สังคม

รายสุดท้ายที่เท่าไหร่ ? สาวเครียดถูกมิจฉาชีพหลอกโอนเงินหมดบัญชี โดดเรือข้ามฟาก จบชีวิตกลางเจ้าพระยา

โดย petchpawee_k

7 ก.ย. 2567

692 views

หนุ่มร่ำไห้เข่าทรุดแฟนสาวถูกมิจฉาชีพออนไลน์หลอกลงทุนเอาทองไปจำนำเอาเงินเข้าบัญชีโอนให้ รู้ตัวภายหลังรับไม่ได้กระโดดเรือข้ามฟากฆ่าตัวตาย ด้านพยานคนสุดท้ายเผยปมเหตุ ญาติเผยหลานเก็บเงินเพื่อไถ่นาและสร้างกระต๊อบให้แม่ 


เมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้ (6 ก.ย.) ตำรวจ สภ. เมืองนนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่มูนิธิป่อเต็กตึ๊ง รับแจ้งมีหญิงสาวกระโดดน้ำจากเรือข้ามฟากจนเสียชีวิต บริเวณท่าน้ำนนทบุรี  


ที่เกิดเหตุพบร่างของ น.ส.สดารัตน์ อายุ 28 ปี ชาวจังหวัดนครพนม เสียชีวิตอยู่บนโป๊ะเรือท่าน้ำนนทบุรี ทั้งนี้พบว่าก่อนหน้าที่ผู้เสียชีวิตจะตัดสินใจกระโดดลงจากเรือข้ามฟากนั้น ได้วางทรัพย์สินไว้บนเรือก่อนที่จะตัดสินใจกระโดดจากเรือขณะที่เรือวิ่งมาถึงกลางแม่น้ำเจ้าพระยา โดยในระหว่างนั้นมีผู้โดยสารบนเรือที่เห็นเหตุการณ์พยายามโยนห่วงยางเพื่อช่วยเหลือหลายครั้ง แต่ผู้ตายปฎิเสธด้วยการปัดห่วงยางออก ก่อนจะหมดแรงจมน้ำหายไป


ทั้งนี้ มีคลิปบรรยากาศที่คนขับเรือข้ามฟากกำลังวนหาผู้เสียชีวิต โดยในคลิปมีเสียงพูดว่า "เนี่ย เรือข้ามฟากกำลังวนหาแล้วเนี่ย" พร้อมกับมีเสียงตะโกนบอกให้ช่วยคนหน่อยๆ โดยในคลิปเห็นผู้ตายผลุบๆ โผล่ๆ อยู่ในน้ำก่อนจะจมหายไป


นายมนู อายุ 68 ปี คนขับเรือหางยาว กล่าวว่า ในขณะที่กำลังขับเรือเข้าที่ท่าเรือท่าน้ำนนท์ก็ได้ยินเสียงตะโกนจากเรือข้ามฟากว่าให้ช่วยคนตกน้ำ ตนเองจึงวนเรือเข้าไปตอนแรกก็ยังไม่เห็นคน แต่พอเข้าไปใกล้ๆ จึงเห็นเป็นผู้หญิงลักษณะลอยคว่ำหน้าอยู่ ขณะนั้นตนเองคนเดียวช่วยไม่ไหวจึงได้ช่วยพลิกตัวให้จมูกอยู่เหนือน้ำเป็นจังหวะที่มีเรืออีกลำผ่านมาพอดี จึงได้เข้ามาช่วยกันนำตัวหญิงดังกล่าวขึ้นมาบนเรือและนำมาขึ้นที่โป๊ะเรือเพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ


ทางด้านเด็กนักเรียนที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ในขณะที่ตนเองและกลุ่มเพื่อนนักเล่นกันอยู่ริมน้ำก็เห็นเรือข้ามฟากลอยลำห่างจากฝั่งปลายทางที่จะต้องนำผู้โดยสารไปส่งซึ่งผิดปกติมีมีการขับวน ตนเองยังพูดเล่นกับเพื่อนว่าเรือน้ำมันหมดหรือเปล่า แต่สักพักจึงเห็นลุงคนนึงที่นั่งอยู่ใกล้กันหันมาตะโกนบอกว่ามีคนตกน้ำหลังจากนั้นตนเองก็มองไปที่เรือก็เห็นมีคนบนเรือโยนชูชีพไปให้ แต่ลักษณะเหมือนเขาไม่รับอยู่หลายครั้งจนกระทั่งเรือสามารถช่วยเหลือขึ้นมาได้


