ยกเลิกงานแล้ว ‘วันไหลเชียงใหม่’ เขื่อนแม่กวง หลังชาวบ้านแฉผู้จัด อ้างเป็นข้าราชการขูดรีดค่าแผง

เชียงใหม่ - ชาวบ้านประท้วงไม่เอางานวันไหล เขื่อนแม่กวง แบ่งล็อคขูดรีดเงิน เผยเจอสติกเกอร์ส่วยขายเหล้า สุดท้ายต้องยกเลิกแล้ว งานวันไหลเชียงใหม่ 21-27 เม.ย.

จากกรณีเมื่อวานนี้ (19 เม.ย.67) นายสุรศักดิ์ สมมิตร ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนอนุรักษ์และพัฒนาสินค้าพื้นเมืองและส่งเสริมช่องทางการจัดจำหน่าย ต.หนองแหย่ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ แถลงข่าวการจัดงาน “วันไหลเชียงใหม่” ที่บริเวณอุโมงค์ส่งน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา ระหว่างวันที่ 21 - 27 เม.ย.2567 เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในพื้นที่และในจังหวัดเชียงใหม่  อีกทั้งยังเห็นว่า ทางจังหวัดเชียงใหม่ยังไม่มีกิจกรรมวันไหลเหมือนจังหวัดอื่น รวมทั้งสนับสนุนซอฟต์พาวเวอร์ตามนโยบายรัฐบาล จึงขออนุญาตจากเขื่อนแม่กวงฯ ขอใช้สถานที่จัดกิจกรรมนี้ขึ้น

โดยจะมีการสรงน้ำพระ มีดีเจเปิดเพลงสร้างบรรยากาศให้นักท่องเที่ยวที่จะมาเล่นน้ำ เปิดสถานที่ขายอาหารเครื่องดื่ม จำนวน 200 ล็อก โดยใช้ไฟฟ้าจากเครื่องปั่นไฟ ไม่ใช้ไฟหลวง ส่วนการจัดเก็บขยะ จะจัดจ้างภาคเอกชนเข้ามาดำเนินการ มีการ์ดดูแลความปลอดภัย และให้หยุดเล่นน้ำตั้งแต่ 18.00 น.ของทุกวันในช่วงจัดงาน ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวต่อวันประมาณ 10,000 – 15,000 คน มีเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท

ปรากฎว่าในเวลาต่อมา มีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่เป็นชาวชุมชนในพื้นที่ ต.ลวงเหนือ อ.ดอยสะเก็ด และอ.หนองแหย่ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ประมาณ 50 คน  รวมตัวกันเข้ายื่นหนังสือต่อศูนย์ดำรงธรรมและนายอำเภอดอยสะเก็ด เพื่อขอความเป็นธรรมและขอให้ตรวจสอบ กรณีที่มีหน่วยงานราชการแห่งหนึ่งขออนุญาตใช้พื้นที่จากเขื่อนแม่กวงฯ แล้วร่วมกับวิสาหกิจชุมชนแห่งหนึ่งจากนอกพื้นที่ เข้ามาจัดงานสงกรานต์และเล่นน้ำในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา บริเวณปากอุโมงค์ส่งน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่าง ต.ลวงเหนือ และ ต.หนองแหย่ง

โดยเปิดให้พ่อค้าแม่ค้าเช่าพื้นที่ขายของ แผงละ 2,200 บาท หากแผงใดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะถูกเก็บเงินเพิ่มอีกแผงละ 2,500 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าทุกปีที่ผ่านมา อีกทั้งรายได้จากการจัดงานครั้งนี้ไม่ได้เข้าชุมชน ขณะเดียวกันทางผู้จัดงานยังเตรียมที่จะจัดงานวันไหลอีกในช่วงวันที่ 21-27เม.ย.67 ทั้งที่ไม่ใช่วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น และเรียกเก็บเงินค่าเช่าพื้นที่เพิ่มอีกแผงละ 1,500 บาท ซึ่งเห็นว่าไม่ถูกต้อง

ตัวแทนพ่อค้าแม่ค้าชาวชุมชนทั้ง 2 ตำบล ระบุว่า การจัดงานทุกปีที่ผ่านมา จะเป็นในลักษณะที่ชุมชนบริหารจัดการร่วมกัน โดยมีการตั้งคณะกรรมการร่วมของทั้ง 2 ตำบล และตัวแทนเขื่อนแม่กวงฯ แต่ปรากฏว่าปีนี้ มีหน่วยงานราชการแห่งหนึ่งทำเรื่องขออนุญาตใช้พื้นที่จากทางเขื่อนแม่กวงฯ แล้วร่วมกับวิสาหกิจชุมชนแห่งหนึ่งจากนอกพื้นที่เข้ามาเป็นผู้จัดงาน โดยเบื้องต้นตามที่กำหนดไว้จะมีการแบ่งพื้นที่ให้ขายของจำนวน 200 ร้าน เก็บค่าเช่าตลอดงานแผงละ 2,200 บาท แต่ปรากฏว่าเมื่อเริ่มงานกลับมาจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 400 ร้าน

