ตาวัย 95 ให้อภัย ช่างไฟโผล่ขอโทษ แอบกดเงิน 4 หมื่น อ้างไปจ่ายค่าแชร์ ยันจะคืนเงินทั้งหมด

ช่างไฟโผล่ขอโทษคุณตา 95 ปี ยอมรับกดเงินออกไปหลักหมื่นบาทจริง นำไปจ่ายค่าแชร์ โดยติดต่อตำรวจแล้วยืนยันจะมาคืนเงินให้คุณตาทั้งหมด

จากกรณีนายปราโมทย์ ศิวาโมกข์ อายุ 95 ปี ต้องถือไม้เท้าพยุงร่าง เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.เมืองนนทบุรี  ว่าถูกช่างไฟเจ้าประจำ ที่ใช้บริการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านและห้องเช่ามานาน 7 ปี ขโมยเงินจากบัญชีไป 40,000 บาท  เนื่องจากคุณตาไว้ใจให้เอาบัตร ATM พร้อมรหัสไปกดเงินค่าจ้าง จำนวน 3,000 บาท เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา

แต่ปรากฎว่า ช่างไฟกลับกดเงินไปเกิน ถึง 40,000 บาท แล้วเอาบัตรมาคืนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คุณตาก็ไม่ทราบ จนกระทั่ง วันที่ 5 ก.ค. คุณตานำเงินรายได้จากค่าเช่าห้องไปเข้าบัญชี จึงทราบเรื่อง และไปแจ้งความเมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา ด้วยความลำบาก เนื่องจากอายุมากแล้ว โดยหลังจากรับแจ้งความแล้ว ตำรวจก็ประสานไปทางธนาคาร และออกหมายเรียก นายเจษฎา อายุ 33 ปี  ช่างซ่อมไฟฟ้าที่ถูกกล่าวหา มาสอบปากคำ

เมื่อวานนี้ (12 ก.ค.67) ผู้สื่อข่าวไปพบคุณตาปราโมทย์ เล่าทั้งน้ำตาว่า  รู้จักกับช่างไฟคนนี้มานาน ว่าจ้างให้มาซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เป็นประจำ ปกติจะจ่ายค่าซ่อมเป็นเงินสด แต่วันเกิดเหตุ  คุณตาจ้างนายเจษฎา ให้มาซ่อมเครื่องซักผ้าและตู้น้ำหยอดเหรียญ ซึ่งต้องซื้อมอเตอร์ตู้น้ำราคาหลักพัน เงินสดที่มีไม่พอจ่าย จึงให้บัตรเอทีเอ็มกับช่างไฟ ไปกดเงินเอง  คุณตาบอกว่า เสียใจมากที่อุตส่าห์ไว้ใจ ไม่คิดว่าจะมาทำกันแบบนี้ ตนไม่คิดว่าจะดำเนินคดีอะไร แต่ต้องการเงินคืน เพราะตนก็ต้องใช้จ่ายซื้อข้าวกินในแต่ละวัน หลังเกิดเหตุ ตนพยายามโทรหาช่างไฟ กว่า 20 สาย แต่เขาไม่ยอมรับ จนกระทั่งตนไปแจ้งความ ตกกลางคืนจึงโทรมาหา บอกว่าขอโทษ แต่ไม่บอกว่าจะเอาเงินมาคืนเมื่อไหร่

ปรากฎว่า ขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังพูดคุยกับคุณตาอยู่นั้น นายเจษฎา ช่างไฟที่ก่อเหตุ เดินเข้ามาในบ้าน และรีบยกมือไหว้ขอโทษคุณตา ยอมรับว่ากดเงินออกไปจริง 40,000 บาท เพื่อนำไปจ่ายค่าแชร์ โดยอ้างว่าได้พูดขอยืมคุณตาแล้ว แต่คุณตาหูไม่ดีอาจจะไม่ได้ยินที่พูดขอยืม ส่วนเรื่องโทรศัพท์ที่ติดต่อไม่ได้ ก็ไม่มีเจตนาหลบหนี แต่โทรศัพท์เน็ตหมด พอติดต่อได้ก็รีบโทรมาขอโทษคุณตา และรีบมาหาที่บ้าน เพราะตกใจที่เป็นข่าว ไม่คิดว่าจะบานปลายขนาดนี้

เบื้องต้น นายเจษฎา ขอไกล่เกลี่ยกับคุณตา โดยจะขอคืนเงิน 40,000 บาท  พร้อมกับโทรไปแจ้งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี  ซึ่งทางพนักงานสอบสวน บอกว่า จะต้องไปบันทึกถ้อยคำที่เจรจากันไว้เป็นหลักฐานตามกฎหมายที่ สภ.เมืองนนทบุรี ด้วย เพราะคดีลักทรัพย์ยอมความไม่ได้ นอกจากคุณตาจะถอนแจ้งความ แต่ทางคุณตาบอกว่า ไม่สะดวกเดินทางไปโรงพัก  นายเจษฎา จึงบอกว่า จะนำเงินมาคืนให้คุณตา วันที่ 23 ก.ค.นี้ เนื่องจากในวันนั้น คุณตาต้องไปทำธุรกรรมฝากเงินที่ธนาคารอยู่แล้ว จะได้ไปทีเดียวเลย จากนั้นก็จะพาคุณตาไปที่โรงพัก เพื่อบันทึกถ้อยคำไกล่เกลี่ยกัน ส่วนเรื่องคดีความ ตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันไว้ และนายเจษฎาได้แสดงตัวกับพนักงานสอบสวน เพื่อให้ข้อมูลแล้ว  

ผู้สื่อข่าวสอบถามคุณตาว่า ให้อภัยนายเจษฎาหรือไม่  ซึ่งนายเจษฎา ต้องเขียนคำถามให้คุณตาอ่าน  เพราะคุณตาหูไม่ดี  คุณตาก็บอกว่า ให้อภัย  ส่วนค่าใช้จ่ายที่คุณตาต้องเสียไปจากการไปแจ้งความ ก็ไม่ติดใจ แต่นายเจษฎารีบบอกว่า ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ตนจะจ่ายให้คุณตาเอง รวมทั้งค่ารถที่ต้องเดินทางไปธนาคารและไปโรงพักด้วย พร้อมกับกราบขอโทษคุณตาที่ตัก  

ซึ่งคุณตายังมีใจเป็นห่วงว่าคดีที่เกิดขึ้น จะทำให้นายเจษฎาทำงานหาเงินต่อไม่ได้ กลัวว่าจะกระทบจนเสียอนาคต และบอกว่าคราวหน้าก็จะยังใช้บริการให้นายเจษฎา มาซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้าให้เหมือนเดิม ส่วนนายเจษฎา ก็บอกว่า ต่อไปจะไม่ไปกดเงินเองแล้ว หากคุณตาเงินสดไม่พอ ก็จะรอจนกว่าคุณตาจะมีเงินสดมาจ่าย  ขณะที่คุณตาก็ฝากขอบคุณผู้จัดการธนาคารและตำรวจ ที่ให้ความช่วยเหลือต่างๆ ด้วย  


รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/cabFvPn9ETA