ผบ.ทร.เร่งสอบเหตุ เมียนมายิงเรือไทย ดับ 2 - กต.เร่งประสานช่วย 31 ลูกเรือ ที่ถูกจับกุม

เรือรบเมียนมายิงเรือประมงไทย เสียชีวิต 2 เจ็บ 2 สูญหาย 2 เรือถูกยึด 1 ลำ ลูกเรือ 31 คนถูกจับกุม ผบ.ทร.เร่งสอบเหตุ กต.เร่งประสานช่วยลูกเรือที่ถูกจับ


จากกรณีเรือประมงไทยถูกเรือรบเมียนมากราดยิง ทำให้มีผู้เสียชีวิตนั้น ต่อมามีรายงานว่า กองทัพเรือได้แจ้งข้อมูลมายังกระทรวงกลาโหม เกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เรือประมงของไทย 50 ลำ ออกมาจากเกาะพยาม จ.ระนอง เข้าไปลักษณะของการลากอวน เมื่อเปิดไฟ เห็นเรือรบพม่า 3 ลำ ยิงเข้าใส่เรือประมงไทย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นคนไทย 1 ราย เมียนมา 1 ราย สูญหาย 2 ราย บาดเจ็บ 2 ราย เป็นชาวเมียนมา โดยเรือประมงไทยถูกยึดไป 1 ลำ ถูกจับกุมไป 31 คน ซึ่งขณะผู้ช่วยทูตทหารไทยประจำเมียนมาอยู่ระหว่างประสานกับเมียนมา ขอรับตัวผู้ที่ถูกจับกุมพร้อมเรือกลับไทย


สำหรับลำดับสถานการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 พ.ย.67 โดยช่วงเวลา 00.45 น. ได้รับข่าว เรือประมง ชื่อเรือ มหาลาภธนวัฒน์ 4 ร้องขอความช่วยเหลือ ประสบเหตุการณ์น้ำเข้าเรือเนื่องจากถูกยิงจากเรือรบเมียนมา ที่ตัวเรือได้รับความเสียหาย และมีผู้บาดเจ็บ จำนวน 2 ราย


เวลา 01.15 น. เรือรบเมียนมาจับกุมเรือประมงไทยจำนวน 1 ลำ คือ เรือ ส.เจริญชัย 8 ลูกเรือจำนวน 31 คน ถูกเรือรบเมียนมาจับกุมไปยังเกาะย่านเชือก ในเบื้องต้น ผอ.ศปชล.ทม. ติดต่อประสาน ผบ.สน.เรือ 58 เกาะย่านเชือก ประเทศเมียนมา เพื่อติดตามสถานการณ์ ทราบว่าได้ดำเนินการจับกุมเรือประมงไทยจริง เนื่องจากมีกลุ่มเรือประมงประมาณ 15 ลำ เข้าไปทำการประมงในเขตน่านน้ำประเทศเมียนมา ประมาณ 4-5.7 ไมล์


ต่อมาเวลา 03.42 น. ได้รับแจ้งจาก ผบ.สน.เรือ 58 เกาะย่านเชือก จะส่งมอบเรือประมงและลูกเรือที่ถูกจับกุมไปยังสถานีประมงเกาะสอง ในอีกประมาณ 2 วันข้างหน้า


ส่วนเรือ ดวงทวีผล 333 ไม่ทราบจำนวนลูกเรือที่แน่ชัด ได้กระโดดลงน้ำเพื่อหลบหนีการจับกุม ในเบื้องต้นทราบว่ามีเรือประมง และเรือ ต.274 เข้าทำการค้นหาและช่วยเหลือลูกเรือ ปัจจุบันยังมีผู้สูญหายอีกประมาณ 4-5 คน


