เก๋งซิ่งปาดลงทางด่วน ตร.ปรับแล้ว 500 - รู้ตัวคนขับแล้ว เก๋งขาวปาดธรรมดาโลกไม่จำ

การทางพิเศษฯ เผย ตำรวจเปรียบเทียบปรับ เก๋งซิ่งปาดลงทางด่วนงามวงศ์วานกะทันหัน ส่วนเคสเก๋งเทสล่าขาว ผกก.ทางด่วน 2 แจง ได้เรียกเจ้าของรถให้การแล้ว พบไม่ใช่คนขับวันเกิดเหตุ อยู่ระหว่างติดตามคนขับตัวจริงเข้าให้ปากคำ ก่อนแจ้งข้อหาตามความผิดจราจร ฐานขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น พร้อมยึดรถ ส่งฟ้องต่อศาลหลังสอบปากคำ


กรณีที่มีผู้ใช้ติ๊กต็อก ชื่อ choopol หรือ Choopol Sriprai โพสต์คลิปวิดีโอจากกล้องหน้ารถ บันทึกเหตุการณ์เก๋งซิ่งปาดลงทางด่วนงามวงศ์วาน แบบกะทันหัน ด้วยความเร็วสูง เกือบชนขอบแบริเออร์


ส่วนอีกกรณีที่มีการนำเสนอไปแล้วคือ กรณีที่เพจ ควายหลุดถนน V1 ได้เผยแพร่ภาพคลิปวิดีโอที่บันทึกได้จากกล้องหน้ารถ เป็นเหตุการณ์ขณะมีรถเก๋งไฟฟ้า ยี่ห้อเทสล่า สีขาว ทะเบียน 2 ขธ 3 กรุงเทพมหานคร ขับรถด้วยความเร็วและอันตราย จากการที่อยู่เลนซ้ายสุดและพยายามปาดเข้าเลนขวาอย่างกะทันหัน แต่รถทางขวาไม่ยินยอม หลังจากนั้นมีการแซงขึ้นมาอยู่ด้านหน้าก่อนเบรกกะทันหันหลายครั้ง เพื่อเป็นการยั่วยุ ถอยหน้า ถอยหลัง จอดแช่อยู่นาน


โดยทั้งสองกรณีนี้ ทีมข่าวตรวจความคืบหน้าไปยังเจ้าหน้าที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ให้ข้อมูลว่า ทั้ง 2 กรณี ตำรวจท้องที่ได้เรียกผู้ครอบครองรถหรือเจ้าของรถมาให้ข้อมูลแล้ว โดยเคสแรกเก๋งซิ่งปาดลงทางด่วนงามวงศ์วาน เป็นท้องที่ สภ.เมืองนนทบุรี ตำรวจได้เปรียบเทียบปรับฐานขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว ซึ่งดำเนินการเปรียบเทียบปรับไปแล้ว 500 บาท


ส่วนเคสเก๋งเทสล่าขาว ประชาสัมพันธ์กองบังคับการตำรวจจราจร ชี้แจงผ่านเพรสข่าว ระบุว่า ด้วยปรากฏคลิปวิดีโอ ซึ่งแพร่หลายในสื่อสังคมออนไลน์ กรณีเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 เฟซบุ๊กใช้ชื่อเพจ ควายหลุดถนน v1 คลิปวิดีโอความยาวประมาณ 3 นาที เป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อเทสล่า สีขาว ขับขี่ในลักษณะปาดซ้ายปาดขวา หน้ารถของผู้ใช้ทางคันอื่น บนทางพิเศษศรีรัชนั้น งานศูนย์ควบคุมจราจร ด่วน 2 กก.2 บก.จร. ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนทางพิเศษศรีรัช บริเวณทางร่วมก่อนทางลงพหลโยธิน 1 (ต่างระดับมักกะสัน) แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 เวลาประมาณ 21.35 น. ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือทรัพย์สินเสียหายแต่อย่างใด


โดยได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ประสบเหตุ ผู้โพสต์คลิป ผู้ครอบครองรถ เข้าให้ปากคำ และทราบตัวผู้ก่อเหตุ ผู้ขับรถขณะเกิดเหตุ ซึ่งเป็นอีกบุคคลหนึ่งแล้ว อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินการตามกฎหมาย


โดยในเรื่องนี้พิจารณาการขับขี่รถ จากคลิปวิดีโอและพยานหลักฐานแล้ว เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ม.43(6) ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น, ม.158/1... ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000 บาท ถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


ขณะที่ พ.ต.อ.พารินท จันทร์เลิศ ผู้กำกับการกองกำกับการ 2 (สน.ทางด่วน 2) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เคสนี้อยู่ในท้องที่ของ สน.ทางด่วน 2 ซึ่งได้เรียกเจ้าของรถเข้ามาพบแล้ว ปรากฏว่าเจ้าของรถกับคนขับเป็นคนละคนกัน ซึ่งเจ้าของรถคันดังกล่าวแสดงอาชีพว่าเป็นผู้ประกอบการเต็นท์รถมือสอง


ผกก. สน.ทางด่วน 2 ยังระบุว่า เคสนี้ต้องรวบรวมพยานหลักฐานและส่งฟ้องต่อศาลแขวง อีกทั้งต้องยึดรถ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดรถเป็นของกลางไว้ก่อน และรอคำสั่งศาลในอนาคต ส่วนที่ต้องยึดรถเนื่องจากว่าคนขับ ขับรถโดยประมาท น่าหวาดเสียว และไม่คำนึงถึงความปลอดภัยบนท้องถนน รวมทั้งระงับใบอนุญาตขับขี่ ซึ่งคนขับรถตัวจริงยังไม่ได้เข้ามาให้ข้อมูลกับทางตำรวจ ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามตัวมาสอบปากคำ เพื่อดำเนินคดีส่งฟ้องต่อศาลต่อไป

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/nsi8sxu5Be0