ในเวลาต่อมาแฟนหนุ่มของผู้เสียชีวิต ทราบข่าว จึงรีบเดินทางมายังที่เกิดเหตุพร้อมกับปล่อยโฮร้องไห้ออกมาด้วยคสามเสียใจ และเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาผู้ตายไม่เคยบอกอะไรกับตนเลย ตนเพิ่งมารู้จากปากพี่ชายที่เป็นเพื่อนของแฟนว่า เขาไปสมัครทำงานในเฟสบุ๊ค แล้วเขาเพิ่งมาโชว์ให้ตนดูเมื่อกลางวันว่าจะไปถอนเงินออกจากแอพที่กดทำงานมาได้ครั้งละ 10 บาท รวมสองวันที่เขาทำงานมาได้เงินประมาณ 200 กว่าบาท โดยเขาบอกกับตนแค่ว่าจะออกไปถอนเงินมาซื้อขนมมากิน โดยที่เขาก็ไม่ได้บอกว่ามีปัญหาอะไร จนกระทั่งเพื่อนตนไปเห็นเขานั่งอยู่ที่หน้าธนาคารหน้าบางพลัดในตอนบ่าย ตนจึงให้เพื่อนรับเขากลับไปส่งบ้าน แต่เขาก็ไม่ยอมกลับ แล้วเขาก็ขี่ รถ จยย.ของตนหายไป


จนกระทั่งตนมาทราบข่าวอีกทีเมื่อโทรศัพท์หาไปเขาแล้วมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิรับสายก่อนจะแจ้งข่าวร้ายให้กับตนทราบ ตนจึงรีบเดินทางมา ในเบื้องต้นตนเชื่อว่าแฟนสาวของตนถูกมิจฉาชีพออนไลน์หลอกให้ลงทุนจนนำทองไปจำนำ และเมื่อรู้ความจริงว่าถูกหลอกจึงตัดสินใจคิดสั้นดังกล่าว


ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าเบื้องต้น ได้ทำการบันทึกภาพสภาพศพไว้ พร้อมกับสอบถามพยานที่เหตุการณ์ โดยทราบว่าหญิงดังกล่าวนั้นวางทรัพย์สินไว้บนเรือก่อนที่จะกระโดดลงไปในน้ำจนกระทั่งมีเรือเข้ามาช่วยนำตัวขึ้นมาแต่ก็เสียชีวิต ในส่วนของสาเหตุยังไม่ทราบถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุซึ่งจะต้องสอบถามญาติเพิ่มเติมอีกครั้ง จากนั้นจึงได้มอบผู้เสียชีวิต ให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อชันสูตรต่อไป

ส่วนทรัพย์สินในกระเป๋าของผู้ตายที่ถอดวางไว้บนเรือพบว่ามีตั๋วจำนำทอง 3 ใบ แบ่งเป็นใบละ 1 แสนบาท ใบละ 5 หมื่นบาท และใบละ 4.2 หมื่นบาท รวมเป็นเงิน 192,000 บาท นอกจากนี้ยังพบใบนำฝากเงินของธนาคารแห่งหนึ่งที่ผู้ตายเพิ่งนำเงินสดไปฝากเข้าธนาคารในช่วง 13.30 น. อีก 1 ใบ 142,000 บาท


ต่อมาเวลา 19.30 น. นายเอกอมร บุญมงคลกิต อายุ 35 ปี เพื่อนแฟนหนุ่ม ซึ่งเป็นคนสุดท้ายที่พบ น.ส.สดารัตน์ ผู้ตาย เดินทางมายังโรงพัก สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อปลอบใจแฟนหนุ่มของผู้เสียชีวิต


ก่อนจะเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเป็นสุดท้ายที่ได้พบกับออย ก่อนที่เข้าจะตัดสินใจจบชีวิต โดยตนไปพบเขาที่หน้าธนาคารแห่งหนึ่งตอนบ่าย โดยออยอยู่ในอาการเคร่งเครียด ตนซึ่งเป็นพี่น้องกับเขาและอยู่ด้วยกันมาตลอด เห็นว่าหน้าตาของออยเหมือนคนไม่ได้นอน ตนจึงแกล้งถามเขาไปว่าเสียไปเยอะไหม โอนไปเยอะไหม เขาบอกว่าก้อนใหญ่อยู่เหมือนกัน แต่เขาไม่ได้บอกรายละเอียดให้ตนฟัง ตนจึงให้เขาซ้อนรถ จยย.แล้วขับมาส่งที่บ้านแล้วก็แยกย้ายกันไป เพราะตนติดธุระ จนกระทั่งมารู้อีกทีเมื่อเขาตัดสินใจกระโดดน้ำลงไปฆ่าตัวตาย  ซึ่งสาเหตุเกี่ยวกับแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ที่มาหลอกให้ลงทุนประมาณนี้ ระหว่างที่คุยกันเขาก็ไม่อยากให้ตนรู้เรื่องจำนวนเงินที่เสียไป ซึ่งน่าจะเงินอยู่หลายบาท ทั้งทองที่มีด้วย ที่ผ่านมานิสัยเขาเป็นคนที่ไม่เคยถอดทองออก แต่ครั้งนี้เขาคงไม่อยากให้แฟนรับรู้ว่าเขาถูกหลอกจนหมดตัวจึงตัดสินใจเช่นนี้


