วินาศสันตะโร! คนขับเผลอเหยียบคันเร่งแทนเบรก รถเมล์สาย 40 พุ่งชนรถพังยับ 20 คัน บาดเจ็บ 4 ราย

วินาศสันตะโร! รถเมล์พุ่งชนเก๋งระนาว หน้าจุฬาฯ รถพังยับ 20 คัน บาดเจ็บ 4 ราย คนขับยอมรับ เผลอเหยียบคันเร่งแทนการเหยียบเบรกรถทำให้รถเกิดพุ่งไปชนกับรถด้านหน้า


วานนี้ (1 ธ.ค.) เวลา18.25 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ สาย 40 เสียหลักพุ่งชนรถของประชาชนที่สัญจรอยู่บนถนนพญาไท บริเวณสามย่านมิตรทาวน์ มุ่งหน้าห้างมาบุญครอง ใกล้เคียงประตูใหญ่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีรถยนต์และรถจักรยานยนต์เสียหายหลายคัน จึงรุดไปตรวจสอบ

 ขณะเดียวกันอุบัติเหตุดังกล่าว ส่งผลให้การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นช่วงเย็น และวันหยุด ทำให้มีปริมาณรถจำนวนมาก จึงเกิดการติดขัด เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการแก้ไข และเคลียร์พื้นที่

โดยภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์เวลา 18:09 น. ขณะที่รถเมล์และรถคันอื่น ๆ จอดติดไฟแดงอยู่ ก่อนที่รถเมล์จะพุ่งไปชนกับรถที่จอดด้านหน้าวินาศสันตะโร รถเสียหายระนาว


ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ รถแท็กซี่ รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหายถูกอัดก๊อปปี้อยู่กลางถนนรวมทั้งหมด 20 คัน เจ้าหน้าที่ได้นำรถสไลด์มายกและช่วยกันเข็นรถเข้าข้างทางเพื่อไม่ให้กีดขวางการจราจร เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่ง รพ.เทพธารินทร์ 2 ราย, รพ. ไอเอ็มเอช สีลม 1 ราย และ รพ.หัวเฉียว 1 ราย

นอกจากนี้พบรถโดยสารประจำทาง พลังงานไฟฟ้า สาย 40 สถานีขนส่งสายใต้ใหม่-สถานีขนส่งเอกมัย กันชนหน้ารถเสียหาย ขณะที่คนขับรถและกระเป๋ารถเมล์ นั่งอยู่บนรถเมล์ปิดประตู ไม่ยอมลงจากรถ ผู้สื่อข่าวพยายามเรียกเพื่อขอสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ก็ไม่ยอมเปิดประตูลงมาพูดคุยด้วย ก่อนที่จะมีตัวแทนของบริษัทพาทั้งสองซ้อนรถจักรยานยนต์ไปให้ปากคำกับตำรวจที่ สน.ปทุมวัน


 นายนวพล อายุ 22 ปี ผู้เสียหายขับรถเก๋งโตโยต้าอัลติส สีบรอนซ์ เล่าว่า ตนขับรถจอดติดไฟแดงอยู่ ได้ยินเสียงเบรกรถดังมากรู้ตัวอีกทีรถก็ถูกชนแล้ว โดยรถของตนถูกชนบริเวณด้านท้ายก่อน จากนั้นพุ่งชนกับรถอีกคันที่อยู่ข้างหน้า ซึ่งตอนนั้นตนเองมีสติและเหยียบเบรกทัน ถือว่าโชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก รถได้รับความเสียหายบริเวณกันชนหน้าและกันชนท้าย ส่วนความเสียหายยังประเมินไม่ได้

