สังคม

สาวสุดทน โดดถีบชายลวนลามบนรถเมล์ คนบนรถช่วยจับตัว ตีเนียนร้องไห้-ก้มกราบ

โดย passamon_a

1 ธ.ค. 2567

92 views

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีคลิปจากพลเมืองดีที่ช่วยกันจับกุมตัวผู้ก่อเหตุลวนลามสาวบนรถเมล์ โดยจากคลิป จะเห็นว่าหญิงสาวเดินเข้าไปต่อว่าชายคนหนึ่ง มีการโต้เถียงกัน แต่ชายผู้ก่อเหตุปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ ซึ่งเวลานั้น คนขับรถเมล์ได้ปิดล็อกประตูเอาไว้ ทำให้ผู้ก่อเหตุไม่สามารถลงจากรถเมล์ได้ แต่พยายามที่จะหาทางออก ทำทีท่าจะทุบกระจกรถ แต่กระเป๋ารถเมล์ได้ขู่ว่าจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เพิ่มข้อหาอีกกระทง ชายคนดังกล่าวจึงไม่กล้าทำ และก้มลงกับพื้นยกมือกราบขอโทษ ขอร้องหญิงสาวไม่ให้เอาเรื่อง แต่หญิงสาวผู้เสียหายไม่ยอม และโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ


เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 30 พ.ย.67 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านการเคหะเมืองใหม่บางพลี พบกับ น.ส.อดิวรรณ หรือ โอ้เอ้ อายุ 23 ปี พลเมืองดี คนถ่ายคลิปเหตุการณ์บนรถเมล์สาย 133 วิ่งจากเคหะเมืองใหม่บางพลี-เอกมัย กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะที่ตนโดยสารอยู่บนรถเมล์วิ่งมาถึงประมาณถนนศรีนครินทร์ซอย 20 ขาเข้ากรุงเทพมหานคร จู่ ๆ ได้ยินเสียงผู้หญิงตะโกนโวยวายร้องขอความช่วยเหลือ ลักษณะเหมือนทะเลาะกับผู้ชายคนนึง อ้างว่าถูกชายคนดังกล่าวลวนลาม และร้องขอให้คนบนรถช่วยจับตัวและถ่ายบันทึกคลิปวิดีโอ ตนจึงยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาบันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้


โดยเหตุการณ์เป็นไปตามคลิป ซึ่งหลังเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประเวศ เข้ามาควบคุมตัวชายคนดังกล่าวไปสอบปากคำที่โรงพัก โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ บอกว่าเข้าข่ายเป็นคดีอาญา ส่วนความคืบหน้าจากนั้น ตนไม่ทราบว่ามีการดำเนินการอย่างไรต่อ พร้อมฝากเตือนภัยถึงหญิงสาวที่ต้องเดินทางยามค่ำคืน หากพบเหตุการณ์แบบนี้ ขอให้ตั้งสติและร้องตะโกนโวยวายขอความช่วยเหลือกับคนที่อยู่รอบข้าง ห้ามอายโดยเด็ดขาด เพราะคนโรคจิตเป็นภัยสังคมแบบนี้ อย่าปล่อยทิ้งไว้


จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ สน.ประเวศ พบกับ น.ส.พลอยชมพู อายุ 25 ปี ผู้เสียหาย ทำงานเป็นพนักงานของบริษัทแห่งหนึ่ง กล่าวว่า ตนเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ข้อมูล ซึ่งเหตุการณ์ที่ตนถูกชายคนนี้ลวนลามเป็นครั้งที่สามแล้ว โดยครั้งแรกเกิดเมื่อกลางปี 2567 หลังเลิกงาน ตนได้ขึ้นรถเมล์สาย 133 เวลานั้น รถค่อนข้างโล่ง มีที่นั่งว่างเป็นจำนวนมาก ตนจึงนั่งอยู่ช่วงกลางรถ สักครู่ชายผู้ก่อเหตุขึ้นมาแล้วเข้ามานั่งอยู่ข้างตน แต่กระเป๋ารถเมล์เห็นว่าไม่เหมาะสม จึงได้เรียกตนไปนั่งข้างหน้ารถใกล้กับคนขับ เหตุการณ์ครั้งแรกจึงไม่มีอะไรเกิดขึ้น


ส่วนครั้งที่สอง เกิดขึ้นเมื่อประมาณกลางเดือนพฤศจิกายน 2567 หลังเลิกงานเวลาประมาณ 21.00 น. ตนขึ้นรถเมล์สาย 133 เช่นเดิม เพื่อกลับบ้านพักย่านพัฒนาการ สักครู่ชายผู้ก่อเหตุได้ขึ้นรถมาและเข้ามานั่งข้างตนเหมือนเคย จากนั้นนำกระเป๋าและเสื้อวางบนตักของเขา เพื่อปิดบังมือแล้วทำท่ากอดอก จากนั้นใช้มือซ้ายล้วงเข้ามาที่เสื้อของตน ลวนลามช่วงเอว ตนจึงโวยวาย ด่าทอชายคนดังกล่าว จากนั้นชายคนดังกล่าวก็ปฏิเสธและรีบวิ่งหนีลงจากรถไป หลังเกิดเหตุตนได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ถูกปฏิเสธเนื่องจากไปแจ้งความไม่ถูกกับสถานีตำรวจที่เกิดเหตุ


และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ตนต้องการเอาเรื่องชายคนดังกล่าวให้ได้ จึงกระโดดถีบและเดินตามจิกตัวไม่ให้หลบหนี พร้อมตะโกนร้องขอความช่วยเหลือจากคนขับรถเมล์และผู้โดยสารบนรถให้ช่วย ซึ่งก็มีพลเมืองดีเข้าช่วยเหลือ ทำให้ตนรู้สึกไม่โดดเดี่ยวในการที่จะต่อสู้กับชายโรคจิตคนนี้ที่เป็นภัยสังคม และสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาควบคุมตัวไปโรงพักเพื่อดำเนินคดี พร้อมฝากเตือนภัยกับผู้หญิงทุกคน ถ้าเจอคนโรคจิตแบบนี้ ต้องปกป้องตัวเอง ให้ร้องตะโกน อย่าอาย เพราะคนที่ต้องอายนั้น ควรต้องเป็นคนโรคจิตที่ก่อเหตุ มากกว่าเราซึ่งเป็นผู้เสียหาย


ด้านพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ เผยว่า เบื้องต้น แจ้งข้อหาอนาจารกับชายคนดังกล่าว ส่วนเรื่องการข่มขู่ ที่ชายผู้ก่อเหตุพูดว่าจะใช้มีดแทงหญิงสาวผู้เสียหายให้ตาย คงต้องดูพยานหลักฐานว่าจะสามารถเอาผิดได้หรือไม่ โดยหลังสอบปากคำ ทำบันทึกประวัติไว้แล้ว ได้ปล่อยตัวชายผู้ก่อเหตุไปก่อนชั่วคราว และจะเรียกมาแจ้งข้อหาและดำเนินคดีตามกฎหมายอีกครั้ง


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/N7Aqi2gUvXU

คุณอาจสนใจ

Related News