สังคม
ปัตตานียังอ่วม 2 ชุมชนในเขตเทศบาลเมือง น้ำท่วมเกือบ 2 ม. - เบตงดินภูเขาสไลด์ ดันพื้นที่จอดรถ
โดย weerawit_c
1 ธ.ค. 2567
39 views
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 1 ธ.ค. สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดปัตตานี มวลน้ำจาก จ.ยะลาที่ยังมีจำนวนมากที่ไหลลงสู่แม่น้ำปัตตานียังคงไหลมาสมทบต่อเนื่องก่อนไหลลงสู่ทะเล ทำให้หลายพื้นที่ยังคงเกิดน้ำท่วมสูง แม้ว่าน้ำทะเลไม่หนุน และน้ำลดลงเพียงเล็กน้อย แต่ระดับน้ำยังคงหน้าเป็นห่วง
ขณะที่เขตเทศบาลเมืองปัตตานีที่ถูกน้ำท่วมหนักสุดคือ ต.จะบังติกอ อ.เมือง จ.ปัตตานี โดยชุมชนวังเก่า บริเวณถนนหลังวังมี 300 กว่าครัวเรือน มีน้ำท่วม สูง 1 เมตร บางจุดสูง 2 เมตร ต้องใช้เรือในการเข้าออกชุมชน ทำให้ความเป็นอยู่เป็นไปอย่างยากลำบาก ส่วนบ้านเรือนที่มีเพียงชั้นเดียวต้องอพยพไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว คือโรงเรียนเทศบาล 1
เช่นเดียวกับชุมชนริมคลอง ต.จะบังติกอ ซึ่งติดกับริมแม่น้ำปัตตานี มีประชาชนอยู่อาศัยกว่า 300 ครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบ ถูกน้ำเข้าท่วมสูง 1-2 เมตร หลายหลังไม่สามารถอยู่อาศัยได้ต้องอพยพเช่นเดียวกัน บางหลังอาศัยชั้นที่ 2 ในการนอน โดยบ้านเรือนอยู่ติดกับริมแม่น้ำไม่สามารถใช้เรือในการเข้าออกชุมชนได้ เนื่องจากมีกระแสน้ำเชี่ยวมาก ซึ่งทั้ง 2 ชุมชน ถือว่าเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบที่หนักสุดในเขตเทศบาลเมือง โดยขณะนี้ประชาชนที่นี่ต้องการข้าวสารอาหารเป็นอย่างมาก ร่วมถึงน้ำดื่ม เนื่องจากที่นี่ยังพอที่จะทำกับข้าวได้อยู่ แต่ถ้าให้ข้าวกล่อง ชาวบ้านกลัวว่าข้าวจะบูด
นายกูลี ชาวบ้านที่อยู่ชุมชนหลังวังเปิดเผยว่า ทุกครั้งที่ท่วมจะไม่ท่วมขนาดนี้ แต่ปีนี้หนักมาก ส่วนที่บ้านชั้นล้างมีน้ำระดับเอว ข้างของต่างๆก็ยกที่สูงแล้ว ส่วนการช่วยเหลือ เมื่อเช้าก็มีคนมาแจกข้าวกล่องแล้ว สำหรับบ้านเรือนที่เป็นชั้นเดียวตอนนี้หลายหลังอพยพออกไปอยู่บ้านญาติ ซึ่งครั้งนี้อพยพเยอะมาก จากเดิมที่เคยท่วมบ้านชั้นเดียวสามารถนอนได้อยู่
ความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะน้ำท่วมจากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า ล่าสุด สภาวะฝนได้ตกทิ้งช่วงตั้งแต่ในช่วงคืนที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลัก 3 สาย คือ แม่น้ำบางนรา แม่น้ำสายบุรีและแม่น้ำโกลก ที่เอ่อล้นตลิ่งในช่วง 3 วันที่ผ่านมา มีปริมาณลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำท่วมขังในพื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือนของประชาชนเป็นวงกว้างในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ มีปริมาณน้ำท่วมขังลดลงอย่างต่อเนื่อง
