‘ภูเก็ต’ ดินโคลนถล่ม ดับแล้ว 10 ศพ ผู้รอดชีวิตเล่านาทีหนีตาย ได้ยินเสียงดังตึ๊บๆก่อนฝาบ้าน-หลังคาพังถล่ม

ภูเก็ต เหตุดินโคลนถล่ม พบ 10 ศพ เป็นหญิงไทย 2 ราย ชาวเมียนมา  6 ราย และชาวรัสเซีย 2 ราย คาดว่าน่าจะสูญหายอีก 1 ราย ขณะเดียวกัน ฝนตกหนัก ทำเขื่อน-ถนนเลียบหาดกะรน ทรุดตัวหนัก เทศบาลเร่งสำรวจความเสียหาย


ความคืบหน้ากรณีมีฝนตกหนักในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ตั้งแต่คืนวันที่ 22 ส.ค. ต่อเนื่องมาจนถึงช่วงเวลาประมาณตีห้า วานนี้ (23 ส.ค.) ทำให้เกิดน้ำป่าหลากและดินโคลนสไลด์ลงมาจากเทือกเขานาคเกิด  ต.กะรน  อ.เมือง  จ.ภูเก็ต  ดินโคลนถล่มลงมาทับบ้านเรือนประชาชนและวิลลาหรูหลังวัดกิตติสังฆาราม  หรือวัดกะตะ ระหว่างปฏักซอย 2  ปฎักซอย 4  และปฏักซอย 8  ล่าสุด  พบศพผู้เสียชีวิตแล้ว 10 ราย เป็น สองสามีภรรยาชาวรัสเซีย 2 ราย  หญิงไทยชาวสกลนคร 1 ราย  หญิงไทยชาวสุราษฎร์ธานี 1 ราย  ชายชาวเมียนมา 3 ราย และหญิงชาวเมียนมา 3 ราย  เจ้าหน้าที่ทยอยเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตออกนอกพื้นที่เกิดเหตุแล้ว  และคาดว่ายังมีผู้สูญหายอีก 1 ราย เป็นหญิงชราชาวเมียนมา และเป็นผู้พิการป่วยติดเตียง โดยมีเพื่อนยืนยันว่า ขณะเกิดเหตุ หญิงชรานอนอยู่ในห้อง  ส่วนผู้บาดเจ็บ แบ่งเป็นบาดเจ็บสาหัส 3 ราย  บาดเจ็บปานกลาง 3 ราย  บาดเจ็บเล็กน้อย 13 ราย   รวมบาดเจ็บ 19 ราย  แต่เมื่อคืนที่ผ่านมา (23 ส.ค.67) เจ้าหน้าที่ยุติการค้นหาชั่วคราว และจะเริ่มค้นหาใหม่ในวันนี้ (24 ส.ค.67)  

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (23 ส.ค.67) หลังเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งแหตุ  เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ.เทศบาลตำบลกะรน , ปภ.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ระดมกำลังลงพื้นที่ไปช่วยค้นหาผู้สูญหายที่ติดอยู่ในบ้านพักและวิลลาหรูใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุ ก็พบสภาพบ้านเรือนประชาชน  ถูกดินโคลนสีแดงไหลลงมาทับจนบ้านเรือนพังเสียหาย  มีหินก้อนใหญ่ และท่อนไม้กิ่งไม้ที่ไหลลงมากับน้ำและดินโคลน ทับกีดขวางถนนภายในหมู่บ้าน  และเมื่อมองขึ้นไปบนเทือกเขานาคเกิด ก็พบว่ามีดินโคลนไหลลงมาเป็นทางจากบนเทือกเขาสูง จนเห็นได้ชัด และจากภาพมุมสูง จะเห็นว่า เกิดความเสียหายจากดินสไลด์ลงมาเป็นพื้นที่กว้าง โดยเฉพาะบ้านเรือนที่อยู่ติดเทือกเขา และเส้นทางที่ดินถล่มลงมา  ได้รับความเสียหายอย่างหนัก

เจ้าหน้าที่แบ่งกำลังค้นหาและช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ภายในบ้าน โดยที่ปฏักซอย 2 มีบ้านเรือนถูกดินสไลด์ถล่มทับ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย พบศพอยู่ภายในห้องเช่า  และมีคนติดในบ้านได้รับบาดเจ็บ 3-4 ราย  ส่วนปฏักซอย 4 มีอาคารพังเสียหาย  เจ้าหน้าที่ได้รับรายงานว่า ยังมีผู้สูญหายติดอยู่ในบ้านอีกหลายราย

นายศรัทธา ทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต  ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ภัยพิบัติดินโคลนสไลด์จากเทือกเขานาคเกิด  เปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ที่ด้านหลังวัดกะตะ จุดเกิดเหตุ  พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นำกำลังตำรวจ เข้าช่วยค้นหาผู้สูญหาย   พล.ร.ท.สุชาติ ธรรมพิทักษ์เวช ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3  นำกำลังพลเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บและบ้านเรือนเสียหาย 

