใหญ่ บางรายเลือกที่จะไม่สวมหน้ากากอนามัยเป็นเพราะหายใจไม่ค่อยสะดวกและอึดอัด จึงเลือกที่จะถอดหน้ากากอนามัยแทน เพราะไม่ได้ความรู้สึกกังวลว่าจะยิ่งสูดปริมาณฝุ่นเข้าไปในร่างกายมากขึ้นแต่อย่างใด

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/ML6DGIH2FfA