ขณะที่ในส่วนของร้านที่เปิดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทางผู้จัดงานเรียกเก็บเงินค่าเช่าเพิ่มแผงละ 2,500 บาท อ้างว่าเป็นค่าขออนุญาตจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และได้รับหลักฐานเป็นเพียงสติ๊กเกอร์ขนาดเท่านามบัตรพิมพ์อักษร “L” จำนวน 1 ใบ ให้เพื่อติดหน้าร้านเท่านั้น จึงไม่แน่ใจว่าได้มีการยื่นขออนุญาตต่อทางสรรพสามิตรอย่างถูกต้องจริงหรือไม่  หรือว่าเงินดังกล่าวตกไปอยู่ที่ผู้ใด เพราะตามเงื่อนไขปกติในการใช้พื้นที่นั้น ทางเขื่อนแม่กวงฯ ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาด

นอกจากนี้ตัวแทนพ่อค้าแม่ค้าชาวชุมชน ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า แม้หน่วยงานที่ทำหนังสือขอใช้พื้นที่และได้รับอนุญาตจัดงานจะเป็นหน่วยงานราชการ แต่แท้ที่จริงแล้ว ผู้จัดงานน่าจะเป็นเอกชนที่ออร์แกไนซ์เซอร์ เนื่องจากการสอบถามพ่อค้าแม่ค้าจากต่างพื้นที่ ที่เข้ามาตั้งร้านขายในงานเดียวกันนี้ บอกว่า ปกติจะตระเวนออกร้านขายของตามงานต่างๆ เป็นประจำอยู่แล้ว โดยที่มีผู้คอยประสานงานและจัดสรรพื้นที่ให้กับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าดังกล่าว จึงเชื่อว่าผู้จัดงานตัวจริงน่าจะเป็นออณแกไนซ์เซอร์มากกว่า

รวมทั้งสงสัยด้วยว่า การจัดงานครั้งนี้ มีการเก็บค่าเช่าพื้นที่แพงกว่าทุกปีที่ผ่านมาที่ชุมชนบริหารจัดการกันเอง  แต่เงินรายได้ที่จัดเก็บได้จากการจัดงานในครั้งนี้  กลับไม่ได้ถูกนำไปใช้เพื่อประโยชน์ของชุมชนท้องถิ่น  แต่น่าจะเป็นการทำกำไรและผลประโยชน์ให้กับผู้จัดงานมากกว่า เพราะทางผู้จัดงานเตรียมที่จะจัดงานวันไหลอีก โดยเก็บเงินค่าเช่าพื้นที่เพิ่มอีก ซึ่งมองว่าไม่เป็นธรรมและเอารัดเอาเปรียบชุมชนมากเกินไป  จึงอยากร้องให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและขอความเป็นธรรมเพื่อรักษาประโยชน์ให้กับชาวชุมชนทั้ง 2 ตำบล

ขณะเดียวกันผู้ค้าอีกรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ในช่วงจัดงานสงกรานต์ที่ผ่านมา ถูกประธานวิสาหกิจชุมชนจากนอกพื้นที่ที่เป็นผู้จัดงาน แสดงพฤติกรรมข่มขู่คุกคาม เนื่องจากตนเองไปแสดงความคิดเห็นเรื่องการที่ผู้จัดงานจะเรียกเก็บเงินเพิ่มร้านละ 1,800 บาท เป็นค่าเช่าพื้นที่ขายในช่วงจัดงานวันไหล ซึ่งตนไม่เห็นด้วยและเสนอให้มีการประชุมผู้ค้าเพื่อตกลงกันก่อนจะดีกว่า

แต่ทางผู้จัดงานได้พูดขึ้นอย่างมีอารมณ์ ตำหนิว่ามีปัญหาเยอะ และบอกว่ารู้หรือไม่ว่า เขาเป็นใคร เขาเป็นข้าราชการซี 8 ดังนั้นอย่ามีปัญหากับเขาจะดีกว่า  ซึ่งช่วงเกิดเหตุนี้ มีพ่อค้าแม่ค้าที่อยู่ในเหตุการณ์หลายราย จึงมองว่าการจัดงานเช่นนี้ในครั้งต่อๆ ไป ไม่ควรให้หน่วยงานจากต่างพื้นที่เข้ามาจัด และให้ชุมชนท้องถิ่นเป็นผู้จัดดีกว่า

ล่าสุด เวลา 14.30 น.วานนี้ (19 เม.ย.67) วิสาหกิจชุมชนอนุรักษ์และพัฒนาสินค้าพื้นเมืองฯผู้จัดงาน“วันไหลเชียงใหม่” แจ้งยกเลิกกิจกรรมดังกล่าวแล้ว โดยระบุว่า ทางวิสาหกิจชุมชนฯ พิจารณาแล้วว่า เพื่อไม่ส่งผลกระทบต่อหลายฝ่าย และสร้างความขัดแย้งกับชาวบ้านในพื้นที่ จึงขอยกเลิกการจัดกิจกรรมครั้งนี้ไปอย่างไม่มีกำหนด จึงขอแจ้งให้พ่อค้าแม่ค้า รวมถึงนักท่องเที่ยวรับทราบโดยทั่วกัน

ในส่วนของชาวบ้านที่จ่ายค่าล๊อคขายของไปแล้ว รายละ 1,500 บาทนั้น ตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งจากทางผู้จัดงาน ว่าจะมีมาตรการเยียวยาหรือคืนเงินอย่างไร  และมีรายงานว่า หากวันจันทร์ที่ 22 เมษายนนี้ ยังไม่มีการคืนเงิน ก็อาจจะมีการรวมตัวไปแจ้งความกันอีกครั้ง

https://youtu.be/Kgarf39Pdjc