'ทนายวิฑูรย์' เข้าคุย ‘บอสปัน’ ยันถูกรีดเงิน จ่อแจ้งความ พยายามกรรโชกทรัพย์ - DSI ยันไม่มีเรียกเงิน 10 ล้าน

โฆษกดีเอสไอ ลั่น! พร้อมตรวจสอบคลิปเสียงอ้างจ่ายเงิน 10 ล้าน ยันไม่มีการรับสินบนแต่อย่างใด

วานนี้ (15 พ.ย.) พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศ เปิดเผยว่า ได้รับการสั่งการจากรักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษท่านยุทธนา แพรดำ โดยข้อแรกเราอยากได้ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ถ้าเป็นคลิปเสียงขออนุญาตให้ส่งให้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อดำเนินการดำเนินการตรวจสอบว่าเป็นเรื่องอะไร ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และมีใครเป็นตัวละครที่เกี่ยวข้องบ้างและความจริงเป็นอย่างไร จึงจะชี้แจงอธิบายให้สื่อมวลชนได้ทราบ

เมื่อถามว่าหากไปสืบทราบว่าเป็นเสียงของใครที่อ้างว่ามีการจ่ายเงินให้กับดีเอสไอ 10 ล้านบาท สามารถเอาผิดได้หรือไม่  ทางโฆษกดีเอสไอ บอกว่า ต้องตรวจสอบก่อน ถ้าไม่เป็นความจริงทำให้กรมเสียหาย ก็อาจต้องมีการพิจารณาเรื่องการดำเนินคดี พร้อมย้ำว่า กรมฯ เป็นหน่วยงานของรัฐ พร้อมให้ประชาชนตรวจสอบ แต่ถ้าเกิดเป็นกรณีที่มีการกล่าวหา และทำให้กรมเสียหาย ซึ่งไม่ใช่เฉพาะหน่วยงานอย่างเดียว แต่หมายถึงเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานเราด้วย อันนี้ก็เป็นเรื่องการปกป้องศักดิ์ศรีเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องนี้ด้วย

เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะรับคลิปไปและนำไปดูข้อมูล ก่อนจะเรียกเจ้าของเสียงมาสอบถามหรือไม่ โฆษกดีเอสไอ ตอบว่า เรื่องนี้มีประเด็นสืบเนื่องมาก่อนหน้า ที่ท่านอธิบดีถูกเรียกสอบข้อเท็จจริงที่มีคนกล่าวอ้างว่าเรียกรับประโยชน์อยู่แล้ว ท่านอธิบดีอาจจะส่งเรื่องให้กับคณะกรรมการชุดเดียวกัน มีการประสานขอข้อมูลอย่างเป็นทางการ และเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบให้ถูกต้อง โดยทางโฆษกยืนยันว่าดีเอสไอไม่มีการรับสินบน

------------------------------

“ทนายวิฑูรย์” เข้าเรือนจำพบ “บอสปัน” ปมโดนนักร้องเรียนสาวและฟิล์ม รัฐภูมิ เรียกเงิน 20 ล้าน เล่า บอสปันส่ายหัวทันที หลังเล่าการแก้ต่างของ “ฟิล์ม-เจ๊พัช” ยืนไม่ใช่งบ PR  ระบุ เตรียมแจ้งข้อหา “พยายามกรรโชกทรัพย์” รอบอสพอลเอาผิดในนามบริษัท

วานนี้ 15 พ.ย.67 เมื่อเวลา 13:30 ที่ผ่านมา นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุลหรือบอสพอล ผู้ต้องหาในคดีบริษัท The Icon Group เดินทางไปยังทัณฑสถานหญิงกลาง เนื่องจากบอสปัน หรือ น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร หนึ่งใน 18 ผู้ต้องหาคดีบริษัท The Icon Group ประสงค์ที่จะต้องการพบด่วน กรณีคลิปเสียงเรียกรับเงิน 20 ล้านบาทแลกกับการออกรายการโหนกระแส ที่มี น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ ประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ขายออนไลน์ และนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ ฟิล์ม ศิลปินชื่อดัง  เข้ามาเกี่ยวข้อง รวมทั้งเข้าไปเยี่ยมและพูดคุยกับบอสป๊อป นายหัสยานนท์ เอกชิสนุพงศ์ ฝั่งเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครด้วย

ก่อนที่ในเวลา 15:30 นายวิฑูรย์ ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ระบุว่า หลังจากเข้าเยี่ยม บอกว่ามีทั้งหมด 3 ประเด็นด้วยกัน ประเด็นแรก คือตอนนี้ตัวแทนของบริษัทที่ไม่ใช่ผู้แจ้งความ และไม่ใช่ผู้ต้องหา ซึ่งบางส่วนเป็นแม่ทีมขาย เป็นตัวแทนขาย โดน DSI อายัดบัญชีเป็นจำนวนมาก รวมทั้งผู้เสียหายที่มาแจ้งความด้วย