จากนั้นเวลา 03.30 น. เรือ ต.274 นำลูกเรือประมง ชื่อเรือ มหาลาภธนวัฒน์ 4 จำนวน 2 คน มาถึงท่าเทียบเรือน้ำลึก จว.ระนอง นำส่งผู้บาดเจ็บให้กับ รพ.ระนอง เพื่อทำการรักษาต่อ โดย ศปชล.ทม.ส่งกำลังพลเข้าไปร่วมสังเกตุการณ์ และช่วยเหลือในการนำส่งผู้บาดเจ็บจำนวน 2 คน ประกอบด้วย นายศรีเพ็ชร อายุ 44 ปี ทำหน้าที่ไต๋เรือ มหาลาภธนวัฒน์ 4 ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ และลูกเรือชาวเมียนมาไม่ทราบชื่อ ได้รับบาดเจ็บจากการถูกกระแสไฟฟ้าช็อตตามร่างกาย เบื้องต้นได้ประสานความร่วมมือและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดกับหน่วยงาน นป.สอ.รฝ.451 ศรชล จว.ระนอง และ ศปก.ทรภ.3 เพื่อทราบตำบลที่ของเรือประมงในการประกอบข้อเท็จจริง และได้ประสาน ผบ.ฉก.ร.25 เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง


ทั้งนี้ ศปชล.ทม. จะดำเนินการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมออกให้การช่วยเหลือทันที หากเกิดสถานการณ์ต่าง ๆ และจะรายงานให้ทราบในทันที


ด้าน พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวถึงเหตุการณ์เรือรบเมียนมายิงเรือประมงไทย ว่า ต้องตรวจสอบว่าเหตุเกิดในพื้นที่ของใคร อำนาจหน้าที่ครอบคลุมถึงหรือไม่ ซึ่งปัจจุบันมีคนถูกจับตัวไป จึงได้ประสานงานเข้าไปช่วยเหลือ รวมทั้งสอบถามสาเหตุไปทางเมียนมาว่ามีสาเหตุใดถึงจับตัวไป แล้วต้องไปดูว่า ณ จุดเกิดเหตุมีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน


ผบ.ทร. กล่าวว่า จากที่ได้รับรายงานเบื้องต้น คือเรือประมงถูกเรือรบเมียนมาไล่ยิงมา และได้มีการขอความช่วยเหลือ ทางกองทัพเรือจึงได้ส่งเรือออกไป ทั้งนี้ ทร.จะเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงการใช้อาวุธและอำนาจของเมียนมา ว่าเกินขอบเขตหรือไม่ และเรามีอำนาจเข้าไปป้องกันมากน้อยเพียงใด ที่สำคัญคือต้องดูว่าพื้นที่เกิดเหตุอยู่ตรงไหน จุดใด มีกฎหมายใดบังคับใช้ เราเข้าไปรุกล้ำเขา หรือเขาเข้ามาใช้อำนาจเกินขอบเขต หากเป็นอย่างหลังจะมีการตอบโต้อย่างชัดเจน


เมื่อถามว่า การที่เรือเมียนมาได้ยิงเรือประมงไทยเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่นั้น พล.ร.อ.จิรพล กล่าวว่า เราก็ต้องถามว่าเขาทำเพราะเหตุใด อย่างไรก็ตาม ก็ต้องรายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น รมว.กลาโหม และนายกรัฐมนตรี ให้รับทราบต่อไป


ขณะที่ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ปัจจุบันกองทัพเรือ อยู่ระหว่างการประสานกับกองทัพเรือเมียนมา ตามการสั่งการของนายกรัฐมนตรีแล้ว ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กำชับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ประสานกระทรวงการต่างประเทศเมียนมาโดยด่วนอีกทางหนึ่ง ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯได้ดำเนินการแล้ว และจะติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด


ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่ามีการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ รวมทั้งการกระทำรุนแรงเกินกว่าเหตุหรือไม่ เพื่อการดำเนินการเกี่ยวข้องที่เหมาะสมต่อไป


กระทรวงการต่างประเทศซึ่งมีหน้าที่หลักในการช่วยเหลือดูแลคนไทยที่ตกทุกข์ได้ยากในต่างประเทศ ขอยืนยันว่าจะดำเนินการช่วยเหลือคนไทยกลุ่มดังกล่าวอย่างเต็มที่ และจะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบต่อไป

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/JcRSStTqHdY