สังคม

‘เสริมศักดิ์’ ลงพื้นที่เยาวราชเตรียมรับ นทท.เล็งใช้พลัง ‘ลิซ่า’ ดันซอฟต์พาวเวอร์เที่ยวไทย

โดย petchpawee_k

29 มิ.ย. 2567

198 views

รมว.ท่องเที่ยวลงพื้นที่เยาวราช ขอบคุณลิซ่า ไม่ลืมบ้านเกิด ชี้เป็นผู้มีอิทธิพลยิ่งใหญ่ ลั่น ครั้งหน้าหากรู้ว่ามีแพลนอะไร จะให้หน่วยงานออกหน้าไปเตรียมการทันที  ด้าน “ชัชชาติ” เผย ลิซ่าเลือกโลเคชั่นเยาวราชเป็นการกระตุ้นให้ผู้ค้าฯ-ภาครัฐ พัฒนาด้านการค้าทั้งคุณภาพ-ราคา ลั่น หากทำไม่ดี แม้มีร้อยลิซ่ามาก็ไร้ผล นทท.หนีไปที่อื่นหมด


หลังจาก MV เพลงใหม่ "ROCKSTAR" ของ "ลิซ่า ลลิษา มโนบาล" ถูกปล่อยออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งในมีการถ่ายทำที่เมืองไทย เลือกใช้สถานที่ “ถนนเยาวราช” จนเป็นกระแสฮือฮา


วานนี้ (28 มิ.ย.67) ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจถนนเยาวราช เวลา 17.30 น. เป็นช่วงเดียวกันที่นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ พร้อมคณะฯ ลงพื้นที่


โดยนายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า ที่มาลงพื้นที่เยาวราชเนื่องจากกระแส MV ลิซ่ามีการถ่ายทำตรงนี้ ส่งผลให้ประชาชนแหกตามมาเช็คอินเป็นจำนวนมาก และในฐานะที่ รมว.การท่องเที่ยว จึงมาดูเรื่องความเรียบร้อย  โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีนโยบายว่านักท่องเที่ยวถึงไหนหน้าที่ของกระทรวงฯ ต้องเข้าไปดูแล นอกจากนี้ จากการลงพื้นที่ได้คุยกับผู้ค้า  พบว่า มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น  การค้าขายมีมากขึ้น ส่งผลให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น และหลังจากเห็นภาพลิซ่าที่มาถ่ายที่เยาวราชแล้วส่วนตัวก็รู้สึกดี เพราะเป็นการดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวเพิ่มมากขึ้นด้วย  ส่วนตัวดีใจกับพี่น้องชาวเยาวราชด้วย


นายเสริมศักดิ์ ยังบอกว่า ลิซ่าไม่ใช่ผู้ที่มีอิทธิพลธรรมดา แต่เป็นผู้มีอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่ และจากนี้หากรู้ว่าลิซ่ามีแพลนจะทำอะไร ที่ไหนจะให้หน่วยงานออกหน้าไปเตรียมการ ทั้งนี้ ขอขอบคุณลิซ่า ที่ลิซ่าเองไม่เคยลืมบ้านลืมเมืองและกลับมาบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง ว่าจะไปที่ไหนตรงนั้นก็คึกคัก  


ด้าน นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า กระแส ลิซ่า ยังคงแรงอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้เปิดตัวเอ็มวีเพลงใหม่ ROCKSTAR ซึ่งใช้สถานที่ถ่ายทำเป็นบริเวณถนนเยาวราช ประเทศไทย


โดยลิซ่า ถือเป็นซุปเปอร์สตาร์ต้นแบบของคนรุ่นใหม่ที่ได้สร้างปรากฏการณ์และจุดพลังซอฟต์พาวเวอร์ของไทยให้เป็นที่ประจักษ์ในระดับโลกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งผ่านผลงานเพลงและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต อาทิ การนำเสนอเครื่องแต่งกายผ้าไทย วัฒนธรรมอาหาร แหล่งท่องเที่ยวในไทย ทำให้เอ็มวีเพลงที่มีการถ่ายทำในถนนเยาวราชก็เช่นกัน เชื่อว่าจะสร้างปรากฎการณ์ที่ถือเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยผ่านอุตสาหกรรมบันเทิง เข้ามาช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ของประเทศอย่างมาก มีผลต่อการสร้างการรับรู้ในวงกว้างด้วย


นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า สถานที่ถ่ายทำที่ถูกเผยแพร่ออกไป มีผลต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการท่องเที่ยวในเชิงสร้างสรรค์ของนักท่องเที่ยว สะท้อนจากความสำเร็จของเอ็มวีเพลงเดี่ยวเมื่อปี 2564 กับผลงานชื่อเพลง LALISA ซึ่งปรากฏภาพการแต่งกายชุดไทยประยุกต์สีทอง ทอด้วยผ้าทอยกดอกลำพูน สวมชฎา ออกแบบโดยนักออกแบบชาวไทย ซึ่งปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยมากยิ่งขึ้น และมีฉากหลังเป็นปราสาทหินพนมรุ้ง การนุ่งผ้าถุงมัดหมี่ย้อมครามหมักโคลน ลายขอนาค จังหวัดอุดรธานี เดินทางไหว้พระและเยือนโบราณสถานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ทรัพย์สินทางปัญญาที่งดงามของไทย จึงเกิดกระแสนิยมแต่งกายชุดไทยตามแบบลิซ่า และผ้าถุงมัดหมี่ย้อมครามหมักโคลน ลายขอนาค ก็สามารถจำหน่ายได้จำนวนมากด้วย


"กระแสที่ชัดเจนเป็นเรื่องการกล่าวถึงอาหารการกินท้องถิ่นผ่านโซเชียลมีเดียส่วนตัวของลิซ่า อาทิ โรตีสายไหม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และลูกชิ้นยืนกิน จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ด้านอาหารของพื้นที่ ส่งผลให้เกิดกระแสตามรอย โดยเฉพาะเมนูลูกชิ้นยืนกินของลิซ่า ที่มีกระแสความสนใจสูงมาก ประจวบเหมาะกับช่วงที่บุรีรัมย์ มีแผนในการจัดเทศกาลลูกชิ้นยืนกิน ปี 2564 พอดี ทำให้มีผู้คนจากทั่วทุกสารทิศแห่แหนเดินทางไปท่องเที่ยว เกิดเป็นปรากฏการณ์ Go Viral และกระแสวัฒนธรรมอาหารไทยไปทั่วโลก โดยเฉพาะคนไทยที่รู้สึกตื่นเต้น ตื่นตัว และภาคภูมิใจในความเป็นไทยและตัวลิซ่าเป็นอย่างมาก" นางสาวฐาปนีย์ กล่าว


นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า จากการที่ลิซ่านำเสนอความเป็นไทยผ่านการเดินทางท่องเที่ยว การแต่งกาย อาหาร และไลฟ์สไตล์ ทำให้สิ่งต่างๆ เหล่านั้น เกิดการรับรู้ การพูดถึง และทำตาม ถือเป็นพลังเชิงบวกมหาศาลที่ส่งผลต่อประเทศไทย จึงเป็นโอกาสที่ดีที่ ททท. จะได้ต่อยอดประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวอันทรงคุณค่าให้นักท่องเที่ยวชาวไทยได้รู้จักอย่างกว้างขวาง และนำไปสู่การสร้างรายได้สู่เศรษฐกิจฐานรากต่อไป โดย ททท. วางแผนในการส่งเสริมและเผยแพร่ซอฟต์พาวเวอร์ไทยเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวในมิติต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง


ขณะเดียวกันวานนี้ (28 มิ.ถ.67) นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่ด้วยเช่นกัน พร้อมให้สัมภาษณ์ ระบุว่า ปกติลงพื้นที่เยาวราชเป็นระยะอยู่แล้ว และการที่ลิซ่ามาถ่ายทำ MV มองว่าเป็นพลังดึงดูดมากขึ้น จากนี้ต้องเตรียมรับมือให้มากขึ้น จึงลงพื้นที่ในครั้งนี้ โดยพบว่าปัญหาหลักที่ยังมีอยู่คือเรื่องปัญหาการจราจร ความปลอดภัยการข้ามถนน เรื่องการทิ้งขยะ รวมทั้งรถโดยสารสาธารณะที่เข้ามาในพื้นที่ ฯลฯ และตอนนี้กำลังเตรียมทำพื้นฟุตบาทใหม่ทั้งหมด รวมทั้งต้องให้ความสำคัญเรื่องห้องน้ำและเรื่องความสะอาดด้วยเช่นกัน