สืบเนื่องจากยุทธการลำเลียงระเบิด ที่ผู้เสียหายพยายามไปให้ข้อมูลกับตำรวจว่า บริษัทดิไอดคอน ไม่ได้ทำธุรกิจจริง แต่เป็นแชร์ลูกโซ่ ผลของการถูกแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่ส่งผลให้ถูกอายัดบัญชีเพราะตรวจเส้นเงินแล้วมันไปถึงกันหมด  ทั้งนี้ ขอฝากไปถึงตัวแทนฝั่งที่แจ้งความด้วยว่าให้แก้ไขข้อความให้เป็นตามความจริง เพราะวางระเบิดแล้ว พอระเบิดจริงมันไม่เลือกฝั่ง กลายเป็นว่าโดนหมดทั้งสองฝั่ง กลายเป็นว่าบัญชีคุณก็ใช้ไม่ได้ ส่วนมูลค่าและจำนวนคนที่โดนอายัดบัญชีเป็นเท่าไหร่นั้นยังไม่ได้ตรวจสอบโดยละเอียด และตอนนี้มันเลยจุดที่โกรธคนที่ไปแจ้งความแล้ว เพราะอยู่ในช่วงที่ต้องแก้ไขกันไป

ส่วนประเด็นที่ 2 คือประเด็น เงิน 20 ล้านบาท ที่บอสปันมีการพูดคุยกับ น.ส.กฤษอนงค์ และฟิล์ม รัฐภูมิทนายวิฑูรย์ บอกว่า ได้มีการพูดคุยกับบอสปันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  โดยบอสปันให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า วันเกิดเหตุยืนยันว่าไม่ได้ไปคุยในนามส่วนตัว แต่ไปคุยในนามบริษัทดิไอคอน เพราะรอบก่อนหน้าที่บอสพอลไปจ่ายเงินจำนวน 3 แสนบาท เพื่อกำจัดเพจผี แต่ปรากฏว่าเรื่องไม่จบ  บอสปันจึงจะไปคุยแทนในนามบริษัทแทน

ดังนั้น การดำเนินคดี ต้องเปลี่ยนกระแสทิศทางคดีใหม่ จากให้บอสปันเซ็นดำเนินคดี  ต้องเป็นการให้บอสพอลเซ็นดำเนินคดีในนามบริษัท คาดว่าสัปดาห์หน้าจะเซ็นและไปแจ้งความได้ในสัปดาห์หน้า

ส่วนเรื่องข้อหาความนั้น จากการฟังคลิปและดูข้อความต่างๆแล้ว พบว่าหลายถ้อยคำ เป็นการข่มขู่ให้เสียชื่อเสียง เช่น หากคุณไม่ทำตามนี้ พี่หนุ่ม กรรชัย จะโจมตีเรานะ  จะให้พี่หนุ่ม กระทืบทั้งสัปดาห์เลย ดั้งนั้นหากกลัวเสียชื่อเสียง ต้องเอาเงิน 20 ล้านมาจ้างเพื่อไปอกรายการโหนกระแส  โดยตรงนี้ มันไม่ใช่ฉ้อโกง จะเป็นการกรรโชกทรัพย์ แต่ว่าเราไม่ได้จ่ายเงินไปตามนั้น จึงต้องเป็นข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์แทน น่าจะเข้าข่ายมากกว่าฉ้อโกง แต่ฉ้อโกงก็เข้าข่ายเช่นกัน แต่ต้องเลือก 1 ข้อหา

เมื่อถามว่าได้เล่าสิ่งที่ฟิล์ม รัฐภูมิ และเจ๊พัช ออกมาชี้แจงเรื่องเงิน 20 ล้านหรือไม่ นายวิฑูรย์ บอกว่า “หลังจากที่เล่าให้ฟัง บอสปันเขาก็ส่ายหัว เพระวันนั้นมันชัดเจนว่าพยายามทำอะไร  ผมเล่าให้เขาฟังว่า อีกฝ่ายเขาอ้างว่าจ้างทำ PR พอบอสปันฟังปุ๊ป ก็ส่ายหัวทันที จะไปจ้าง PR ได้ยังไง ในเมื่อ PR เรามีอยู่แล้ว”  ส่วนบอสปันเอง ก็ยินดีที่จะให้ตำรวจเข้าสอบปากคำเรื่องนี้

ทนายวิฑูรย์ยังกล่าวถึง เรื่องที่ 3 หลังจากคุยกับบอสปันและบอสป็อป ว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบว่า ผู้เสียหาย 89 รายที่ น.ส.กฤษอนงค์ หรือเจ๊พัช เค เปิดประเด็นมาเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทนั้น เป็นผู้ที่เสียหายจากการลงทุนเปิดบิลในระบบของบริษัท The Icon Group จริงหรือไม่  เนื่องจากตนมีข้อมูลว่า มีบางคนที่สามารถเบิกสินค้าขายได้ตามปกติ แต่มาสมอ้างว่าเป็นผู้เสียหายที่ไม่สามารถเบิกสินค้าได้ แต่เรื่องนี้รอตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน และจะเปิดเผยอย่างละเอียดภายในสัปดาห์หน้า หากพบว่าใครไม่ใช่ผู้เสียหายที่แท้จริง ก็จะถือว่าเป็นผู้ร่วมขบวนการเดียวกัน

ส่วนเรื่องคลิปเสียงล่าสุดระหว่างบอสพอล คุยกับหญิงปริศนา อ้างจ่ายเงินดีเอสไอ 10 ล้านบาท จนต้องขายบ้าน ทนายความบอกว่า ยังไม่ได้ฟัง ยังไม่ได้ยินเรื่องนี้จากบอสพอล คาดว่าน่าจะอยู่ในคลิปเสียง 6 ชม.

https://youtu.be/lsgI2aoKV6g