สังคม

เปิดผลชันสูตร ลุงตกท่อดับสลด ญาติร่ำไห้เชิญวิญญาณ-รับร่างทำพิธี จ่อฟ้อง 10 ล้าน

โดย passamon_a

5 พ.ค. 2567

281 views

จากเหตุการณ์สลดที่ นายกำธร อายุ 59 ปี ประสบเหตุเดินตกบ่อพักและท่อร้อยสายไฟของการไฟฟ้านครหลวง ลึก 7 เมตร บริเวณเกาะกลางถนน ปากซอยลาดพร้าว 49 ถนนลาดพร้าว เสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา


ความคืบหน้าเมื่อช่วงสาย วันที่ 4 พ.ค.67 ครอบครัวของนายกำธร ได้เดินทางมายังสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อรับร่างนายกำธรไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่ศาลา 16 วัดธาตุทอง พร้อมทั้งทำพิธีเชิญดวงวิญญาณที่จุดเกิดเหตุ


โดย นายกำพน น้องชายของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ขณะนี้มีหลายหน่วยงานได้ติดต่อเข้ามาเพื่อแสดงความเสียใจ ทั้ง ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้โทรมาขอโทษและมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาให้เล็กน้อย ไปจนถึง สส.เขตวังทองหลาง พรรคก้าวไกล และเลขานุการนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ได้ติดต่อเข้ามาเพื่อช่วยประสานให้การช่วยเหลือเยียวยาแก่ครอบครัว อีกทั้งยังมีบุคคลที่รู้จักที่จะเข้ามารับผิดชอบค่าใช้จ่ายในงานศพให้ทุกบาททุกสตางค์


อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการไฟฟ้านครหลวงนั้น ตอนแรก เลขานุการของนายฐิติวุฒิ เงินคล้าย รองผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง ติดต่อมาว่าแสดงความเสียใจและจะเดินทางมาร่วมงานศพนายกำธร แต่ภายหลังได้ติดต่อกลับมาว่า ทางเลขานุการจะเดินทางไปแทน อีกทั้งจนถึงตอนนี้ การไฟฟ้านครหลวงยังไม่ได้มีการพูดคุยกับครอบครัวเพื่อขอโทษและเรื่องของการเยียวยาความสูญเสียที่เกิดขึ้น


ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเพิ่มเติมว่า มองอย่างไรจากกรณีที่ก่อนหน้านี้ ทางรองผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวงให้สัมภาษณ์ว่าจะให้การรับผิดชอบและร่วมงานด้วยตนเองนั้น แต่กลับให้ตัวแทนมาร่วมงานแทน นายกำพน มองว่า เป็นเพียงแค่การสัมภาษณ์ออกสื่อเฉย ๆ ไม่รู้ว่าเป็นความจริงใจจากหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการนี้หรือไม่ พวกเขาคงอาจจะคิดว่า ผู้ใหญ่ให้ลูกน้องมาแล้วทุกอย่างจะจบเงียบ


ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามอีกว่า ยังคงมีความหวังว่าการไฟฟ้านครหลวงจะแสดงความจริงใจที่จะให้การรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ นายกำพน ระบุว่า คงต้องหวังพึ่งพาบรรดานักการเมืองให้เป็นกระบอกเสียงแทน มิเช่นนั้นกลัวว่าหากเรื่องจบ กระแสจบ แล้วทุกอย่างจะเงียบหายไป


ส่วนถ้าหากว่าการไฟฟ้านครหลวงได้ขอโทษอย่างจริงจัง ทางครอบครัวจะให้อภัยหรือไม่ นายกำพน กล่าวว่า จะให้อภัยได้อย่างไร โดยเฉพาะผู้รับเหมาก่อสร้างที่ทางครอบครัวติดใจและต้องการให้รับผิดชอบ เพราะควรจะต้องดำเนินการก่อสร้างและปิดท่อดังกล่าวให้ดีพอ การเพียงแค่นำแผ่นไม้มาแปะปิดฝาท่อเป็นเพียงการขอทำไปที เพราะแผ่นไม้ดังกล่าวนั้นไม่สามารถรองรับน้ำหนักอะไรได้เลย หากเป็นเด็กที่มีน้ำหนักไม่ถึง 10 กิโลกรัม ก็อาจจะมีสิทธิ์ร่วงลงไปได้เช่นเดียวกัน ประกอบกับแผ่นไม้เจอความชื้นของน้ำและมีดินไหลมาทับ เลยทำให้แผ่นไม้เสื่อมได้เร็วมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่พอหลังเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วเอาแผ่นปูมาปิด แสดงว่าพวกคุณก็มีวัสดุที่สามารถมาปิดท่อได้ แต่พวกคุณไม่คิดจะทำ