ทั้งนี้ มองว่า คือเป็นสิ่งที่ดีที่ลิซ่าเลือกถ่ายทำที่เยาวราช และหลายคนแห่มาเช็คอินตามรับว่าเป็นผลด้านดี ไม่ใช่ผลด้านลบเลย จะเป็นผลลบอย่างเดียวหากเราเตรียมรับมือไม่พร้อม จึงเป็นหน้าที่ของทาง กทม. ที่ต้องทำงานให้หนักขึ้น ให้สมกับการเป็นเยาวราชที่หลายคนคาดหวัง และเหมาะสมกับการที่ลิซ่าให้ความกรุณาเลือกโลเคชั่นนี้ ทั้งหมดนี้ส่งผลให้เป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยว ทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้น และคาดว่าหลังจากนี้ จะมีกองถ่ายอีกมากมายมาถ่ายทำ ซึ่งเรามีหน่วยเฉพาะโดยเฉพาะสำหรับการพิจารณาอนุญาตในการถ่ายทำให้สะดวกขึ้น


เมื่อถามว่าจากเรื่องนี้ทาง กทม.จะมีการผลักดันและต่อยอดอย่างไรบ้าง ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ระบุว่า ต้องต่อยอดทั้งหมด ไม่ใช่เพียงเยาวราชเท่านั้น ทั้งเรื่องห้องน้ำสาธารณะ  เรื่องป้ายบอกทาง  การเดินทาง การไม่เอาเปรียบนักท่องเที่ยวรวมทั้งคนไทยด้วย ต้องทำให้ดีและเกิดความเชื่อมั่น


ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวต่อว่า จากการที่พูดคุยกับผู้ค้าฯ ส่วนใหญ่บอกว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี เพราะก่อนหน้านี้ค่อนข้างซบเซา เพราะมีพื้นที่อื่นๆที่ยอดฮิตเป็นจุดแข่งขัน เช่น บรรทัดทอง  ทรงวาด ฯลฯ แต่ถือว่าเป็นเรื่องดีที่มีการแข่งขัน จะได้พัฒนาให้ดีขึ้นเรื่องการบริการ ไม่ใช่ผูกขาดอยู่แค่เพียงที่เดียวที่เยาวราช ดังนั้นการแข่งขันทำให้เราแข็งแรงขึ้น ผู้ค้าเองต้องมีการปรับตัว ราคาต้องเหมาะสม เรื่องคุณภาพก็ต้องมี ไม่เช่นนั้นนักท่องเที่ยวคงหนีไปเที่ยวที่อื่น  ก่อนจะทิ้งท้ายว่า “ต่อให้ร้อยลิซ่ามา ถ้าเราคุณภาพไม่ดีสุดท้ายก็ไม่ยั่งยืน เพราะฉะนั้นมองว่าลิซ่ามาถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะได้กระตุ้น แต่เราต้องทำต่อทำให้ดีด้วยทั้งผู้ค้าและภาครัฐ”

----------------


“รัดเกล้า” เผย รัฐบาลชื่นชม ลิซ่า ที่เป็นแบบอย่างที่ดีของเยาวชนไทย ใช้เยาวราชถ่ายทำ MV ลั่น กระแสโลกตอนนี้ตื่นเต้นมาก ชี้ เป็นการแสดงออกถึงความสำนึกรักบ้านเกิด พร้อมชูศักยภาพ ส่งเสริม Soft Power ท่องเที่ยวและวัฒนธรรมไทย สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล

นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยถึงผลงานมิวสิควิดีโอ (MV) เดี่ยว ชิ้นล่าสุด เพลง "ROCKSTAR" ของลิซ่า ลลิษา มโนบาล ว่านอกจากเป็นการประเดิมเพลงเดี่ยวเพลงแรกจากค่าย LLOUD ซึ่งเป็นค่ายเพลงของ ลิซ่า เอง ยังเป็นการถ่ายทำมิวสิควิดีโอ โดยใช้ทีมงาน นักเต้น นักแสดงประกอบ และสถานที่ในกรุงเทพฯ ได้แก่ ย่านเยาวราช และโรงหนังออสการ์เก่า ซอยเพชรบุรี 39  ซึ่งสิ่งที่ลิซ่าได้ทำนั้น เป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวท้องถิ่น ยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย ดึงดูดผู้ที่ติดตามของลิซ่าที่มีอยู่ทั่วโลกให้หันมาสนใจบรรยากาศการท่องเที่ยวในเมืองไทยมากขึ้น  


ถือเป็นโอกาสเพิ่มกระแสความนิยมในการท่องเที่ยวไทย ให้แฟนคลับ คนรักลิซ่าตามรอย MV มาที่ย่านเยาวราช ที่ตอนนี้ถือได้ว่าเป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ ที่เกิดขึ้นเยาวราชในประเทศไทย  โดยกระแสในสังคมโลกตอนนี้ตื่นเต้นมากๆ เพราะว่าภาพที่ถูกถ่ายทอดออกมา ทำให้เยาวราชดูสวยงามและน่าค้นหามากๆ และเยาวราชจะเป็นจุดที่ใครมา ต้องมาถ่ายให้ได้ เหมือนกับคนไปนิวยอร์คต้องไปถ่ายกับไทม์สแควร์


รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ขอบคุณและชื่นชมลิซ่าที่มีความเป็นเยาวชนไทยตัวอย่าง มีสำนึกรักบ้านเกิด ไม่เคยลืมที่จะใช้ทุกโอกาสในการเผยแพร่วัฒนธรรมไทย เช่นครั้งนี้ที่เลือกใช้โลเคชั่นและผู้เกี่ยวข้องชาวไทย เป็นโอกาสแสดงศักยภาพของไทย และเป็นการนำเสนอ Soft Power ของไทย สอดคล้องทิศทางและนโยบายของรัฐบาลที่เมื่อวานนี้ (28 มิถุนายน 2567) ได้คิกออฟงาน THACCA SPLASH : Soft Power Forum ที่จัดโดยรัฐบาล / ซึ่งสิ่งที่ลิซ่าทำในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับเรื่อง Soft Power


 นางรัดเกล้า กล่าวต่อว่า ลิซ่ายังมีความใส่ใจ ละเอียดอ่อนให้การคัดสรรเนื้อหา  ใน MV นั้น  หากสังเกตให้ดี มีกลุ่มผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ LGBTQIAN+สวยๆอยู่ 3 คนที่กำลังเป็นกระแสในโลกออนไลน์ เช่น หมอบรูซ - คชิสรา ศรีดาโคตร รองอันดับ 1 มิสทิฟฟานีไทยแลนด์ปีล่าสุด อีกด้วย นับว่าเป็นการให้พื้นที่กับผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ตอกย้ำเจตนารมณ์ของรัฐบาลที่พร้อมมุ่งหวังเห็นสังคมไทยเป็นสังคมที่เท่าเทียมกัน โดยล่าสุด รัฐบาลเองก็ได้ผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมจนเป็นที่เรียบร้อย


ทั้งนี้ ขอเสริมข้อมูลว่า สำหรับการขอสถานที่ถ่ายทำในกรุงเทพฯ ผู้กำกับทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สามารถขอใช้สถานที่ได้ โดยประสานผ่านศูนย์ประสานงานการถ่ายทำภาพยนตร์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (BFMCC) ที่จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ.2566 เพื่ออำนวยความสะดวกในการขอใช้พื้นที่ของกรุงเทพมหานคร เพื่อถ่ายทำภาพยนตร์


 นางรัดเกล้า ยังฝากทิ้งท้าย ถึงลิซ่าอีกว่า นอกจากเป็นตัวแทนของรัฐบาลแล้ว ยังเป็นตัวแทนของคนไทยด้วย ที่ขอชื่นชมและขอขอบคุณลิซ่าที่เป็นตัวแทนของคนไทยที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศไทย  และยังเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชนด้วย





https://youtu.be/F28Se08Pn-w

คุณอาจสนใจ

Related News