สังคม

แจ้งข้อหาประมาท คนขับรถพ่วง จอดเสียกลางสะพาน รถไหลชนตึกพังหวิดถล่ม

โดย thichaphat_d

6 เม.ย. 2567

1.1K views

รถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกคอนเทนเนอร์ จอดเสียกลางสะพานกรุง-นนท์ ซอยสวนผัก 32 ก่อนไหลลงมาจากสะพาน จนทำให้ส่วนรถพ่วงที่บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์หนักกว่า 25 ตัน พุ่งชนกระแทกอาคารพาณิชย์ 1 คูหา พังได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจนอาคารเกือบถล่มลงมา

เมื่อวานนี้ (5 เม.ย.67) ตำรวจ สน.ตลิ่งชัน  รับแจ้งเหตุมีรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ บรรทุกคอนเทนเนอร์จำนวน 1 ตู้  จอดเสียบนเชิงสะพานกรุงนนท์ ข้ามคลองมหาสวัสดิ์ ซอยสวนผัก 32 (ซอยกรุงนนท์) แขวงและเขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ การจราจรติดขัดเนื่องจากกีดขวางการจราจรและเป็นซอยแคบ

แต่ต่อมา เวลา 15.00 น. เกิดเหตุไม่คาดฝัน เมื่อรถพ่วงคันดังกล่าว ไหลจากสะพาน ลงไปชนอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ที่สร้างติดกันประมาณ 20 คูหา ทำให้ให้อาคารพาณิชย์หัวมุม 1 คูหา ที่ตกแต่งเป็นร้านอาหาร ถูกตู้คอนเทนเนอร์ชนพังเสียหาย เสารับน้ำหนักอาคารหักไปประมาณ 2 ต้น แต่อาคารยังไม่ทรุดตัวลงมา โชคดีที่เหตุการณ์นี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่ก็ทำให้การจราจรบริเวณดังกล่าวติดขัดอย่างหนัก เนื่องจากจุดที่เกิดเหตุเป็นซอยแคบ  

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า สะพานกรุงนนท์เป็นสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ รอยต่อระหว่างแขวงและเขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ กับ ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี  สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2516 หรือ 40 ปีก่อน เชื่อมระหว่างถนนสวนผัก ฝั่งกรุงเทพมหานคร กับถนนปลายบาง ไปยังถนนกาญจนาภิเษก และถนนอัจฉริยะประสิทธิ์ ไปยังถนนราชพฤกษ์

ทางกรุงเทพมหานครเคยติดป้าย "ห้ามรถบรรทุกผ่าน เนื่องจากตอม่อสะพานชำรุด" แต่ก็มีรถบรรทุกฝ่าฝืนใช้เส้นทางดังกล่าว เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัดบนถนนราชพฤกษ์ และถนนกาญจนาภิเษก โดยเมื่อปี 2558 กรุงเทพมหานคร เคยมีแนวคิดที่จะซ่อมแซมสะพานพร้อมขยายผิวจราจร แต่ต้องตรวจสอบกรรมสิทธิ์พื้นที่โดยรอบสะพานก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันดังกล่าว เป็นของบริษัท สุขสมบูรณ์ทรานส์เชอร์วิส บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ที่ข้างในมีเครื่องจักรหนัก 25 ตัน  

จากการสอบถามนางดา ผู้พักอาศัยในอาคารพาณิชย์ ห่างจากจุดเกิดเหตุ 4 คูหา เล่าว่า เวลาประมาณ 11 โมง รถคันเกิดเหตุ พยายามวิ่งข้ามสะพานแต่ข้ามไม่ไหว ทั้งที่มีชาวบ้านพยามเตือนคนขับว่าอย่างขับรถข้ามไป แต่คนขับไม่ฟัง พยามดันทุรังข้าม จนทำให้รถค้างอยู่ตีนสะพาน ก่อนที่คนขับจะไปตามรถเครน เพื่อมาดึงรถข้ามไปอีก จนรถข้ามไปถึงเกือบกลางสะพาน แต่ด้วยน้ำหนักของรถ ทำให้รถไหลพุ่งเข้าชนอาคารพาณิชย์ เสียงดังสนั่นหวั่นไหว จนตนเองใจหาย นึกว่าระเบิดลง ซึ่งตอนนี้ก็กังวล กลัวตึกหลังเกิดเหตุจะถล่ม จนส่งผลมาบ้านตนเองด้วย ตอนเองอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแล เพราะมันทำให้คนสองจังหวัดเดือดร้อน

ด้านอาจารย์เบิร์ด ผู้อาศัยอยู่ในย่านนี้ อีกหนึ่งผู้ได้รับผลกระทบ เล่าว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดมาครั้งแรก แต่เคยเกิดเหตุรถน้ำหนักมากพยายามจะขึ้นสะพานแห่งนี้ แล้วรถไหลมา 4-5 ครั้งแล้ว ถนนเส้นนี้มักมีรถบรรทุกหนักแอบข้าม จริงๆ แล้ว มีป้ายห้ามไม่ให้รถบรรทุกวิ่งข้าม แต่ก็ยังมีคนฝ่าฝืน จึงคิดว่าน่าจะมีเหล็กกั้นบนถนน เพื่อกันรถบรรทุกวิ่งข้าม ก่อนหน้านี้เคยมีเหตุการณ์ที่พนักงานการไฟฟ้า  ซึ่งเป็นผู้หญิงขับรถเก๋งตามหลังรถบรรทุกเหล็กเส้น ที่ไหลถอยลงมาเพราะขึ้นไม่ไหว ทำให้เหล็กเส้นพุ่งทะลุเข้ากระจกรถเก๋งของพนักงานการไฟฟ้า โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ถึงขั้นช็อกจนดีออกจากรถไม่ไหว จึงฝากถึงหน่วยงานราชการ ถ้าไม่คิดจะทำอะไรกับสะพานนี้ ก็ควรหาวิธีป้องกันไม่ให้รถใหญ่วิ่งเข้ามา ทางที่ดีควรสร้างสะพานใหม่ไม่ให้มันชันขนาดนี้  