อีกทั้งมองว่า หากกลัวฝาท่อจะหาย ทำไมถึงไม่ติดกล้องวงจรปิด แสดงว่าที่ผ่านมาไม่คิดจะรับผิดชอบหรือทำอะไรเลย ทั้งที่ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นเป็นงบประมาณแผ่นดินจากประชาชนทั้งสิ้นและหน่วยงานที่รับผิดชอบเป็นองค์กรขนาดใหญ่ ตนก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรเช่นเดียวกัน


นายกำพน กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนให้การไฟฟ้านครหลวงที่ต้องออกมารับผิดชอบและเปลี่ยนแปลงการปฏิบัติหน้าที่ในส่วนการทำท่อร้อยสายไฟ แต่บางทีอาจจะเป็นความโชคร้ายของนายกำธรที่มาเดินข้ามและเหยียบแผ่นไม้พอดี เพราะปกติเวลาเขาข้ามถนนจะข้ามบริเวณหน้าบ้านซึ่งไม่มีการวางแนวท่อแต่อย่างใด


ส่วนผลชันสูตรของแพทย์เบื้องต้น พบว่านายกำธรเสียชีวิตจากสาเหตุจมน้ำ และกระดูกต้นคอหัก เนื่องจากกระแทกเพราะตกจากที่สูง


ส่วนเรื่องการฟ้องร้องผู้เกี่ยวข้องนั้น ขณะนี้มีการหารือกับคนในครอบครัวและเพื่อนแล้ว ลงความเห็นว่าจะฟ้องร้องเยียวยาค่าเสียหายกับการไฟฟ้านครหลวงเป็นเงินจำนวน 10 ล้านบาท เพราะเป็นวงเงินสูงสุดที่จะสามารถฟ้องร้องได้ แต่เชื่อว่าคงมีการเจรจาต่อรองกัน ซึ่งตนเองอยากให้เห็นใจทางครอบครัว โดยเฉพาะพี่สาวคนโตที่ปกติจะอยู่กับผู้เสียชีวิตด้วยกัน 2 คนมาตลอด แต่หลังจากนี้พี่สาวซึ่งป่วยเป็นโรคเบาหวานกับความดัน คงจะต้องอยู่เพียงลำพัง


หลังจากนี้ทางครอบครัวจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายให้ถึงที่สุด เพราะการสูญเสียนายกำธรนั้น สร้างความสะเทือนใจให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากที่ผ่านมานายกำธรจะเป็นคนที่คอยดูแลพี่สาวคนโตอีก 2 คน ซึ่งหลังจากนี้ตนจะต้องเข้ามาดูแลพี่สาว 2 คนแทน ทำให้ครอบครัว ณ ตอนนี้ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมากขึ้น เพราะตนก็มีหน้าที่การงานและอีกหลายชีวิตที่ต้องดูแล นายกำพน พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ปกติวันเสาร์อาทิตย์จะมารับผู้ตายไปหาอะไรทาน แต่หลังจากนี้ไม่มีเขาอยู่แล้ว ตนมองว่าต่อให้ได้เงินทองมามากเพียงใด ก็ไม่สามารถชดเชยกับความสูญเสียที่เกิดขึ้นได้


ต่อมาเวลา 13.00 น. ครอบครัวนายกำธร เชิญร่างจากสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ มาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณที่จุดเกิดเหตุ โดยมีเจ้าหน้าที่เทศกิจกรุงเทพมหานคร มาคอยอำนวยความสะดวกในระหว่างการทำพิธีและนิมนต์พระคุณเจ้าในการเชิญดวงวิญญาณ ซึ่งทางครอบครัวได้จัดเตรียมข้าวปลาอาหาร ดอกไม้และธูปมาทำพิธี