ขณะที่หน่วยงานท้องถิ่น ผู้นำชุมชน เร่งประชุมเพื่อประสานงานและระดมความช่วยเหลือจากส่วนต่างๆ เข้าพื้นที่ เพื่อลำเลียงอุปกรณ์และเครื่องจักร มาเคลียร์ก้อนหิน ดินโคลน ต้นไม้ที่กีดขวางเป็นอุปสรรคในการค้นหาผู้สูญหาย

เบื้องต้น  ปภ.ภูเก็ต สรุปสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขัง น้ำรอระบาย น้ำป่าไหลหลากและดินสไลด์ถล่ม โดยน้ำท่วมรอการระบายในพื้นที่  ต.ฉลอง บริเวณตลาดแม่สมจิตร ถนนหลวงพ่อฉ้วนตรงข้ามโรงแรมออร์คิด  บริเวณทางขึ้นพระใหญ่ พื้นที่หมู่บ้านฉลองสุข บริเวณสี่แยกไฟแดงวัดใต้ เป็นต้น

ส่วนพื้นที่ ต.กะรน ที่ได้รับผลกระทบหนักมากที่สุด คือ บ้านเรือนภายในปฎักซอย 2 , 4 และ 8 ส่วนปฎักซอยต่างๆ มีน้ำท่วมขังรอการระบาย  

เวลา 10.00 น. พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 4 ราย ที่ปฏักซอย 2 รวมยอดผู้เสียชีวิต เป็น 5 รายแล้ว

และเจ้าหน้าที่ได้รับรายงานเพิ่มเติมว่า มีผู้สูญหายชาวต่างชาติ 2 ราย เป็นสามีภรรยาชาวรัสเซีย ที่พักอาศัยอยู่ในวิลลาหรูบนเขา  คาดว่าติดอยู่ภายในบ้านด้วย โดยเจ้าหน้าที่พบเพียงเอกสารยืนยันตัวบุคคล แต่ยังไม่พบตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แต่หวังว่า ทั้งหมดจะยังมีชีวิตอยู่  

เวลา 12.45 น. นายศรัทธา ทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต  ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ทุกหน่วย ระดมเครื่องจักร รถแบ็คโฮ และกำลังพล  เข้าค้นหาผู้สูญหายที่ติดอยู่ภายในบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย  โดยมีเป้าหมายค้นหา 4 จุดหลักๆ ที่คาดว่าจะมีคนติดอยู่  คือ ที่ปฏักซอย 2  ปฏักซอย 8 บริเวณกลางซอย ท้ายซอย และด้านบนเขา  ทีมค้นหาพบผู้เสียชีวิตเพิ่มจากช่วงเช้า รวมเป็น 8 ราย  ซึ่งรวมถึงสองสามีภรรยาชาวรัสเซียด้วย

ขณะเดียวกันก็จัดตั้งศูนย์อพยพชั่วคราวที่วัดกะตะ มีผู้ประสบภัย 5 ครัวเรือน 25 คน เข้ามาพักอาศัยอยู่ชั่วคราว พร้อมกับประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งปลัดจังหวัด นายอำเภอเมืองภูเก็ต ตำรวจ สภ.กะรน  เจ้าหน้าที่ ปภ.  เจ้าหน้าที่ทหาร และกู้ภัย  เร่งค้นหาว่ามีผู้สูญหายหรือเสียชีวิตเพิ่มเติมอีกหรือไม่  

เวลา 15.00 น. อำเภอเมืองภูเก็ต รายงานการค้นหาผู้สูญหาย  เจ้าหน้าที่สามารถกู้ร่างขึ้นมาได้เพิ่มอีก 1 คน เท่ากับตอนนี้ มีผู้เสียชีวิตจากเหตุดินโคลนถล่มแล้ว 9 ศพ  แบ่งเป็นสองสามีภรรยาชาวรัสเซีย 2 ราย หญิงไทยชาวสกลนคร 1 ราย  ชายชาวเมียนมา 3 ราย และหญิงชาวเมียนมา 3 ราย เป็นแรงงานต่างด้าวที่มาเช่าห้องพักอยู่เพื่อประกอบอาชีพ  และคาดว่ายังมีคนสูญหายอีก 2 ราย  

ขณะที่ น.ส.สุคนธ์ นาคมาตร์ อายุ 34 ปี ชาวจังหวัดตรัง ที่พักอาศัยอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ และหนีตายออกมาได้อย่างหวุดหวิด เล่าเหตุการณ์ให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ฟังว่า  ขณะที่กำลังนอนหลับ ความรู้สึกเหมือนมีอะไรดังตึ้บๆ  จากนั้นทั้งฝาบ้าน หลังคาบ้าน ก็พังถล่มลงมา ตนรีบวิ่งหนีขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้านที่ไหลลงมา เพราะถ้าไม่วิ่งหนี ตนต้องตายแน่ๆ  ซึ่งตนได้รับบาดเจ็บคิ้วแตก แขนขามีรอยถลอก  ถึงตอนนี้ก็ยังตกใจอยู่  ผู้รอดชีวิตรายนี้ยังบอกด้วยว่า ตนแขวนเหรียญหลวงพ่อทวดกับเหรียญ 5 บาทที่มีพญาครุฑอยู่ด้านหลัง ด้านหน้าเป็น ร.9  ซึ่งเชื่อว่าที่รอดมาได้เพราะบารมีของทั้ง 2