ผู้สื่อข่าวรายงานในระหว่างที่ปลอบใจแฟนหนุ่มอยู่หน้าโรงพักซึ่งอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ แฟนหนุ่มได้บอกกับเพื่อนว่า หลังนายเอกอมรพาซ้อนแฟนสาวซ้อนท้ายมาส่งที่บ้านแล้ว แฟนสาวได้โทรมาขอยืมรถ จยย.โดยบอกว่าจะออกไปซื้อของกิน แฟนหนุ่มยังได้ทักไปว่าจะขี่รถ จยย.ออกไปทำไมแดดก็ร้อน ให้สั่งผ่านแอพจะง่ายกว่า แต่แฟนสาวก็ไม่ยอม บอกว่าอยากจะออกไปซื้อของกินเพราะตอนนี้ร้อนไปหมดแล้ว ตนเลยให้แฟนสาวยืมรถ จยย.ไป เพราะไม่อยากผิดใจกับแฟนสาวว่าตนงกรถ จยย.ขนาดคนเป็นแฟนยังไม่ให้ยืม ตนไม่คิดว่าเขาจะยืมรถ จยย.ตนมาทำแบบนี้ และการที่เขาตัดสินใจขี่รถ จยย.จากบ้านย่านบางพลัดมาขึ้นเรือข้ามฟากที่ฝั่งตรงข้ามท่าน้ำนนท์ ทั้งๆ ที่เขาไม่มีเพื่อนหรือคนรู้จักแถวนี้ แสดงว่าเขาตั้งใจมาขึ้นเรือเพื่อจะกระโดดน้ำ


จากนั้นเวลา 20.00 น. นางอธิชา อายุ 57 ปี น้าสาวของผู้เสียชีวิตเดินทางทำเรื่องส่งศพไปที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เปิดเผยว่า หลานบอกตนว่าจะกลับไปตอนปีใหม่ เพื่อจะไปไถ่ที่นาคืน และไปสร้างกระต๊อบน้อยอยู่ที่ทุ่งนา แล้วจะขนของไปไว้ที่นา หลังจากไถ่ที่ดินเสร็จแล้ว จะไปทำโฉนดเพราะที่ตรงนั้นแบ่งกันหมดแล้ว 5 พี่น้อง แต่แม่เขาเอาที่ดินไปจำนำที่ธนาคารกรุงไทย 700,000 บาท แต่จริงๆ ล้านกว่าบาท แต่ไปเอาเข้ากองทุนฟื้นฟูเขาเลยลดให้เหลือ 7 แสนบาท ยังไม่เห็นของที่ตำรวจเก็บมาให้ เป็นใบจำนำทองที่เขาเอาไปจำนำไว้มีอยู่แสนกว่าบาท แล้วเงิน 7 แสนกว่าบาท อยู่ตรงไหนเขาบอกเงินเขาเอง เป็นเงินของเขาเองหามาเอง


โดยเขารับนวดแผนโบราณที่บ้าน แฟนหลานเปิดร้านที่บ้านชั้นล่าง ก่อนที่เขาจะมาเจอกันเขาก็ไปต่างประเทศหลายปีจนมีเงินเก็บ จะเอาเงินไปไถ่ที่นา เขาบอกว่าเขาจะรับผิดชอบที่แม่เป็นคนเอาไปจำนำ หลานบอกว่าจะไปไถ่จริงๆ เขามีเงินแล้ว แต่ตอนนี้เงิน 7 แสนกว่าหายไป มีแต่เงินแสนกว่าบาทที่เขาเอาทองไปจำนำ แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเงินจากการเอาทองไปจำนำหรือเปล่า แต่ในกระเป๋ามีเงินอยู่ 140,000 บาท


แฟนของหลานบอกว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ดูดเงินน้องเอาเงินน้องไปหมดเลยเหลือเงินในบัญชีไม่กี่หมื่น น้องก็เลยเสียใจ บอกว่าขอยืมรถหน่อยจะไปซื้อของกินแล้วก็หายไปเลย มารู้อีกทีโดดน้ำไปแล้ว แฟนของหลานโทรหาตนบอกว่า ออยโดดน้ำ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ดูดเงินไป ตนก็รีบมาทันทีเมื่อวานก็ยังคุยกันอยู่ ไม่มีท่าทีหรืออาการอะไรเลย หลานดีใจที่จะได้ไถ่นาให้แม่ แล้วหลานบอกว่าจะไปสร้างบ้านอยู่ตรงนั้นให้แม่ แม่เขาก็มีบ้านอยู่แต่เขาอยากจะไปอยู่ในท้องไร่ท้องนา ส่วนตนเองก็เพิ่งเสียลูกชายไปซึ่งทั้งสองคนก็สนิทกัน


เบื้องต้นญาติจะนำศพผู้เสียชีวิตส่งไปทำพิธีทางศาสนา ที่จ.นครพนม ส่วนทางด้านคดีแก๊งค์คอลเซ็นต์เตอร์ จะให้ทางแม่ผู้เสียชีวิตรวบรวมหลักฐานเพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อไป




รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/moKEzGK5Lzw

คุณอาจสนใจ

Related News