จากการติดตามมวลน้ำป่าที่ไหลระบายจากพื้นที่ อ.สุคิรินและแว้ง ลงสู่แม่น้ำโกลก เพื่อระบายลงสู่ทะเลปากอ่าวด้าน อ.ตากใบ พบว่า มวลน้ำป่าก้อนนี้ได้ไหลผ่านบริเวณหมู่บ้านโคกกลาง ม.2 และบ้านปาดังยอ ม.3 ต.มูโนะ ซึ่งเป็นหมู่บ้านลุ่มต่ำริมตลิ่ง ทำให้มวลน้ำป่าก้อนนี้ได้ไหลทะลักเข้าท่วมทั้ง 2 หมู่บ้าน โดยมีปริมาณน้ำท่วมขังสูงโดยเฉลี่ย 1 เมตร ถึง 1.80 เมตร ซึ่งมีชาวบ้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นชายและหญิงชรา รวมทั้งเด็กเล็กและผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่ตกค้างอาศัยอยู่กว่า 100 คน ได้รับความเดือดร้อนต้องเร่งอพยพออกจากพื้นที่เป็นการเร่งด่วน
เจ้าหน้าที่กว่า 60 ชีวิต ได้นำเรือท้องแบนติดเครื่องยนต์ และเรือพาย ฝ่ากระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากตั้งแต่ช่วงเช้ายันดึก ตระเวนขนย้ายชาวบ้านแต่ละครัวเรือน ด้วยความยากลำบากที่ต้องฝ่ากระแสน้ำ ท่วมขังด้วยความระมัดระวัง ที่แต่ละเที่ยวสามารถนำผู้ประสบภัยออกมาได้เที่ยวละกว่า 10 คน และแต่ละเที่ยวใช้เวลานานเกือบ 1 ชั่วโมง
โดยมีปริมาณน้ำท่วมขังโดยเฉลี่ยสูง 60 ถึง 100 ซ.ม. ประกอบด้วย 1. ถนนสายบ้านตันหยงมัส อ. ระแงะ จ. นราธิวาส ที่หลักกิโลเมตรที่ 5 , 2. ถนนสายบ้านมะนังตายอ อ. ยี่งอ , เมือง จ. นราธิวาส หลักกิโลเมตรที่ 5 ถึง 7 , 3. ถนนสายบ้านบริจ๊ะ อ. ศรีสาคร,รือเสาะ จ.นราธิวาส 4. ถนนแยกทางหลวงภายในศูนย์ราชการ อ. เมืองนราธิวาส จ. นราธิวาส 5. ถนนแยกทางหลวงบ้านป่าไผ่ อ. ระแงะ จ. นราธิวาส และ 6. ถนนแยกทางหลวงบ้านบูเก๊ะตา อ. แว้ง จ.นราธิวาส หลักกิโลเมตรที่ 6 ถึง 7
มีชาวบ้านเสียชีวิต 2 ราย คือ 1.เด็กผู้หญิงอายุ 12 ปี และ 2.ผู้สูงอายุวัย 82 ปี
ด้านสำนักงานพลังงานจังหวัดนราธิวาส ได้ออกสำรวจสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงจำนวน 42 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส โดยพบว่า ส่วนใหญ่สามารถจ่ายน้ำมันให้ยานพาหนะได้ไม่เกินคืนที่ผ่านมา (30 พ.ย.) เนื่องจากน้ำมันหมด ส่วนก๊าซปิโตรเลียมเหลวให้บริการได้ไม่เกินวันพรุ่งนี้เช่นกัน
นายไชยา สิยาชีพ พลังงานจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการรายงานเรื่องปริมาณน้ำมันให้อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานรับทราบแล้ว ซึ่งทางอธิบดีฯ ได้มีการสั่งการให้คลังปิโตรเลียมจังหวัดสงขลา เตรียมพร้อมและจัดส่งจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง และก๊าซ โดยนำรถขนส่งน้ำมันเเละรถขนส่งก๊าซจากคลังปิโตรเลียมจากสงขลามารอ อยู่ที่จังหวัดปัตตานี เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่รถขนถ่ายน้ำมัน หากเส้นทางสามารถสัญจรได้ ก็สามารถขนส่งน้ำมันและก๊าซได้ตามปกติ