กระทั่งเวลาประมาณ 17.00 น.  นายศรัทธา ทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมสรุปสถานการณ์กันอีกครั้ง ก่อนให้สัมภาษณ์ว่า  พบผู้เสียชีวิตแล้ว 10 ราย  โดยรายที่ 10 เป็นหญิง ร่างถูกฝังอยู่ในดินโคลนที่ทะลักเข้ามาภายในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องกู้ร่างด้วยความยากลำบาก เพราะต้องเคลียร์ก้อนอิฐก้อนหิน แผ่นปูนที่ถล่มลงมาทับ แล้วใช้จอบเสียม ค่อยๆ ตักดินโคลนออก  แล้วค่อยๆ ลำเลียงศพออกมาด้านนอก

-------------------------------

ช่วงบ่ายวานนี้ ( 23 ส.ค.67) เรือเอกเจด็จ วชิรศรณ์ นายกเทศมนตรีตำบลกะรน  ลงพื้นที่บริเวณถนนเลียบหาดกะรน  หน้าเทศบาลตำบลกะรน เพื่อตรวจสอบถนนที่ทรุดตัวเป็นวงกว้าง เนื่องจากมีฝนตกหนักในพื้นที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพถนนเลียบหาดกะรน  ผิวถนนด้านบนทรุดตัวลงไปทั้งแถบ ลึกประมาณ 3 เมตร จนมองเห็นท่อระบายน้ำที่ฝังอยู่ใต้ดิน  และทรุดตัวเป็นพื้นที่กว้าง จนไม่สามารถใช้เส้นทางสัญจรได้ เจ้าหน้าที่ต้องนำเทปขาวแดงมากั้น ไม่ให้ประชาชนเข้าไปในพื้นที่ เพราะเกรงว่าถนนจะทรุดตัวลงมาอีก

โดยเรือเอกเจด็จ  เปิดเผยว่า ในพื้นที่ตำบลกะรนมีฝนตกลงมาตั้งแต่เวลา 23.00 น. วันที่ 22 ส.ค.  และมีน้ำท่วมขังทั่วพื้นที่ตำบลกะรน ในช่วงเวลาประมาณ 3.00 น.ของวันที่ 23 ส.ค.   จนเวลาประมาณ 05.15 น. ก็ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุดินสไลด์ ที่หลังวัดกะตะ ปฏักซอย 2  ซึ่งจากการตรวจสอบพื้นที่ พบว่า ดินที่อยู่ด้านบนจุดพระใหญ่ บนเขานาคเกิด สไลด์ลงมาด้านล่าง  

นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานว่า  บริเวณถนนเลียบหาดกะรน ใกล้กับเทศบาลตำบลกะรน  ถนนและเขื่อนกันดินทรุดตัวลงมา  กินพื้นที่ความเสียหายเป็นวงกว้าง

ส่วนสาเหตุที่ทำให้ถนนและเขื่อนกันดินทรุดตัว  เบื้องต้น คาดว่า น่าจะเกิดจากน้ำที่ไหลทะลักลงมาจากภูเขา  ไหลลงทะเลไม่ทัน  ทำให้เอ่อล้นตามท่อระบายน้ำ ทำให้น้ำไหลย้อนกลับเข้าท่วมพื้นที่ และไหลลงมาขังบริเวณริมเขื่อนหน้าหาดกะรน ทำให้เขื่อนรับน้ำหนักไม่ไหว ถนนและเขื่อนเกิดการทรุดตัวลง  ซึ่งถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เพราะถนนและเขื่อนกันดินบริเวณนี้ ทำไว้อย่างดีและแข็งแรงมาก  เบื้องต้นได้กั้นพื้นที่ห้ามบุคคลไม่เกี่ยวข้องเข้าออกจุดที่ถนนทรุด และจุดเสี่ยง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับประชาชนที่จำเป็นต้องใช้เส้นทาง ให้เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น

โดยหลังจากนี้ จะเร่งหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งจัดงบประมาณซ่อมแซม โดยจะดำเนินการในรูปแบบเดิม คือ การกั้นเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ จ.ภูเก็ต ผู้ว่าราชการจังหวัด/ ผู้อำนวยการจังหวัด ประกาศให้พื้นที่ หมู่ที่ 1, 2, 3, 4, ตำบลกะรน, หมู่ที่ 1, 2 ตำบลราไวย์ และ หมู่ที่ 8, 9,10 ตำบลฉลอง เป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย/เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เพื่อให้ส่วนราชการ หน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เข้าดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในเขตพื้นที่ประสบภัยดังกล่าว



รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/0uKhxQe59dE