สลด ดินโคลนถล่มภูเก็ต ดับ 13 ศพ จ่อตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง

ภูเก็ต พบร่างผู้สูญหายจากเหตุการณ์ดินโคลนถล่ม ครบแล้ว สรุปยอดผู้เสียชีวิต 13 ราย


เมื่อวันที่ 24 ส.ค.67 ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ได้ทำการค้นหา พร้อมด้วยสุนัขดมกลิ่น ก็ได้พบร่างผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็น 2 สามีภรรยาชาวเมียนมา นอนกอดกันอยู่ภายในบ้านห้องเช่า ในมือกำทั้งไฟฉายและโทรศัพท์


จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำศพมายังศูนย์กู้ภัยของมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต และเชิญญาติของทั้ง 2 ราย มาดูอัตลักษณ์บุคคล เพื่อให้ยืนยันว่าเป็นญาติที่ได้แจ้งหายไว้หรือไม่ เมื่อญาติได้เข้าไปดูศพทั้งสองศพได้ร้องไห้โฮแทบขาดใจ พร้อมทั้งยืนยันว่าศพทั้ง 2 ใช่ญาติที่ได้สูญหายไป


จากนั้นเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ได้นำร่างผู้เสียชีวิตไปยังโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อให้แพทย์ชันสูตรหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง


จากนั้นในช่วงบ่ายวันเดียวกัน เจอเพิ่มอีก 1 ศพ หลังจากเจ้าหน้าที่ ปภ.ใช้รถแบคโฮค้นหาบริเวณห้องเช่า ซึ่งเป็นหญิงชราป่วยติดเตียงชาวเมียนมา สรุปยอดรวมพบศพผู้ประสบภัย 13 ราย


ด้าน นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงมาตรการแก้ปัญหาดินและหินภูเขาสไลด์ลงมาในพื้นที่ จ.ภูเก็ต หลังมีฝนตกหนักสะสมเป็นเวลานาน ว่า เหตุการณ์ดินและหินจากภูเขาสไลด์ลงมาหลังจากฝนตกหนักนั้น เกิดขึ้นติดต่อกัน 2 ครั้งแล้ว ในช่วง 1-2 เดือนนี้ โดยครั้งแรกเกิดขึ้นในพื้นที่ ต.กมลา เมื่อ ก.ค.ที่ผ่านมา ที่น้ำป่าได้ไหลหลากลงมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับได้นำดินทราย หิน และต้นไม้ลงมาอย่างรวดเร็ว เข้าท่วมบ้านเรือน และครั้งนี้ได้เกิดขึ้นในพื้นที่ ต.กะรน จากการสอบถามกรมทรัพยากรธรณี ทราบว่าเกิดจากฝนตกหนักเกินกว่า 200 มิลลิเมตร ทำให้ดินอุ้มน้ำ เกิดความลื่น และไหลลงมาทั้งสองจุด


โดยกรมทรัพยากรธรณีได้แนะนำให้ปลูกพืชคลุมดิน ซึ่งทางจังหวัดกำลังจัดหาเมล็ดต้นกฐินยักษ์ และต้นไทร มาหว่านตามจุดต่าง ๆ ที่มีความเสี่ยงทั่วทั้งภูเก็ต 7-8 จุด ตามที่ได้มีการบินสำรวจไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเป็นมาตรการเพื่อความยั่งยืนในอนาคต


ส่วนมาตรการทางกฎหมายนั้น จะต้องมีการตรวจสอบผู้ที่ขึ้นไปบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบัน ว่ามีรายใดอยู่ในเขตป่าไม้บ้าง ซึ่งจะทำทั่วทั้งจังหวัด รวมไปถึงมาตรการในการแจ้งเตือนภัย ซึ่งที่กะรนได้มีการแจ้งเตือนแต่เนื่องจากเหตุเกิดในช่วงหัวรุ่งที่คนกำลังนอนหลับกันอยู่ ซึ่งจุดนี้จะต้องมีการปรับแก้กันต่อไป


ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า จุดที่ดินสไลด์ลงมานั้นน่าจะเกิดจากการก่อสร้างลานจอดรถและห้องน้ำของวัดพระใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขานาคเกิด ว่า วัดพระใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าไม้ ทางจังหวัดภูเก็ตจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ โดยมีป่าไม้เป็นเจ้าภาพหลัก และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงภาคประชาชนร่วมด้วย เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากจุดนี้หรือไม่อย่างไร หากไม่เป็นสาเหตุจะได้ดำเนินการในมาตรการอื่นต่อไป


ส่วนทางไหลของน้ำนั้น ทางจังหวัดจะดำเนินการในการก่อสร้างเฟตเวย์ ทางระบายน้ำขนาดใหญ่ที่ท่าเรือ ด้วยงบประมาณ 260 กว่าล้านเพื่อผลักน้ำลงทะเล ส่วนที่กะรนจะทำรางน้ำบนถนนให้กว้างขึ้นเพื่อให้น้ำไหลได้เร็วขึ้น รวมถึงฝายชะลอน้ำที่กมลา ตามที่นายกรัฐมนตรีท่านก่อนได้สั่งการไว้ เพื่อแก้ปัญหาทั้งระบบ

รับชมผ่านยูทูบ :  https://youtu.be/kpC0jDGc2VY