สังคม

จับสึกพระสงฆ์หัวร้อน เปิดศึกวางมวยหย่งชุน-ยิปมัน ตีกันในวัดเลือดอาบ

โดย petchpawee_k

2 มี.ค. 2567

17 views

เมื่อวานนี้ (1 มี.ค.67)  เวลา 16.00 น.  เกิดเหตุพระลูกวัดของวัดกู้  ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี  ทะเลาะวิวาทชกต่อยกัน


ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นกุฎิ 2 ชั้น บนกุฏิชั้น 2 พบพระสมิทธิ์ กตธัมฺโม อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นผู้แจ้งเรื่อง เล่าว่า ช่วงเที่ยง พระสนธยา อายุ 62 ปี  ซึ่งเป็นพระลูกวัด และพระมหาสุโข อายุ 29 ปี  เป็นพระมาจากจังหวัดนครสวรรค์  มาจำพรรษาที่วัดกู้ได้ประมาณ 3 เดือน  เกิดมีปากเสียงกัน และพระมหาสุโข ชกต่อยพระสนธยา ซึ่งพระสมิทธิ์ เป็นคนกลางเข้าไปห้าม แต่กว่าจะหย่าศึกได้ พบว่าพระสนธยา ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัย นำตัวไปส่ง รพ.ชลประทานแล้ว

สอบถามพระมหาสุโข ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุชกต่อย เล่าว่า  ตนเองเรียนมวยหย่งชุน ยิปมัน เพื่อป้องกันตัว ช่วงที่เกิดเหตุ พระสนธยา คู่กรณี  หยิบไม้ถูพื้นมาฟาดตนก่อน  แต่ดีที่ตนฝึกวิชาป้องกันตัวมาทุกอย่าง เลยไม่เป็นอะไร

“อาตมาเองก็คุยกันอยู่ดีๆ พระรูปนั้นก็มาตะคอกใส่อาตมา  อาตมาโมโหเลยผลักอัดกำแพง พระรูปที่มีเรื่องกับอาตมา ทำเหมือนคนบ้าที่มีบัตรบ้า เขาจะกวนประสาทใครก็ได้ ตัวอาตมาก็เป็นคนหัวร้อนอยู่แล้ว เก็บกดมานาน  อาตมาพยายามที่สุดแล้วที่จะไม่ให้ระเบิดลง  พอมาวันนี้อาตมาไปเตือนในเรื่องมารยาทเวลาฉันข้าว  เวลาออกไปสวด  ก็พากันสวดล่ม อาตมาไปเตือนดีๆ  แต่มาตะคอกใส่อาตมา นี่คือครั้งแรกและครั้งเดียวที่มีปัญหากัน”


“อาตมาเพิ่งมาเรียนที่นี่ และก็มีการพูดแขวะมาตลอด  ซึ่งไม่ใช่แค่กับอาตมา  แต่กับพระทุกรูป  เกือบมีมวยกันทุกคน แต่พระรูปนี้มาพลาดตรงที่มาเจออาตมา เพราะอาตมาฝึกทุกอย่าง ทั้งมวยยิปมัน-หย่งชุน ขณะเกิดเหตุเขากัดอาตมานิ้วเกือบขาด  อาตมาจึงเหวี่ยงพระรูปนั้น โดยใช้ท่ามวยปล้ำ มวยจีนที่ฝึกมา รวมทั้งเพลงมวยหย่งชุนที่ฝึกมาตั้งแต่เด็ก และไม่เคยเอามาใช้ทำร้ายใคร” พระมหาสุโขกล่าว


“อาตมาไม่หนี ถ้าโดนจับที่นี่ก็เป็นที่ตายของอาตมา เพราะอาตมาไม่มีที่ตายแล้ว เพราะเมื่อครั้งที่อาตมาอยู่ที่วัดในนครสวรรค์ อาตมาก็โดนคดีแบบนี้เหมือนกัน”


