หาดใหญ่พ้นวิกฤต น้ำเริ่มลดลง พื้นที่ไข่แดงรอดน้ำตีไม่แตก - ชาวเบตง แห่เข้าคิวเติมน้ำมัน หลังฝนถล่ม เส้นทางขนส่งถูกตัดขาด

วันที่ 30 พ.ย. 67 สถานการณ์น้ำท่วมที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่หาดใหญ่ในซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจชั้นนอก ขณะนี้น้ำเริ่มลดลงแล้ว แต่ยังคงมีน้ำทวมบนถนนเพชรเกษมเส้นทางเข้าออกตัวเมืองหาดใหญ่ช่วงหาดใหญ่ เส้นทางฝั่งขาเข้ารถยนต์พอผ่านได้ แต่ขาออกยังปิดถนนตั้งแต่ 4 แยก โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัยสมบูรณ์กุลกัลยา


ผู้ที่จะเดินทางเข้าเมืองหาดใหญ่ควรเลี้ยงไปใช้เส้นทางบิ๊กซีคลองแห เส้นคลองหวะ และเส้นศรีภูวนารถตัดใหม่สะดวกที่สุด


ส่วนภาพรวมของน้ำท่วมพื้นที่หาดใหญ่ในนั้น ขณะนี้ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ในที่ลุ่มชั้นในท้้ง 2 ฝั่ง ทั้่งฝั่งเทศาพัฒนา และฝั่งชุมชนรอบวัดหาดใหญ่ใน แต่น้ำเริ่มลดลงเรื่อยๆ ทางเทศบาลส่งคนงานมาเคลียร์พื้นที่ ส่วนบ้านที่น้ำลดก็เริ่มทำความสะอาดบ้าน


ส่วนพื้นที่โซนเศรษฐกิจไข่แดงย่านการค้าการท่องเที่ยวในเมืองหาดใหญ่ชั้นในตอนนี้ผ่านพ้นช่วงวิกฤติไปแล้วรอดจากถูกน้ำท่วม เพราะขณะนี้น้ำในคลองอู่ตะเภาและคลองระบายน้ำ ร.1 ลดระดับต่ำกว่าตลิ่งราว 1 เมตร


แต่ในพื้นที่รอบนอกของตัวเมืองหาดใหญ่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่บ้านเช่นหมู่บ้านนพเก่าถนนพลพิชัย หมู่บ้านควนสันติ หมู่บ้านบางแฟบ ซึ่งเป็นพื้นที่ติดคลอง และพื้นที่บ้านหน้าควน


ส่วนเส้นทางถนนสายเอเชียช่วงบ้านหน้าระหว่างแยกสนามบินกับแยกคลองหวะ ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ ควนขณะนี้รถทุกชนิดผ่านได้แล้ว แม้จะมีน้ำท่วมถนนทั้งสองฝั่ง แต่เส้นทางลัดเข้าเมืองหาดใหญ่ทางอุโมงค์บ้านหน้าควน น้ำยังท่วม และไหลแรงผ่านไม่ได้


ที่ อ.สะเดา  แม้ฝนจะเบาบางแล้ว แต่น้ำยังท่วมสูงกว่า 1 เมตร เช่น ที่หมู่ 2-3 บ้านท่าโพธิ์ออก-ตก ต.ท่าโพธิ์ รถทุกชนิดยังไม่สามารถใช้เส้นทางได้ ต้องใช้เรือเท่านั้น ตำรวจ ตชด.ค่ายท่านมุก กว่า 20 นาย นำเรือท้องแบน ขนน้ำดื่ม อาหาร ยา และสิ่งของจำเป็น  ไปแจกจ่ายให้ประชาชน  ผู้สูงอายุที่ประสบภัยน้ำท่วมบางคน อยู่บ้านคนเดียว และน้ำท่วมบ้านชั้นล่างหมดแล้ว จะออกไปซื้ออาหารน้ำดื่มก็ไม่ได้   พอเห็นเจ้าหน้าที่เอาของมาแจกก็ถึงกับน้ำตาคลอ  


สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.สงขลา ยังส่งผลกระทบต่อเกษตรกรฟาร์มหมูด้วย โดยที่หมู่ 7 บ้านปลายเหมือง ต.จะโหนง  อ.จะนะ  จ.สงขลา  ฟาร์มหมูของนายสมคิด ไชยบุญแก้ว  ถูกน้ำทะเลอ่าวไทยหนุนเข้าท่วม ประกอบกับมีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้ตอนนี้ ทั้งบ้านพักของนายสมคิดและฟาร์มหมู ถูกน้ำท่วมสูง  โดยที่ฟาร์มหมู น้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร  และน้ำไหลเชี่ยวมาก  ซึ่งฟาร์มหมูของนายสมคิด เลี้ยงหมูของบริษัทแห่งหนึ่ง มีหมูราว 480 ตัว อายุประมาณ 4 เดือนกว่า ใกล้จะจับส่งขายได้แล้ว แต่พอเกิดน้ำท่วม ทางบริษัทเจ้าของหมูก็ติดน้ำท่วมหลายจุด ทำให้มาจับหมูล่าช้ากว่ากำหนด จนถูกน้ำทะเลหนุนเข้าท่วม และตอนนี้น้ำท่วมถึงครึ่งตัวหมูแล้ว และไม่มีทีท่าว่าน้ำจะลดลง  หมูต่างส่งเสียงร้องด้วยความหวาดกลัว  ซึ่งหมูล็อตนี้มีมูลค่าราว 4 ล้านบาท จึงอยากให้หน่วยงานหรือทีมกู้ภัยต่างๆ ที่มีแนวทางอพยพหมูเหล่านี้ได้ เข้ามาช่วยเหลือด้วย


หลังจากได้รับการประสานงาน หลายหน่วยงาน ทั้งทีมกู้ภัย ปศุสัตว์ พร้อมกับเจ้าของฟาร์มหมู ก็ลงพื้นที่ไปช่วยเหลือ  โดยต้องเดินเท้าลุยน้ำเข้าไปที่ฟาร์ม  แต่เดินไปได้แค่ครึ่งทาง ต่างก็ต้องถอยกลับ เพราะน้ำยังท่วมสูง และยังมีฝนตกหนักลงมาต่อเนื่อง ทำให้น้ำยิ่งเพิ่มสูงขึ้นไปอีก และทราบว่ามีหมูบางตัวลอยไปกับกระแสน้ำ มีชาวบ้านที่พายเรือผ่านแล้วพบเห็น ก็สามารถช่วยลากหมูไว้ได้ 6 ตัว  ส่วนในฟาร์มไม่แน่ใจว่าจะเหลืออีกกี่ตัว ล่าสุด หน่วยงานท้องถิ่นนำเรือยนต์ขนาดใหญ่เข้ามาในพื้นที่ เพื่อเตรียมวางแผนช่วยอพยพหมูออกมา ซึ่งต้องประเมินระดับน้ำและความเชี่ยวของน้ำอีกครั้ง เพื่อป้องกันอันตรายของคนที่เข้าไปช่วยด้วย


ขณะที่ ประชาชนในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา แห่นำรถยนต์ รถจักรยานยนต์ มาที่ปั๊มน้ำมัน ในเขตเทศบาลเมืองเบตง จ.ยะลา เพื่อเข้าคิวเติมน้ำมัน  โดยมีตำรวจจราจร สภ.เบตง คอยอำนวยความสะดวก


โดยผู้ใช้ติ๊กตอก ชื่อ นายเจษฎา สิริโยทัย (คมเบตง) โพสต์คลิปรถจำนวนมากจอดรอเข้าคิว จนล้นออกมานอกปั๊ม จอดต่อคิวในเลนซ้ายเพื่อจะรอเลี้ยวเข้าปั๊มกันเป็นแถวยาว เนื่องจากเกรงว่าน้ำมันจะขาดแคลน เลยต้องมาเติมเอาไว้ก่อน และยังพบว่า มีประชาชนนำแกลลอนมาเติมด้วย แต่ทางปั๊มไม่อนุญาตให้เติมใส่แกลลอน  เนื่องจากเกรงน้ำมันจะไม่เพียงพอใส่รถยนต์และรถจักรยายนต์ที่ยังมีคิวยาว  และเกรงว่าหากนำแกลลอนมาใส่  จะนำไปกักตุนและทำให้คนอื่นไม่สามารถเติมน้ำมันได้


