เหยื่อเพียบ! รวบครูหื่น ลวงลูกศิษย์สาวมีสัมพันธ์-ถ่ายคลิปลับ ปล่อยโซเชียล สาว 16 เครียดจัดเกือบคิดสั้น

สืบนครบาลรวบครูสอนภาษา ลวงลูกศิษย์สาวมีสัมพันธ์-ถ่ายคลิปลับ พบมีเหยื่ออีกนับ 10 ราย เจ้าตัว ยอมรับถ่ายคลิปจริงปัดเป็นคนปล่อย คาดหลุดตอนเอามือถือไปซ่อม  บางช่วงพูดถึงหัวใจการเป็นครู  บอก “ให้เคารพผู้เรียนอย่างเต็มที่ สนับสนุนให้ผู้เรียนได้เติบโต” ก่อนฝากเป็นอุทาหรณ์ ไม่ควรมีความรักกับนักเรียน หากมีควรอายุ 18 ปีขึ้นไป  ขณะที่เหยื่อเห็นคลิปว่อนเน็ต เสียใจอยู่ต่อไม่ไหว กราบเท้าแม่ขอลาตาย

เมื่อวันที่ 14 มี.ค.67 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล นำโดย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายวัชรวิทย์ หรือเปรม อายุ 28 ปี ชาว อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ จ.173/2567 ลงวันที่ 21 ก.พ. 67 ในข้อหาพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปี เพื่อการอนาจาร หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และนำข้อมูลลามกอนาจารเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์  โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ห้องพักครู โรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.บ่อยาง  อ.เมือง จ.สงขลา        

ช่วงจับกุมตำรวจอ่านหมาย แต่เจ้าตัวยอมรับว่ามีการถ่ายคลิป แต่ว่าลบไปแล้ว พร้อมปฏิเสธว่าเป็นคนปล่อยคลิป แต่คาดว่าน่าจะหลุดไปตอนเอาโทรศัพท์มือถือไปซ่อม ช่วงนี้ตำรวจถามว่าเป็นอะไร เจ้าตัวบอกเป็นครู ตำรวจจึงถามว่าเป็นครูแล้วคบกับนักเรียนได้หรอ ไม่มีครูดีๆที่ไหนเขาคบกับนักเรียนได้หรอก ไม่มีใครทำ ช่วงนี้ครูเปรมได้แต่เงียบ

โดยจุดเริ่มต้น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปี พ.ศ.2565 เด็กสาววัย 16 ปี ได้เข้าเรียนชั้น ม.4 ที่โรงเรียนหญิงล้วน แล้วได้พบกับ “ครูเปรม” ขณะนั้นอายุ 25 ปี ดีกรีจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านปทุมวัน ซึ่งเป็นครูฝึกสอนในโรงเรียนของเธอ ด้วยความคารมดี และมักพุ่งเป้าไปที่เด็กสาวทีมองว่าล่อลวงง่ายก่อนคนที่ตกเป็นเป้าคือ น.ส.เอ (นามสมมุติ) เด็กสาว ม.4 วัย 16 ปี ก่อนจะอาศัยความเป็นครูตีสนิท แล้วใช้หลักการตกลง “เป็นแฟน” กัน ก่อนพยายามฉวยโอกาสที่เด็กสาวยอมแล้ว “ถ่ายคลิปลับ” โดยหลอกเด็กสาวว่าเป็นเรื่องธรรมดาของคนเป็นแฟนกัน พอมีอะไรและได้ถ่ายคลิปลับแล้ว ครูเปรมได้หลบหนีการเกณฑ์ทหารด้วยการบินไปอยู่ประเทศเยอรมัน เป็นเวลากว่า 9 เดือน ก่อนที่ทั้งคู่จะตัดสินใจเลิกกัน

กระทั่งปี 66 เด็กสาวคนนี้ เข้าสู่ช่วงมหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 1 และกำลังได้พบกับความรักครั้งใหม่ เธอ  โพสต์ภาพคู่รักใน ig (อินสตาร์แกรม)  แล้วหลังจากนั้นไม่นานก็พบว่ายอดผู้ติดตามเพิ่มขึ้นโดยไม่มีเหตุผล จนมีพลเมืองดีได้ทักไปบอกกับเธอว่ามี “คลิปลับ” ของเธอได้หลุดในโซเชี่ยล  และเมื่อพลเมืองดีดังกล่าวเปิดวาร์ปให้เธอเข้าไปดูคลิปก็พบว่าเป็นคลิปลับระหว่างเธอกับครูหนุ่ม สมัยที่เธออยู่ ม.4 พร้อมกับเปิดเผยชื่อ ig ไว้ในคลิปด้วย  จนหลายคนสอบถามมายังตัวเอง และรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น จนกลายเป็นคนซึมเศร้าและไม่ไปเรียนที่วิทยาลัย