โดยในระหว่างการทำพิธีเชิญดวงวิญญาณนั้น บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ทั้งน้องชาย และพี่สาวของผู้เสียชีวิตต่างร่ำให้และพูดสื่อไปถึงดวงวิญญาณนายกำธรว่า ขอให้ไปสู่สุคติ ไม่ต้องเป็นห่วงและกังวลครอบครัวแต่อย่างใด โดยเฉพาะนายกำพน ที่รับปากว่าจะดูแลทุกคนในครอบครัวแทน หลังจากนั้นทางครอบครัวได้นำศพนายกำธรไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่ศาลา 16 วัดธาตุทอง โดยจะบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมศพจำนวน 2 คืน ก่อนจะทำพิธีฌาปนกิจศพในวันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม


ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น. ที่ศาลา 16 วัดธาตุทอง ได้มีพิธีรดน้ำศพนายกำธร โดยบรรยากาศการรดน้ำศพเป็นไปด้วยความโศกเศร้า กลุ่มญาติพี่น้องและครอบครัวจารุอนันต์ มาร่วมแสดงความไว้อาลัยนายกำธรกันด้วยความเศร้าสลด ในขณะเดียวกันมีกลุ่มตัวแทนจากการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) มาร่วมในพิธีรดน้ำศพด้วย  


เวลา 17.28 น. นายฐิติวุฒิ เงินคล้าย รองผู้ว่าการ กฟน. เดินทางมางานศพนายกำธร พรอ้มกล่าวแสดงความเสียใจกับนายกำพน น้องชายผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจ เป็นอุบัติเหตุที่ไม่อยากให้เกิด ขณะนี้กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเกิดจากอะไร เราจะดูแลรับผิดชอบทั้งหมด เมื่อวานตนไปที่เกิดเหตุ แต่ไม่มีข้อมูลว่า บ้านอยู่ที่ไหน กระทั่งวางแผนมาร่วมเคารพศพในวันนี้ ตนอยากมาทำความเข้าใจด้วยตัวเอง ไม่อยากเร่งเร้า เร่งรีบอะไร  พร้อมเสนอขอเป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดงานศพวันนี้ และแจ้งว่า กฟน.แบ่งการดูแลออกเป็น 2 ส่วน คือ การจัดสรรเงิน 5 หมื่นบาทให้ก่อน เพราะเป็นความจำเป็นเร่งด่วน และ 2 มีคณะกรรมการมาดูแลเรื่องการเยียวยาอีกที ยืนยันว่า ไม่ทิ้งแน่นอน


จากนั้น นายฐิติวุฒิ เงินคล้าย รองผู้ว่าการ กฟน.ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า เบื้องต้น กฟน.นำเงิน 5 หมื่นบาทมาเป็นค่าใช้จ่ายให้ก่อน อีกส่วนพิจารณาว่า มีมาตรการอะไรช่วยเหลือเยียวยาอะไรได้บ้าง ตอนนี้ตั้งคณะกรรรมาการมาตรวจสอบข้อเท็จจริง และป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก ส่วนเงินเยียวยาจำนวน 10 ล้านบาท ที่ทางฝ่ายญาติเรียกร้อง ตนยังไม่ทราบต้องให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน


สำหรับฝาท่อที่ถูกลักทรัพย์ไป 150 ฝา กฟน.ได้แก้ไขเร่งด่วนด้วยการกว้านซื้อแผ่นปูนจากร้านวัสดุก่อสร้าง มาปิดฝาบ่อทั้งหมดแล้ว และขณะนี้ได้สั่งหล่อแผ่นคอนกรีตฝาท่อมาเปลี่ยนให้หมด การทำฝาท่อ ต้องมีมาตรการป้องกันการขโมย คือ เชื่อมติดไปเลย ส่วนที่ลักขโมยไปทาง กฟน. ได้เข้าแจ้งความไว้แล้วที่ สน.พหลโยธิน สน.โชคชัย และ สน.ลาดพร้าว ซึ่งจะได้มีการติดตามผลต่อไปว่า มีการจับกุมผู้ต้องหาได้แล้วหรือไม่ และนอกจากปัญหาการถูกลักขโมยฝาท่อ ยังมีการถูกลักลอบตัดสายไฟตามเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลืองอีกด้วย เป็นปัญหาที่ทาง กฟน.ต้องร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการหามาตรการป้องกันต่อไป