ด้านนายอำพร  อายุ 57 ปี คนขับรถแท็กซี่ที่ได้รับความเสียหาย เล่าว่า ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงที่อาการจราจรติดขัด ก็มีรถโดยสารประจำทางสาย 40 พุ่งเข้ามาชนท้ายอย่างแรง ก่อนที่จะดันรถของตัวเองไปชนรถคันอื่นๆ ที่จอดอยู่ใกล้เคียงกัน จนทำให้มีผู้เสียหายจำนวนหลายคัน เมื่อสอบถามพนักงานขับรถโดยสารประจำทาง ได้บอกเพียงสั้นๆ ว่ามีปัญหาในเรื่องระบบเบรก ทำให้ไม่สามารถหยุดรถได้ก่อนพุ่งชนรถคันที่จอดอยู่ข้างหน้า


ทีมข่าวได้คุยกับนางสาว ปรรณพัชร์ อายุ 37 ปี ผู้เสียหาย ได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าขวา เจ้าของรถยี่ห้อฮอนด้าโมบิลิโอ สีดำ ได้เดินทางออกจากโรงพยาบาลมาที่ สน.ปทุมวัน เล่าเหตุการณ์ในช่วงเกิดเหตุว่า ขณะกำลังเดินทางกลับบ้าน รถติดอยู่บนถนนพญาไท ได้ยินเสียงดังมาจากรถคันข้างหลังก่อนที่รถของตัวเองจะถูกชนมาเกือบทุกทิศทาง ทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าขวา เนื่องจากถูกอัดติดกับตัวรถไม่สามารถออกจากรถได้ในขณะนั้น อีกทั้งรถของตัวเองเกิดหม้อน้ำแตกทำให้เกิดควันบริเวณห้องเครื่องรถยนต์ ยิ่งทำให้รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ก่อนที่กู้ภัยจะเข้ามาช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล


พ.ต.อ.จิรพัฒน์ พรหมสิทธิการ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 รักษาราชการแทนผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำพนักงานขับรถโดยสารสาย 40 เบื้องต้นให้การว่า เพิ่งขับรถเมล์ไฟฟ้าได้ 2 เดือน ระหว่างเกิดเหตุ เกิดตกใจจึงพยายามเหยียบเบรค แต่เผลอไปเหยียบคันเร่ง จนทำให้รถพุ่งไปจอดรถคันที่จอดติดการจราจรอยู่ด้านหน้า

ซึ่งก่อนหน้านี้คนขับมีประสบการณ์ขับรถโดยสารประจำทาง NGV มานานกว่า 20 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปตรวจวัดแอลกอฮอล์ พร้อมทั้งตรวจสอบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บและได้รับเสียหายทั้งหมดจำนวนกี่ราย เบื้องต้นพิจารณาแจ้งข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ เอารถมีประกันประเภท 3 ส่วนค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ทางบริษัทรถโดยสารประจำทางมีประกันประเภท 3 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาไกล่เกลี่ยระหว่างประกันรถคันอื่น ๆ ของผู้เสียหาย เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด

 ทางด้าน บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด ได้ทำหนังสือชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า สาเหตุของการชนครั้งนี้ ทางบริษัทได้ตรวจสอบหลักฐาน พร้อมสอบถามข้อมูลกับพนักงานขับรถวัย 60 ปี แล้ว และได้ยอมรับว่า เผลอเหยียบคันเร่ง แทนการเหยียบเบรกรถ ทำให้รถเกิดพุ่งไปกระทบกับรถด้านหน้า จนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว โดยตัวรถนั้นไม่มีความผิดปกติแต่อย่างใด

ทางบริษัทฯ จะดำเนินการสอบสวนอย่างละเอียด และลงโทษพนักงานขับรถตามมาตรการขั้นเด็ดขาด พร้อมกำชับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงระบบการให้บริการที่ดีขึ้น ด้วยการคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ

ด้านการช่วยเหลือช่วงเวลาเกิดเหตุ ทางบริษัทได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในทันที เพื่อรักษาตัวในโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด พร้อมประสานประกันภัยเข้าดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ขณะเดียวกันทางบริษัท ขออภัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมขอแสดงความรับผิดชอบ ดูแลค่าเสียหายให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบทุกรายอย่างเต็มที่

ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/2g55wvNoT5c