จากนั้นแม่เด็กสาวเห็นความผิดปกติของลูก จึงสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยทราบจากลูกว่า พอเลิกกับครูรายนั้นแล้ว ครูยังคอยทักเรื่อยๆ โน้มน้าวให้กลับไป ซ้ำยังเข้ามาแอบส่อง ig ของเธออยู่ตลอด ลักษณะเหมือนคนโรคจิต  ส่วนชวนเหตุการปล่อยคลิปนั้นคือภาพคู่กับแฟนใหม่ใน ig 

จากนั้นแม่เด็กได้แจ้งความไว้ที่ สน.แสมดำ ก่อน ประสานมายังทีมสืบสวบนครบาล และได้เล่าให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ฟัง โดยช่วงหนึ่งแม่เด็กเล่าว่า “อยู่ดีๆลูกก็กราบ แล้วพูดว่า แม่ หนูขอร้องเหอะ หนูเรียนที่นี่ไม่ได้แล้วและแม่ ทุกคนเขาเห็นคลิปหนูหมดเลย”

ช่วงนี้แม่เด็กว่าร้องไห้ เล่าว่า “น้องมันกราบเท้าหนู เหมือนจะลาตาย กราบเท้าแล้ว กราบเท้าอีก”  ตัวแม่เองทำได้แต่ปลอบลูกแล้วบอกว่า “เดี๋ยวมันจะผ่านไปๆ เดี๋ยวตำรวจก็ออกหมายจับแล้ว” จนสุดท้ายพล.ต.ต.ธีรเดช สั่งการชุดสืบสวนสืบลงพื้นที่จนจับครูรายนี้ได้ในทันที่สุด

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์พบคลิปการมีเพศสัมพันธ์กับเด็กนักเรียนไม่ต่ำกว่า 15 คลิป และมีภาพวาบหวิวที่นักเรียนส่งมาให้อีกไม่ต่ำกว่า 10 ราย และยังพบแชทสนทนาคุยสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเด็กนักเรียนอีกหลายราย จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง

โดยในชั้นจับกุม นายวัชรวิทย์ ให้การภาคเสธ โดยยอมรับว่า ทำการพรากเด็กไปมีเพศสัมพันธ์และถ่ายคลิปไว้จริง แต่ไม่ยอมรับว่าเป็นผู้ปล่อยคลิปดังกล่าว

จากนั้นตำรวจคุมตัวจาก จ.สงขลา มาที่ ศูนย์สืบ บช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ได้ดำเนินการสอบปากคำครูเปรมด้วยตัวเอง เจ้าตัวให้การว่า ตอนนี้สอนวิชาสังคมและวิชาภาษาเยอรมันก่อนจะเล่าถึงพฤติกรรมตัวตำรวจฟังว่า ตอนฝึกสอนชอบเด็กนักเรียนคนหนึ่ง อยู่ชั้น ม.5 แล้วได้มีเพศสัมพันธ์กัน แล้วก็มีการถ่ายคลิป และคลิปนั้นก็หลุดไป ซึ่งยืนยันว่าเพิ่งเคยทำแบบนี้กับคนนี้คนเดียว  ยอมรับว่าบันทึกไว้ในโทรศัพท์มือถือเครื่องส่วนตัวและเก็บไว้ดูเองซึ่งเป็นเครื่องส่วนตัวทั้งหมด  ไม่ได้ลงในออนไลน์  แต่คาดว่าน่าจะหลุดตอนที่ตนเองนำโทรศัพท์ไปซ่อมตอนอยู่ประเทศเยอรมัน ส่วนที่มีการแปะ ig ผู้เสียหายนั้นตนเองขอไม่ตอบ”  ซึ่ง พล.ต.ต.ธีรเดช ถามว่ามั่นใจหรอ เจ้าตัวบอกว่ามั่นใจ

