เชียงใหม่ระทม บ้าน-โรงเรียน-โรงแรม-วัด จมบาดาล แบกโลงฝ่าน้ำขึ้นเมรุ เร่งฌาปนกิจ

เมื่อวันที่ 6 ต.ค.67 สถานการณ์น้ำท่วมเชียงใหม่ ยังวิกฤตหนัก แม้น้ำจะเริ่มลดระดับลง ชาวบ้านทยอยกลับเข้าไปดู ทำความสะอาดบ้าน ร้านค้า โอดครั้งนี้น้ำมาเร็ว มาแรง ป้องกันแล้วเอาไม่อยู่ เสียหายหนัก  


ขณะที่ เมื่อวันที่ 5 ต.ค.67 เพจเฟซบุ๊ก คนล้านนา โพสต์ภาพโบสถ์คริสต์พระหฤทัย ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย ซึ่งน้ำได้ท่วมไปถึงข้างในโบสถ์ ซึ่งเป็นสถานที่จัดพิธีต่าง ๆ


โพสต์ดังกล่าวมีข้อความระบุว่า #เชียงใหม่ สภาพโบสถ์คริสต์ อาสนวิหาร พระหฤทัย รอบนี้วิกฤตกว่าเดิม เวลานี้ (20.20 น.) น้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร มีแนวโน้มสูงขึ้นอีก


เช่นเดียวกับชุมชนบ้านเรือน ย่านถนนเจริญประเทศ (รร.มงฟอร์ต-เรยีนา) ทั้งสาย ยังคงมีน้ำท่วมสูงเช่นกัน รถทุกชนิดเข้าออกไม่ได้ ประชาชนหลายร้อยครัวเรือนเดือดร้อนหนัก


และ เพจเฟซบุ๊ก วัดป่าแพ่ง ได้ไลฟ์ผ่านเพจ พร้อมระบุข้อความพร้อมภาพ โดยระบุว่า นำร่างผู้วายชนม์ ทำการฌาปนกิจยามน้ำท่วม ซึ่งในภาพเป็นการช่วยกันแบกโลงศพฝ่ากระแสน้ำ จากศาลาประกอบพิธี ไปยังเมรุที่อยู่ด้านหลักกุฏิ หลังจากเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา เกิดน้ำท่วมวัดระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร 50 เซนติเมตร จนเข้าท่วมศาลา สาเหตุที่ต้องฌาปนกิจก่อนกำหนดเป็นเพราะได้รับแจ้งจะมีการตัดกระแสไฟฟ้าซึ่งจะส่งผลกับโลงเย็นทั้งหมด โดยทางวัดได้แจ้งญาติของผู้เสียชีวิตทั้งหมดก่อนที่จะดำเนินการแล้ว


จากภาพจะเห็นว่า พระวัดป่าแพ่ง และลูกศิษย์วัด ต้องช่วยกันแบกโลงศพนำร่างผู้วายชนม์ 3 ราย เร่งฌาปนกิจ หลังน้ำท่วมสูงถึงแท่นวางโลงศพ พร้อมระบุว่า หากไม่รีบขนย้ายถ้าแม่น้ำปิงเพิ่มระดับขึ้นมาก็จะทำให้ศพเปียกและส่งกลิ่นเหม็น จึงต้องเร่งจัดการเผาศพให้แล้วเสร็จ เนื่องจากเมรุต้องใช้ไฟควบคุมการการเผาจึงต้องใช้เวลานาน ส่วนแอดมินเพจของวัดบอกว่า ลูกหลานของผู้เสียชีวิตอยากมาส่งดวงวิญญาณครั้งสุดท้าย แต่บ้านน้ำท่วม ออกมาไม่ได้ จึงได้ฝากให้ทางวัดเป็นผู้จัดการทั้งหมด


ส่วนการนำศพออกมาจากศาลาก็เป็นไปด้วยความทุลักทุเล เพราะต้องเดินลุยน้ำที่มีระดับสูงมาก และยังไหลเชี่ยวแรง และค่อนข้างไกลจากเมรุ ส่วนโลงนั้นต้องใช้ถังน้ำแข็งมารองโลงศพเพื่อให้ลอยและไม่เปียกน้ำ ไม่เช่นนั้นจะเผายากมาก โดยพระเณรและอาสาสมัครได้ช่วยกันแบกโลงศพพาร่างผู้วายชนม์ลุยน้ำท่วมไปประกอบพิธีฌาปนกิจที่เมรุ ซึ่งเมื่อวันที่ 5 ต.ค. ได้มีการเคลื่อนย้ายศพจากศาลา และไปฌาปนกิจทั้งหมด 3 ศพ


ส่วนอีกหนึ่งศพซึ่งเป็นศพของแม่ชี ทางญาติโยมได้เคลื่อนย้ายนำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่อำเภอดอยสะเก็ด ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์น้ำท่วมเมืองเชียงใหม่ครั้งใหญ่ในครั้งนี้


นอกจากนี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Nantascha Siriwanathon โพสต์ระบุว่า "ตั้งแต่เช้าถึงตอนนี้ยังไม่มีวี่แววกู้ภัยมาช่วยเหลือออกไปเลย ติดอยู่ใต้คอนโดกันเยอะมากตอนนี้ถูกตัดไฟหมดแล้วค่ะ มีคนแก่ เด็กและผู้ป่วยวีลแชร์ด้วย ต้องการความช่วยเหลือค่ะ # ช้างคลาน # น้ำท่วม # เชียงใหม่"


ต่อมาได้โพสตอีกว่า "ขอความช่วยเหลือค่ะ พิกัด The Astra Condominium Chiangmai ไฟถูกตัดหมดแล้ว มีเกือบ 100 ชีวิตค่ะ ทั้งนักท่องเที่ยว เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยวีลแชร์ ตอนนี้น้ำเกือบ 2 เมตรแล้ว โทรติดต่อ 063-138-2219"


ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ ติดต่อไปยังผู้โพสต์ ระบุว่า น้ำท่วมคอนโดตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งยังไม่มีหน่วยงานใดเข้าช่วยเหลือ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 80% มีผู้ป่วยติดเตียงอยู่ด้วย


ล่าสุด เวลา 20.10 น. ผู้โพสต์ได้อัพเดทว่า "ปลอดภัยแล้วนะคะ ขอบคุณทุกคนและพี่เอก พี่นักข่าวช่อง 3 ที่ช่วยประสานกับกู้ภัยให้ค่ะ ตอนนี้มาพักอยู่โรงแรมแถวนิมมานเรียบร้อยค่ะ ขอบคุณมาก ๆ"

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/gfvMEpRlabk