ด้านพระครูวิมลสุวรรณกร เจ้าอาวาสวัดกู้ รองเจ้าคณะอำเภอปากเกร็ด กล่าวว่า พระมหาสุโข มาจาก จ.นครสวรรค์ เพื่อมาขอร่วมอบรมบาลีกับวัดกู้ประมาน 3 เดือนแล้ว  พระมหาสุโข เรียบร้อยไม่เคยมีปัญหาอะไร เรียนปกติ  คิดว่าพระมหาสุโขคงเครียด เลยเกิดพฤติกรรมแบบนี้ขึ้น ฟุ้งซ่าน คุมสติไม่อยู่ ทำร้ายคนโน้นคนนี้  เลยให้ลาสิกขาไปก่อน


ด้านพระมหาจรัญ อายุ 36 ปี พระลูกวัดกล่าวว่า พระมหาสุโข กินยาทุกวัน ไม่รู้ว่ากินยาอะไร กินวันละ 7-8 เม็ด ไม่รู้ว่าขาดยาหรือเปล่าถึงมีอาการแบบนี้


ต่อมาเจ้าหน้า ตร.สภ.ปากเกร็ดได้พาพระมหาสุโข เข้าพบพระครูวิมลสุวรรณกร เจ้าอาวาสวัดกู้ รองเจ้าคณะอำเภอปากเกร็ด เพื่อสึกขาดจากการเป็นพระ ก่อนที่จะนำตัวไปพบพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด ดำเนินคดีตามกฎหมาย


ขณะที่ น.ส.นุสรา ดาลจาวัล   ครูของโรงเรียนแห่งหนึ่ง และเป็นน้องสาวของพระสนธยา  เดินทางมาที่ สภ.ปากเกร็ด  เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี และยื่นเอกสารการตรวจร่างกายจากโรงพยาบาล ให้พนังงานสอบสวนเจ้าของคดี


น.ส.นุสรา กล่าวว่า ตนไปสอบถามหลวงพี่ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งหลวงพี่พอจะพูดคุยได้ เล่าว่า  เกิดเหตุก็ไปฉันเพลด้วยกัน  แล้วหลวงพี่พูดจาไม่เข้าหูพระมหาสุโข  จนเกิดการชกต่อยกัน โดยทางฝั่งหลวงพี่สนธยา ถือท่อแป็ปไว้ป้องกันตัว แต่ฝ่ายพระมหาสุโข คู่กรณี ท่านหนุ่มกว่า และตัวใหญ่กว่า ตอนเกิดเหตุใช้มือเปล่าทุบ ต่อยหน้า และจับหัวหลวงพี่โขกพื้น จนหน้าตาบวมปูด ได้รับบาดเจ็บ  ส่วนอาการตอนนี้ ส่งไปรักษาต่อที่ รพ.เจริญกรุงประชารัฐ   แพทย์บอกว่า กระดูกแก้มแตก  หัวแตก หน้าตาบวมปูด  แต่ไม่มีเลือดคั่งในสมองซึ่งยังต้องรอดูอาการอย่างใกล้ชิด 24 ชั่วโมง


น้องสาวของพระสนธยา บอกว่า ตนก็ไม่รู้ว่าเรื่องราวความขัดแย้งภายในวัดเป็นมาอย่างไร แต่ตนไม่อยากให้พี่ชายต้องมาถูกทำร้ายแบบนี้อีก ตนจึงจะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุอย่างถึงที่สุด เพราะหลวงพี่ก็เป็นพระนักปฏิบัติ  ไม่ใช่พระที่มีความประพฤติไม่ดี  ที่ผ่านมาเวลาท่านถูกกระทำ หรือมีเรื่องทุกข์ร้อนใจ ท่านจะโทรมาบอกเล่าตนตลอด ตนก็บอกให้ท่านอดทน แต่ก็มาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น  หากยังปล่อยให้ผู้ก่อเหตุอยู่ในวัดอีก ก็ไม่รู้ว่าจะก่อเหตุซ้ำหรือไม่ จึงยืนยันว่าจะเอาผิดให้ถึงที่สุด



https://youtu.be/A8H8znb4axk

คุณอาจสนใจ

Related News