'เอ็ม เอกชาติ' นอนคุก วืดประกัน ชี้โทษสูงหวั่นหลบหนี ทนายเตรียมยื่นอุทธรณ์

จากกรณีการเสียชีวิตของ “แบงค์ เลสเตอร์” หนุ่มขายพวงมาลัยสู้ชีวิต หาเงินเลี้ยงคุณยาย เสียชีวิตหลังถูกจ้างให้กินเหล้า แลกเงิน 30,000 บาท ขณะไปร่วมงานเปิดแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี โดยผลชันสูตรเบื้องต้นแพทย์ระบุว่า หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

โดยเมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (28 ธ.ค.) ตำรวจสืบสวนพร้อมกำลังตำรวจไซเบอร์ โดยการนำของ พ.ต.อ.ปกรณ์กิต ธนวรินทร์กุล ผกก.3 บก.สอท.2 นำหมายศาลบุกเข้าตรวจค้น ภายในร้านออมสินการเกษตร และที่บ้านพัก หมู่ 3 ต.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ของ นายเอกชาติ มีพร้อม หรือเอ็ม เอกชาติ อินฟลูเอนเซอร์สายแข่งรถชื่อดัง ซึ่งเป็นลูกชายเจ้าของงานเลี้ยงดังกล่าว

โดยจากการตรวจค้นในครั้งนี้ ตร.ได้ตรวจยึดทรัพย์สิน ทั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, สมุดบัญชีธนาคาร 7-8 บัญชี, บัตรกดเงินสด ซึ่งอาจจะใช้เป็นพยานหลักฐานในคดี จำนวนหลายรายการ นอกจากนี้ ยังตรวจพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) จำนวน 1 เม็ด จาก น.ส.วิภาวี แสงเขียว ซึ่งเป็นบุคคลภายในบ้าน ก่อนนำตัวเอ็ม เอกชาติ และ น.ส.วิภาวี พร้อมของกลาง มาสอบปากคำที่ สภ.ทุ่งเบญจา โดยมีแม่ของนายเอ็ม พร้อมกับทนาย เดินทางมาร่วมฟังผลการสอบปากคำนายเอ็มด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ปิดห้องสอบเครียดโดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปเก็บภาพ

เบื้องต้นทางตำรวจชุดสืบสวนเฉพาะกิจ และชุดสืบสวน สภ.ทุ่งเบญจา ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งเป็นคลิปต่างๆ และคำให้การของพยานปากสำคัญหลายๆ ปาก ตลอดจนพยานแวดล้อมที่อยู่ในงาน พบมีความผิดจริง จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาแรกคือ “กระทำการโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย”

ด้านพ.ต.ท.พูลทรัพย์ ทหราวานิช ท่าลาวานิช พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี ได้นำตัวนายเอ็มเข้าทำการถ่ายรูปพิมพ์ลายนิ้วมือ เพื่อบันทึกประวัติ และสอบปากคำเพิ่มเติมโดยมีทนายเข้าไปร่วมรับฟังการสอบปากคำ จากนั้นจะนำตัวส่งฝากขัง โดยชั้นพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว

พ.ต.อ.อรรฆพงษ์ สุนทรวิภาต รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จันทบุรี กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นบ้านนายเอ็มครั้งนี้ได้ยึดหลักฐาน โดยเฉพาะที่เป็นเอกสารบางส่วน ซึ่งทาง สอท.2 ได้นำไปตรวจสอบความเชื่อมโยงเกี่ยวข้อง เส้นทางการเงิน และเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งทางตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ จนพบว่าเข้าข่ายสามารถตั้งข้อกล่าวหากับนายเอ็มได้ และหากผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ร่างของนายแบงค์ เลสเตอร์ ออกมาเช่นไร ก็สามารถแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมได้ รวมไปถึงพยานหลักฐานหากเกี่ยวข้องไปถึงบุคคลใด ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาอื่นๆ ต่อไป

พ.ต.อ.อรรฆพงษ์กล่าวต่อว่า ในชั้นพนักงานสอบสวน นายเอ็มรับสารภาพเข้าข่ายกระทำการโดยประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต จึงเตรียมนำตัวไปฝากขังศาล จ.จันทบุรี พร้อมกับคัดค้านการประกันตัว ส่วนทางศาลจะอนุญาตให้ประกันตัวหรือไม่นั้น ให้เป็นดุลพินิจของศาล

