‘หมอหมู’ ชี้ล้วงคอไม่ช่วยอะไร หลังดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมาก จนซึมเข้ากระแสเลือด เป็นเหตุให้เสียชีวิต

กรณีของ ‘แบงค์ เลสเตอร์’ หรือ นาย ธนาคาร คันธี อายุ 27 ปี ผู้พิการทางสติปัญญาตั้งแต่เกิด อินฟลูเอนเซอร์สู้ชีวิต ที่ร้องแร็พขายพวงมาลัยเลี้ยงคุณยายวัย 80 ปี เสียชีวิตกะทันหัน หลังถูกจ้างให้กินเหล้าหมดแบน ขณะไปร่วมงานเปิดร้านการเกษตรแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เมื่อคืนวันที่ 25 ธันวาคม ที่ผ่านมา

รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวช มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ หรือหมอหมู ที่มาร่วมรายการโหนกระแส ได้ให้ความรู้เรื่องการแอลกอฮอล์ และการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณตามที่พูดกัน จะทำให้เสียชีวิตได้หรือไม่

หมอหมูบอกว่า ร่างกายของคนเราจะขับแอลกอฮอล์ 15-20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ต่อ ชั่วโมง การดื่มแบบนี้เป็นการดื่มพรวดเดียว

1 แบน 375 cc. มีโอกาสทำให้ค่าแอลกอฮอล์สูงถึง 200 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

ดื่ม 2 แบน ก็อาจจะทำให้ค่าแอลกอฮอล์สูงถึง 300-400 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

ร่างกายขับออกได้น้อย และตามข้อมูลทางการแพทย์ การที่ในร่างกายมีแอลกอฮอล์ สูงกว่า 300 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ มีโอกาสที่จะเสียชีวิตได้

อย่างกรณีของลัลลาเบล ตอนนั้นตรวจพบค่าแอลกอฮอล์สูงถึง 416 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จึงเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต

ในกรณีนี้ดื่มเข้าไปมากๆ และร่างกายขับออกมาไม่ได้ มันจะไปกดการทำงานของสมองที่ควบคุมการหายใจ

ซึ่งจากข้อมูลที่คุณเบิร์ดเล่า หมอหมูบอกว่า ตอนที่ดื่มแบนแรก แบงค์ไปอาเจียน เป็นอาการแรกเริ่มของแอลกอฮอล์เป็นพิษเฉียบพลัน คือ ร่างกายจะขับแอลกอฮอล์ออก ซึ่งอาการของคนมีภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษเฉียบพลัน จะอาเจียน ความดันตก พูดจาไม่รู้เรื่อง สับสน ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้

เชื่อว่า แก้วที่ 2 ขวดที่ 3 ขวดที่ 4 และมีข้อมูลว่า เมาจนอยากจะอาเจียน มีความพยายามจะล้วงคอ แต่อาเจียนไม่ออก หมอหมู บอกว่า การลวงคอไม่ช่วยอะไร เพราะแอลกอฮอล์ซึมเข้ากระแสเลือดไปแล้ว

ตนเชื่อว่า การดื่มทั้งหมดนี้ มีผลต่อการเสียชีวิตแน่นอน เพราะปริมาณแอลกอฮอล์สูงมาก และห้วงเวลาที่เล่ามาสัมพันธ์กันทั้งหมด

--------------------------

สาหร่าย เถ้าแก่น้อย โร่แจง ไม่เกี่ยวร้านชาบู แก๊งแกล้ง แบงค์ เลสเตอร์

จากกรณีโลกออนไลน์เกิดกระแสแบนร้านชาบูเถ้าแก่น้อย สาขาชลบุรี ซึ่งเป็นธุรกิจของหนึ่งในกลุ่มคนที่ชอบทำคอนเทนต์แกล้ง แบงค์ เลสเตอร์

ด้านเพจ Taokaenoi Club ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์สาหร่ายเถ้าแก่น้อย ได้โพสต์ชี้แจงระบุว่า ประกาศ ตามที่เกิดความไม่เข้าใจในกลุ่มลูกค้าและผู้ที่เกี่ยวข้อง บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ซึ่งเป็นผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายสินค้าขนมขบเคี้ยวประเภทสาหร่าย ในเครื่องหมายการค้า “เถ้าแก่น้อย” รวมถึงสินค้าหรือบริการอื่นของบริษัทในเครือ

บริษัทฯ ขอเรียนให้ทุกท่านทราบว่า บริษัทฯ มิได้เป็นเจ้าของ หรือมีความเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้นกับ “ร้านอาหารชาบูเถ้าแก่น้อย” ที่ปรากฏเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้

เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนต่อสาธารณชนเพิ่มขึ้น บริษัทฯ ใคร่ขอความร่วมมือจากทุกท่าน งดเว้นการกล่าวหรือพาดพิงถึง บริษัทฯ และชื่อสินค้าเถ้าแก่น้อย ในประการที่อาจทำให้เกิดความสับสนหรือเข้าใจผิดเกี่ยวกับข่าวดังกล่าว

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/QrEKMW2Bzn4