ด้าน นายแวรุสลัน. มะสาและ ผู้จัดการปั๊ม ปตท.เอ็ม เอส แอล เอ็นเนอร์จี จำกัด บอกว่า สำหรับสถานีบริการน้ำมันที่นี่ โชคดีที่ก่อนนี้ได้มีการสำรองน้ำไว้ ยังคงมีน้ำมันเพียงพอสำหรับจ่ายได้จนถึงคืนที่ผ่านมา (30 พ.ย.) โดยได้มีการส่งรถขนน้ำมันไปรับน้ำมันจากคลังสงขลาแล้วตั้งแต่ช่วงเช้า โดยใช้เส้นทางเบี่ยง เนื่องจากเส้นทางขาดในหลายจุด รถขนน้ำมันต้องใช้เวลาในการเดินทาง คาดว่าวันนี้ (1 ธ.ค.) น่าจะสามารถขนน้ำมันกลับมาได้ โดยขณะนี้ความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในพื้นที่มีมาก
นอกจากจะใช้สำหรับยานพานะต่างๆ แล้ว ยังจำเป็นสำหรับการเติมในเครื่องจักรที่ใช้ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่างๆ ด้วย ซึ่งที่นี่เปิดให้บริการตลอด 24 ชม.เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในขณะนี้ ส่วนพนักงานให้บริการของปั๊ม ทางบริษัทก็เปิดให้ทุกคนเข้ามาพักอาศัยกิน นอน อยู่ภายในปั๊ม ในระหว่างน้ำท่วม เพื่อเป็นการช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พนักงานอีกทางหนึ่ง
เมื่อเวลา 08.15 น. วันที่ 1 ธ.ค.67 นายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองเบตง ว่าเกิดเหตุดินภูเขาที่อยู่ด้านหลังอาคารสำนักงานเทศบาลเมืองเบตง (หลังใหม่) อ.เบตง จ.ยะลา ได้สไลด์ลงมา และดันพื้นที่จอดรถเสียหายเป็นทางยาว มีรถของทางราชการ รถเจ้าหน้าที่ติดอยู่หลายคัน จึงรีบรุดไปตรวจสอบ พบจ้าหน้าที่เทศบาล ที่เข้าเวร ออกมายืนอยู่ด้านนอกอาคารหลายคน เพราะเกรงดินอาจจะสไลด์ลงมาอีก และอาคารทำให้ตัวอาคารสำนักงานพังลงมา
จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังติดกับอาคารสำนักงานเทศบาลเมืองเบตง ซึ่งเป็นอาคารสูง 6 ชั้น ดินที่สไลด์ลงมาได้ดันพื้นปูน จนดินโผล่ขึ้นมาเป็นภูเขาสูงกว่า 5 เมตร มีรถบัส รถตู้ ของทางราชการ และรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ของเจ้าหน้าที่เทศบาล ติดคาอยู่หลายคัน รถบางคันได้ไหล ทะลุกำแพงเข้าไปติดอยู่ในห้องทำงานของเจ้าหน้าที่ ภายในอาคารสำนักงาน แต่ก็ยังโชคดีที่วันนี้เป็นวันหยุดราชการ จึงทำให้มีรถจอดอยู่ไม่มาก หากเป็นวันทำงานปกติ คงมีรถได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก และคงจะโกลาหล วุ่นวายแน่นอน เพราะจะมีเจ้าหน้าที่ ประชาชน มาใช้บริการเป็นจำนวนมาก
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เทศบาลได้กั้นบริเวณด้านหลังอาคารไม่ให้เข้าไปใกล้ เพราะเกรง ดินจะสไลด์ลงมาซ้ำ รถที่สามารถที่เลื่อนออกมาได้ ก็เลื่อนออกมาจอดยังที่ปลอดภัยด้านล่าง ในขณะที่เจ้าหน้าที่เทศบาลบางส่วนก็รีบช่วยกันขนย้ายข้าวของเอกสารต่างๆ ที่สำคัญออกมาจากตัวอาคาร ก่อน
นายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้ปิดกั้นพื้นที่ด้านหลังไว้ หลังจากที่ดินหยุดสไลด์แล้ว ก็จะร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ดำเนินการประชุมวางแผนว่าจะดำเนินการอย่างไร ส่วนตัวอาคารสำนักงาน คิดว่าคงไม่มีผลกระทบ แต่เพื่อความไม่ประมาณ ก็จะให้เจ้าหน้าที่ วิศวกร ฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้อง เข้าไปตรวจสอบโครงสร้าง ตัวอาคาร เพื่อความปลอดภัย
สถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในวันนี้น้ำแห้งกลับเข้าสู่ภาวะปกติหมดแล้วทุกพื้นที่ ทั้งในพื้นที่หาดใหญ่ใน ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจชั้นนอกของเมืองหาดใหญ่ รวมทั้งตลาดนัดพ่อพรหม ซึ่งเป็นตลาดนัดวันอาทิตย์ ก็กลับมาค้าขายได้ตามปกติ เหลือเพียงร้านค้าในชุมชนที่บางส่วนยังเปิดไม่ได้ เพราะ ถูกน้ำท่วม
ชาวบ้านชาวเมืองย่านชุมชนหาดใหญ่ใน เริ่มออกมาทำความสะอาดบ้าน โดยทุกตรอกซอกซอย เช่น ในชุมชนเทศาพัฒนา ที่น้ำท่วมสูง เต็มไปด้วยขยะมหาศาลที่รอเก็บออกจากพื้นที่
เช่นเดียวกับในพื้นที่รอบนอกของเมืองหาดใหญ่ ที่ถูกน้ำท่วมหนัก เช่น หมู่บ้านลัดดา ริมคลอง ร.1 น้ำลดลงแห้งสนิทตั้งแต่เมื่อคืนนี้ ซึ่งสภาพไม่ต่างกันเต็มไปด้วยขยะ บางหลังใช้วิธีผูกโยงรถจักรยานยนต์ไว้หน้าบ้าน และบ้านแต่ละหลังต่างคนก็ต่างออกมาทำความสะอาดบ้าน
เจ้าของบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านลัดดาบอกว่า ข้าวของชั้นล่างทั้งตู้เย็นเครื่องซักผ้าจมน้ำเสียหายทั้งหมด เพราะ อยู่คนเดียว ยกไม่ไหว ความรู้สึกตอนนี้เหนื่อยมาก เจ็บทั้งตัว ยอมรับสภาพ แต่ก็ยังสู้ เพราะ น้ำท่วมหนักจริงๆ และเคยถูกน้ำท่วมมาหลายครั้ง แต่ปีนี้ยังดีที่มีคลอง ร.1 ซึ่งเป็นคลองตามพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ให้สร้างเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมเมืองหาดใหญ่มาช่วยรับน้ำได้มาก ไม่งั้นหนักกว่านี้
เช่นเดียวกับที่หมู่บ้านนพเก้า ย่าน ถ.พลพิชัย เขตเทศบาลเมืองคอหงส์ ซึ่งถูกน้ำท่วมหนักมาก เพราะ อยู่ติดคลองหวะ โดยน้ำลดตั้งแต่เมื่อคืน โดยมีทางเจ้าหน้าที่งานป้องกันเทศบาลเมืองคอหงส์ มาเตรียมพร้อมช่วยเหลือชาวบ้าน ซึ่งในชุมชนนี้มีทั้งโรงแรม บ้านเรือน และหอพักนักศึกษา
รวมทั้งในชุมชนบ้านควนสันติ ซ.41 น้ำก็แห้งตั้งแต่เมื่อคืนนี้ ซึ่งสภาพเต็มไปด้วยขยะ และสิ่งของที่เสียหายจากบ้านเรือนชาวบ้านที่ทำความสะอาดบ้าน และขนออกมากองรวมกันไว้ริมถนนรอเทศบาลมาขนออกไป
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/blXIPKfV8SI
แท็กที่เกี่ยวข้อง น้ำท่วมภาคใต้ ,น้ำท่วม