ในส่วนของนายเบิร์ด วันว่างๆ ทางตำรวจเตรียมออกหมายเรียกมาให้ปากคำ หากเข้าข่ายมีส่วนกระทำผิด ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีต่อไป รวมไปถึงเหล่าบรรดา อินฟลูเอนเซอร์ต่างๆ ที่มาร่วมงาน ทางตำรวจ สอท.เตรียมตรวจสอบเส้นทางการเงินที่อาจเชื่อมโยงธุรกิจผิดกฎหมายหรือเว็บพนันออนไลน์

ต่อมาที่ศาลจังหวัดจันทบุรี พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรทุ่งเบญจา ได้คุมตัวนายเอกชาติ หรือเอ็ม มีพร้อม อายุ 32 ปี ไปยื่นคำร้องฝากขังครั้งเเรกเป็นเวลา 12 วัน

โดยคำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า ก่อนเกิดเหตุในคดีนี้ น.ส.สุปราณี พูลกะสิ มารดาของนายเอกชาติได้จัดเลี้ยงงานวันเกิดและเปิดตัวร้านขายปุ๋ยและเคมีการเกษตรชื่อร้านออมสินการเกษตร ซึ่งในงานเลี้ยงวันเวลาดังกล่าวช่วงค่ำได้มีคนมาร่วมงาน เป็นจำนวนมาก และได้มี นาย ธนาคาร คันธี หรือ แบงค์ เลสเตอร์ ได้มาร่วมงานเลี้ยงในวันเวลาดังกล่าวด้วย ต่อมาวันที่ 25 ธ.ค.2567 เวลาประมาณ 23.00 น.นาย ธนาคาร ซึ่งเป็นคนพิการทางสมองตั้งแต่เกิด และอยู่ในอาการมึนเมาสุราได้เดินมาพบ นายเอกชาติจึงได้ท้าทายและยุยงให้ นาย ธนาคารดื่มสุรารีเจนซี่ชนิดแบน (350 มิลลิลิตร/แบน) ถ้าหาก นายธนาคาร ดื่มหมดแบนจะให้เงิน นายธนาคารแบนละ 1 หมื่นบาท

นายธนาคาร ตกลงจึงได้ดื่มสุรารีเจนซี่ไปจำนวน 2 แบน อย่างต่อเนื่องและรวดเร็วในเวลาประมาณ 10-20 นาที ต่อมานายธนาคารมีอาการแอลกอฮอล์เป็นพิษหมดสติ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ในคดีนี้ มีพยานหลักฐานเพียงพอ ยืนอันเชื่อได้ว่า นายธนาคารเสียชีวิตหัวใจวายเฉียบพลันเนื่องจากท่านได้ยุยงส่งเสริม ให้นายธนาคารซึ่งอยู่ในอาการเมาสุรามาก่อนแล้วและเป็นคนพิการทางสมองดื่มสุราในปริมาณมากจนเกิดอาการมึนเมาและเสียชีวิต การกระทำของท่านเป็นความผิดฐาน กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เหตุเกิดที่ ร้านออมสินการเกษตร ตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี

การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐาน กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 49 ววรรค4, 249 อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกินสองหมื่นบาท ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การ รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

โดยมีเหตุอันเชื่อว่า ผู้ต้องหาจะหลบหนีเนื่องจาก คดีมีอัตราโทษสูงเชื่อว่าผู้ต้องหาจะหนีพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนแล้ว แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจาก ต้องสอบสวนพยานอีก 10 ปาก รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหาและประวัติต้องโทษของผู้ต้องผู้ต้องหาจึงขออนุญาตฝากขังผู้ต้องหาระหว่างการสอบสวน มีกำหนด 12 วัน

ต่อมาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (28 ธ.ค.) ศาลจังหวัดจันทบุรีมีคำสั่ง คัดค้านการประกันตัว หลังตำรวจยื่นคำร้องขอฝากขัง โดยศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าคดีนี้มีความร้ายแรง เนื่องจากการกระทำของผู้ต้องหาก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต อีกทั้งเกรงว่าหากให้ประกันตัว ผู้ต้องหาอาจมีพฤติการณ์หลบหนีหรือเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน ทำให้กระบวนการสอบสวนอาจไม่ได้รับความเป็นธรรม ขณะที่ทนายอยู่ระหว่างการทำเรื่องเพื่อยื่นอุทธรณ์

ภายหลังการพิจารณา นายเอ็ม ถูกควบคุมตัวส่งเรือนจำจังหวัดจันทบุรีทันที ท่ามกลางความสนใจของประชาชนและสื่อมวลชนที่ติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและทีมสอบสวนยังคงเร่งดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อส่งสำนวนให้พนักงานอัยการพิจารณาและนำคดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/4mCyguyC0KQ