ล่าสุดเช้าวันนี้ (6 เม.ย.67) ทีมข่าวอาชญากรรม ช่อง 3 ได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุอีกครั้ง โดยได้ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบว่า ในช่วงเวลา 10:00 ของวันนี้ ทางวิศวกรรมสถานจะนำอุปกรณ์รถยกและอุปกรณ์ค้ำยันเข้ามาในพื้นที่ เพื่อดำเนินการกู้ซากรถบรรทุกและรถตู้ให้ออกมาจากอาคารหลังดังกล่าว อีกทั้งจะค้ำยันไม่ให้อาคารหลังดังกล่าวพังถล่มลงมา ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลาทั้งวันกว่าปฏิบัติการครั้งนี้จะแล้วเสร็จ

สำหรับสภาพอาคารพาณิชย์ที่ได้รับความเสียหาย พบว่าเสาหน้าของอาคารพังมาและตัวคานของอาคารแตกร้าวได้รับความเสียหาย ข้าวของภายในอาคารพังเสียหายกระจัดกระจาย ยังมีตู้คอนเทนเนอร์และมีอุปกรณ์ค้ำยันบางส่วนจากเจ้าหน้าที่คอยช่วยพยุงอาคารเอาไว้

นอกจากนี้ยังพบว่า ทางฝ่ายโยธา สำนักงานเขตตลิ่งชันได้ปิดประกาศให้อาคารหลังที่ถูกรถบรรทุกชนและอาคารพาณิชย์ข้างเคียงอีก 4 คูหา รวมเป็น 5 คูหา เป็นพื้นที่อันตราย ห้ามมิให้บุคคลใดเข้าไปยังพื้นที่อันตรายเป็นอันขาด ส่งผลให้ผู้พักอาศัยอาคารพาณิชย์ทั้ง 5 คูหา ต้องย้ายไปพักอาศัยที่อื่นเป็นการชั่วคราว อีกทั้งยังได้ปิดกั้นพื้นที่บริเวณโดยรอบว่าเป็นพื้นที่อันตราย ห้ามบุคคลใดเข้าเด็ดขาด

ส่วนสภาพการจราจรภายในซอยสวนผัก 32 เชื่อมไปยังฝั่ง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี พบว่าทางเจ้าหน้าที่ที่ปิดการจราจรเป็นการชั่วคราว โดยอนุญาตให้รถมอเตอร์ไซค์ ผ่านสัญจรไปมาได้เท่านั้นในลักษณะของวันเวย์ มีเจ้าหน้าที่เทศกิจและเจ้าหน้าที่จราจรจาก สน.ตลิ่งชัน คอยอำนวยความสะดวก

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จะปิดการจราจรสมบูรณ์แบบในซอยสวนผัก 32 ตั้งแต่เวลา 10:00 เป็นต้นไป อันเป็นช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่เริ่มปฏิบัติงานกู้สร้างอาคารหลังดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายที่จะกระทบกับประชาชน

ด้าน พ.ต.อ.มนต์ชัย อรุณส่องแสงดี ผกก.สน.ตลิ่งชัน เปิดเผยข้อมูลทางคดีว่า ภายในวันนี้พนักงานสอบสวนจะเรียกคนขับรถและเจ้าของรถบรรทุก 18 ล้อ มาสอบปากคำเพิ่มเติมและเตรียมที่จะแจ้งข้อหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย

นอกจากนี้ ผกก.ยังได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบการกระทำความผิดอื่น ๆ เช่น การฝ่าฝืนป้ายจราจรที่ห้ามรถบรรทุกผ่าน ซึ่งหากพบว่ามีความผิดก็ให้ดำเนินคดีอย่างเต็มที่

ส่วนเรื่องความเสียหายนั้น เบื้องต้นเจ้าของอาคารพาณิชย์ที่ถูกชนเสียหายเข้ามาแจ้งความเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายแล้ว ส่วนอาคารที่เหลืออย่างน้อย 2-3 คูหานั้น อยู่ในระหว่างการรอผลตรวจทางวิศวกรรมอย่างละเอียดอีกครั้ง หากพบความเสียหาย คาดว่าน่าจะเข้ามาแสดงตนเพื่อเรียกร้องความเสียหายต่อไป

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า รถบรรทุกคันดังกล่าวมีประกันวินาศภัยอยู่ที่วงเงิน 600,000 บาท ถึง 1 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้ ทั้งฝั่งเจ้าของรถบรรทุก คนขับรถบรรทุก และเจ้าของอาคารที่รับความเสียหายทั้งหมด จะมีการตกลงเจรจาไกล่เกลี่ยเรื่องค่าเสียหายภายหลัง


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/VTNY2E7pZoU



คุณอาจสนใจ

Related News