ขณะที่ ประชาชนที่มาใช้บริการ บอกว่า เป็นประวัติศาสตร์ที่มีรถมาเข้าคิวยาวขนาดนี้ ซึ่งตนเองก็นำรถยนต์มาเติมเต็มถังเช่นกัน  เพราะมีการประกาศเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยา ว่าฝนยังคงหนักต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 4 ธ.ค.เดือนหน้า ซึ่งเกรงว่า เส้นทางสาย 410 ยะลา-เบตง รถบรรทุกน้ำมันไม่สามารถเดินทางเข้ามาในพื้นที่อำเภอเบตงได้ เนื่องจากเส้นทางถูกตัดขาด


เช่นเดียวกับผู้ใช้ติ๊กตอก Chalita Chalarat ที่โพสต์ภาพรถยนต์ต่อคิวกันเป็นแถวเหยียดเพื่อรอเข้าปั๊มน้ำมัน ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมา  โดยผู้โพสต์ระบุข้อความว่า “เบตงทางขาดกลายเป็นเมืองในเกาะพ้น เจอวิกฤตน้ำมันหมดปั๊มแล้วจ้า จะซื้อน้ำมันเข้าสวนต่อแถวเป็นกิโลเลย ไม่รู้ได้เติมกี่โมง ทั้งผักทั้งของสดเกือบเกลี้ยงตลาดสดเลย”


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปั้มน้ำมัน ในพื้นที่ อ.เบตง หลายปั๊ม เริ่มขาดแคลนน้ำมันแล้ว อย่างเช่น  น้ำมันดีเซล ก็ไม่มีจำหน่ายแล้ว  ส่วนน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ ก็เหลือเพียงเล็กน้อย  โดยตั้งแต่ช่วงบ่าย ปั๊มน้ำมัน ปตท.ที่ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าเมืองเบตง ปิดให้บริการและติดป้ายน้ำมันหมดทุกชนิด ทำให้ประชาชนแห่ไปเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันต่างๆ เช่น  ปั๊ม PT ที่ตั้งอยู่ถนนรัตนกิจ เยื้องโรงพยาบาลเบตง  มีรถต่อแถวล้นออกมานอกปั๊ม ยาวประมาณ   300-400 เมตร  ส่วนที่ปั๊มน้ำมันบางจาก ที่ตั้งอยู่ กม.7 ริมถนนสาย 410 ยะลา-เบตง ต.ตาเนาะแมเราะ  ก็มีประชาชนจำนวนมากนำรถไปเติมน้ำมัน ซึ่งก็ต้องต่อแถวยาว 400-500 เมตร ใช้เวลารอเติมน้ำมันเป็นชั่วโมง  ท้ายแถวก็ยาวล้นออกมาอยู่บนถนน 410  


ขณะที่ผู้สื่อข่าวไปสำรวจที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง   ร้านขายอาหารสด จำพวก ปลา ผักสดชนิดต่างๆ หลายร้าน  ปิดร้านตั้งแต่ช่วงเช้า  บางร้านปิดตั้งแต่ช่วยบ่ายวันที่ 28 พ.ย. เพราะไม่มีสินค้ามาวางขาย ทำให้ภายในตลาดดูโล่งแปลกตา ไม่เหมือนวันปกติที่มีพี่น้องประชาชนจำนวนมาก มายืนเลือกซื้อสินค้ากันเต็มไปหมด พ่อค้าแม่ค้าก็จะส่งเสียงดังแย่งกันขายของ   แต่เมื่อวานนี้ (29 พ.ย.67) ตลาดโล่ง แทบจะไม่มีของสดวางขายเลย  


ทั้งนี้ทางเพจเฟซบุ๊ก 'มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation - WDT' ได้เผยแพร่คลิปนาทีเข้าช่วยเหล่าสุนัขที่ติดอยู่บนหลังคาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้พาน้องหมาทั้งไปพักยังโรงแรม