จากนั้นเวลา 17.30 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางมาร่วมเคารพศพนายกำธร พร้อมกล่าวแสดงความเสียใจกับกลุ่มญาติ และรับปากจะให้ทางเขตวังทองหลางไปดูแลพี่สาวของนายกำธรที่ต้องอยู่เพียงลำพังคนเดียว


ภายหลัง นายชัชชาติ เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครได้มอบเงินเยียวยาให้เป็นมาจากชาวกรุงเทพมหานครช่วยเหลือกัน ปัญหาขณะนี้ไม่ใช่มีแค่ท่อร้อยสาย ทุกโครงการที่ก่อสร้างในกรุงเทพมหานคร ต้องมีการตรวจสอบ และคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า ตนเน้นยำในการดูแลให้เรียบร้อย ต้องร่วมมือกันให้เข้มข้นมากขึ้น ทั้งการโจรกรรมเยอะมากขึ้น ทั้งตัดสายไฟ ต้องอาศัยความร่วมมือกันทั้ง กรุงเทพมหานคร กฟน. รฟม. การประปา การทางพิเศษ เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ และมีแนวนโยบายการติดตั้งทางทางม้าลายที่มีไฟกดให้คนชรา เพื่อให้สิทธิ์คนเดินถนนมากกว่ารถยนต์


จากนั้นเวลา 17.50 น. นายวิลาส เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง มาร่วมงานศพนายกำธร พร้อมมอบเงินสดจำนวน 50,000 บาทให้แก่นายกำพน น้องชายผู้เสียชีวิต ภายหลัง นายวิลาส เปิดเผยว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ทีมผู้บริหารและพนักงาน กฟน.มาร่วมไว้อาลัย เรารู้สึกเสียใจจริง ๆ โครงการที่ทำต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนเมืองให้ดีขึ้น แต่พอเกิดเหตุเช่นนี้ ทำให้รู้สึกเสียใจ ยืนยันว่า กฟน.ไม่ทอดทิ้ง เหมือนอย่างที่ข่าวออกมาในช่วงเช้า ทำให้วันนี้ตนต้องเดินทางมาด้วยตัวเอง เพื่อเป็นการยืนยันว่าจะดูแลและไม่ทอดทิ้งกรณีอุบัติเหตุครั้งนี้


ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง กล่าวว่า ส่วนเรื่องข้อเรียกร้องเงินเยียวยาจำนวน 10 ล้านบาทนั้น ต้องพิจารณาตามข้อบังคับที่เรามีอยู่ และข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ขณะนี้ได้ตั้งกรรรมการมาตรวจสอบว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร หากผลการสอบสวนเป็นอย่างไรจะมีมาตรการต่อไป สำหรับการร้องเรียนที่มีมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายนนั้น ตนเข้าใจว่า ทีมปฏิบัติการน่าจะมีข้อมูลการร้องเรียนของประชาชนเรื่องฝาท่อที่หายไปแล้ว ซึ่งฝาปูนที่นำมาปิดหลังเกิดเหตุไม่ได้มีอยู่ในสต๊อกแต่อย่างใด แต่เป็นการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเร่งด่วน ได้ทดสอบเอาคนขึ้นไปลองเหยียบบนฝา ป้องกันไม่ให้แตกหัก ส่วนบริษัทผู้รับว่าจ้างจะมีมาตรการความผิดอย่างไร ต้องรอการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด ไม่สามารถคาดการณ์ใด ๆ ได้ ส่วนเรื่องฝาท่อที่หายไปที่ผ่านมาได้มีการแจ้งความไว้แล้ว พร้อมสั่งให้ผู้ปฏิบัติงานเข้มงวดกับผู้รับจ้าง ให้ดูแลความคืบหน้าการก่อสร้าง ความปลอดภัย ในพื้นที่ กทม. ต้องเข้มข้นมากกว่าเดิม


https://youtu.be/E32rhsnYTbc

คุณอาจสนใจ

Related News