ก่อนที่ พล.ต.ต.ธีรเดช จะเปิดแฟ้มข้อมูลที่ตำรวจมีให้เจ้าตัวดูแล้วบอกว่าภาพเด็กหญิงคนแรก ครูเปรมบอกว่า คนนี้เจอกันครั้งแรกตอนน้องอยู่ ม.2 เพราะฝึกสอน ก่อนจะเล่าว่า ชอบผู้หญิงใส่แว่น ชอบคนอายุน้อย เห็นชุดนักเรียนแล้วอารมณ์ขึ้น นอกจากนี้ยังมีภาพผ้าในมือถือของครูเปรม ซึ่งครูเปรมบอกกับผู้การฯจ๋อว่า "เอาไว้เพิ่มอารมณ์ ด้วยการมัดแขน มัดขา"

จากนั้น พล.ต.ต.ธีรเดช เปิดแฟ้มหลักฐานให้ครูเปรมดูเรื่อยๆพร้อมกับสอบถามข้อมูลว่าในภาพคือใคร เจ้าตัวก็บอกไปว่าเป็นนักเรียนที่เคยสอน เก็บภาพไว้เพราะน่ารัก ซึ่งมีประมาณ 5-6 คน  ส่วนคนที่ถ่ายคลิปไว้มี 2 คน คือแฟนคนปัจจุบันกับผู้หญิงที่เป็นข่าว ซึ่งตนได้ลบไปแล้ว แต่น่าจะมีในโซเชี่ยลอยู่   ซึ่งช่วงนี้ผู้การฯ จ๋อ ยังได้ถามถึงแชทๆหนึ่งด้วย ที่มีการพูดทำนองว่า ครูเปรมบอกให้ฝ่ายหญิงรีบกลับมา เพราะอยากช่วยฝ่ายหญิงช่วยตัวเอง  ซึ่งฝ่ายหญิงตอบกลับว่า “ครูคนนี้ ติดเมียเด็ก” ครูเปรมก็ตอบ “แล้วเป็นเด็กประจำชั้นยิ่งน่าเย็ด ก่อนที่ฝ่ายหญิงตอบกลับว่า “เย็ดเด็กประจำชั้นครูเปรม” โดยครูเปรมบอกว่าแชทนี้เป็นแชทที่คุยกับแฟนคนปัจจุบัน ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงพฤติการณ์ของครูเปรมไปอีกว่าชอบเด็กนักเรียน

ล่าสุดเช้านี้ (16 มี.ค.67) พนักงานสอบสวน สน.แสมดำ ได้ควบคุมตัวนายเปรมไปขออำนาจศาลอาญาธนบุรีทำการฝากขังผัดแรก ซึ่งระหว่างที่พนักงานสอบสวนกำลังควบคุมตัวนายเปรมไปขึ้นรถนั้น ผู้สื่อข่าวได้ทำการสอบถามถึงข้อเท็จจริงต่างๆ และนายเปรมก็ยังยืนยันว่า ตนเองได้มีการถ่ายคลิปขณะร่วมหลับนอนจริง แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนปล่อยดังกล่าว ซึ่งนายเปรมอ้างว่าคลิปนั้นหลุดออกมาหลังจากที่ตนเอาโทรศัพท์มือถือไปซ่อม เพราะก่อนหน้านี้ตนได้ลบคลิปให้อดีตแฟนดูทุกครั้งหลังร่วมหลับนอน

โดยนายเปรมอยากจะขอโทษ ครอบครัวและผู้เสียหาย ที่คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปในโซเชียลมีเดีย โดยตรงรู้สึกสำนึกผิดเป็นอย่างมากที่ทำให้ผู้เสียหายต้องตรวจอยู่ในสภาพแบบนั้น และยอมรับว่าตอนนั้นมีความคึกคะนองที่อยากจะถ่ายคลิปเก็บไว้ดูกับอดีตแฟนแค่ 2 คนเท่านั้น

ส่วนทางด้านคดีความ พันตำรวจเอก ปรีชา หนูสลุง ผู้กำกับการ สน.แสมด เปิดเผยกับทีมข่าวผ่านทางโทรศัพท์ว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้มีการแจ้ง 3 ข้อกล่าวหา คือ พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุสมควรเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย  หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ มีลักษณะอันลามก” โดยท้ายคำร้องขอพนักงานสอบสวนได้มีการคัดค้านประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่มีผู้เสียหายเป็นเด็กและเยาวชน

นอกจากนี้ ผู้กำกับการ สน.แสมดำ ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีญาติของนายเปรมมาติดต่อขอเยี่ยมหรือทำเรื่องขอยึดประกันตัวแต่อย่างใด และนายเปรมเองก็ไม่ได้มีภาวะเครียดให้เห็นเมื่อต้องอยู่ในห้องควบคุมตัว

https://youtu.be/8N_PGiW5kZo