สังคม

'บิ๊ก-ปอย' สมุน 'เสี่ยแป้ง' เข้ามอบตัว พร้อมยึดกระบะ จอดทิ้งห่างจากบ้านเพียง 2 กม.

โดย weerawit_c

29 ต.ค. 2566

62 views

กรณีนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ "เสี่ยแป้ง นาโหนด" ผู้ต้องโทษที่หลบหนีขณะรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ซึ่งยังอยู่ระหว่างหลบหนี ขณะที่ในส่วนของเครือข่าย กลุ่มคนที่เกี่ยวข้องกับคดีเริ่มทยอยมีการดำเนินการจับกุมตามตัวไปแล้วบางส่วน  


โดยเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (28 ต.ค.) นายบิ๊ก หรือนายจักรี แป้นน้อย สามี น.ส.วิลาวัลย์ หรือ ทราย ได้ประสานนายตำรวจรายหนึ่งเพื่อขอเข้ามอบตัวในพื้นที่ อ.นาโยง จ.ตรัง ก่อนที่ทางด้าน พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ อดีตรอง ผบ.ตร. ได้เดินทางไปพร้อมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปรับตัวมาในพื้นที่พัทลุง


ในเบื้องต้นช่วงประมาณเวลา 11.00 น. ทางเจ้าที่ตำรวจได้นำตัวในส่วนของ นายบิ๊ก ขึ้นรถตู้ มายังบริเวณบ้านของเจ้าตัวที่มีการตรวจค้นไปเมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา และเป็นบ้านที่ทางเจ้าหน้าที่กองปราบได้มีการคุมตัวในส่วนของภรรยา นายบิ๊ก คือ น.ส.ทราย


หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปยังบริเวณคอกวัวในสวนมะม่วงของญาติ นายบิ๊ก ในพื้นที่หมู่ 5 ตำบลพญาขันต์ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง ซึ่งห่างจากบ้านนายบิ๊ก เพียง 2 กม. เพื่อตรวจยึด รถยนต์กระบะ 4 ประตู ดีแมกซ์ สีขาว ไม่ปิดแผ่นป้ายทะเบียน ของนายบิ๊ก ที่เป็นรถ 1 ใน 3 คันพาเสี่ยแป้งหนีออกจากโรงพยาบาล  


ซึ่งภายในรถ เจ้าหน้าเจอกระเป๋าเสื้อผ้าสีดำ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับกระเป๋าที่พบว่านำกระเป๋าใส่เสื้อผ้า และอุปกรณ์บางส่วนในการช่วยเหลือ โดยภายในมีรองเท้า แผ่นป้านทะเบียนรถ หมายเลข กท 8961 พัทลุง เอกสาร ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้มีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง


ทางด้าน พ.ต.ท.วิรัตน์ จีนเมือง หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ได้ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นไม่พบอาวุธปืนหรือสิ่งของผิดกฎหมาย แต่ตรวจพบกระเป๋าสีดำซึ่งภายในมีซองสีน้ำตาล พร้อมป้ายทะเบียนรถคันดังกล่าวถอดยัดอยู่ภายในกระเป๋า รวมไปถึงยังมีข้าวของเครื่องใช้บางส่วน ซึ่งต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ภายหลังที่มีการเข้าควบคุมตัว นายบิ๊ก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการนำตัวเข้ามาสอบสวนเพิ่มเติมที่บริเวณกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 434 (ร้อย ตชด.434) ต.ควนมะพร้าว อ.เมือง จ.พัทลุง โดยไม่อนุญาต ให้ทางสื่อมวลชนได้เข้าไปในบริเวณที่มีการสอบสวน ก่อนที่จะมีการนำรถกระบะที่ตรวจยึดเข้ามาภายในบริเวณ ตชด.ดังกล่าว

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำเบื้องต้น โดยทางนายบิ๊กก็ไม่ได้รู้สึกกังวลหรือมีสีหน้าที่เคร่งเครียด ยังคงสามารถพูดคุยและสื่อสารกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตามปกติ


ขณะที่ต่อมาเวลา 12.30 น.วันเดียวกัน ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ได้รับการประสานจากทางนายจีระวุฒิ ชุมศรี หรือปอย ผู้ต้องหาอีกรายที่ปรากฎในภาพกล้องวงจรปิดในช่วงขณะที่ทางเจ้าตัวได้ช่วยเสี่ยแป้งหลบหนี โดยทางเจ้าตัวได้ประสานผ่านทางสถานีตำรวจเพื่อขอเข้ามอบตัวในพิกัดพื้นที่ใกล้กับบ้านของเสี่ยแป้ง บริเวณวัดท่าแค ตำบลท่าแค อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง


โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปนำตัวมายัง บริเวณกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 434 (ร้อย ตชด.434) ต.ควนมะพร้าว อ.เมือง จ.พัทลุง เพื่อทำการสอบสวนขยายผลต่อ โดยทางนายปอย ไม่ได้มีสีหน้าเครียดแต่อย่างใด  


ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าระหว่างที่มีการสอบปากคำทั้งคู่ มีช่วงจังหวะหนึ่งที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการคุมตัวจากบริเวณด้านหลังห้องสอบสวนเข้าไปอีกห้องในพื้นที่บริเวณข้างกัน ทางทีมข่าวได้สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่นายบิ๊กกลับปฏิเสธ และมีการปิดบังใบหน้า ก่อนที่จะมีการตะโกนลักษณะคล้ายไม่พอใจในที่ทีมข่าวได้มีการถ่ายภาพ ซึ่งทีมข่าวได้มีการพยายามสอบถาม แต่ทางนายบิ๊กพูดเป็นภาษาใต้ลักษณะประมาณว่า จะให้ยอมรับอะไร ก่อนที่จะถูกนำตัวเข้าห้องสอบไป


และเบื้องต้นในส่วนของทางครอบครัวของทั้ง 2 ฝั่ง โดยมีทางพ่อและแม่ของทางนายบิ๊ก และนายปอย ได้เดินทางเข้ามาหาก่อนที่จะมีโอกาสเข้าไปพูดคุยกันที่บริเวณด้านหลังของตึก ซึ่งทางครอบครัวเองก็มีสีหน้าค่อนข้างเครียด และได้ใช้เวลาในการพูดคุยนานกว่า 5 ชั่วโมง จนกระทั่งเวลาช่วงประมาณ 19.10 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการคุมตัว 2 ผู้ต้องหา เพื่อนำส่งต่อตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราชเจ้าของคดี


โดยระหว่างที่มีการคุมตัวนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสวมชุดเกาะพร้อมอาวุธปืนเพื่อตรึงกำลัง  ขณะที่ในส่วนของผู้ต้องหาเอง นายบิ๊ก มีการนำผ้ามาปิดบังใบหน้าบางส่วน โดยนายบิ๊กยังคงมีสีหน้าปกติไม่ได้มีความเครียดหรือกังวลแต่อย่างใด แต่จะมีอาการค่อนข้างอ่อนล้า เช่นเดียวกับทางนายปอย ซึ่งไม่ได้มีการปกปิดใบหน้าแต่อย่างใด โดยที่มีการเดินขึ้นรถตามปกติ


ทั้งนี้ ทั้งคู่ไม่ได้มีการเปิดปากหรือพูดคุยกับนักข่าว เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองขอความร่วมมือโดยกลัวว่าผู้ต้เองหาจะแสดงอาการไม่พอใจอีก จึงห่วงว่าจะเกิดการประทะ


ต่อมาทางด้าน พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รักษาราชการแทน ผบช.ภ.9 ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าทางคดี พร้อมยืนยันว่ารถกระบะอีซูซุ ดีแมกซ์ 4 ประตู ที่ยึดมาได้นั้นตรวจสอบแล้วเป็นรถของ นายบิ๊ก ที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดช่วงที่หลบหนี แต่มีชื่อเจ้าของเป็นของแม่นายบิ๊ก และยืนยัน ว่าทั้ง 2 ผู้ต้องหา มีการติดต่อขอมอบตัวเข้ามา


โดยจากพฤติการณ์ที่มีการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าทั้งคู่เองมีส่วนเกี่ยวข้องและเป็นบุคคลที่เข้าไปช่วยเหลือในการหลบหนี ก่อนที่ทั้งคู่จะได้ขับรถกระบะคันดังกล่าวนำตัวเสี่ยแป้ง ไปส่งที่จุดบริเวณพื้นที่บริเวณรอยต่อระหว่างพัทลุง- ตรัง ก่อนที่ทางเสี่ยแป้งและสมุนได้มีการประสานกับทางบุคคลที่คาดว่าเป็นคนที่สนิทและทางเจ้าตัวเองนับถือเพื่อให้ช่วยเหลือในการหลบหนี


หลังจากที่มีการส่งเสี่ยแป้งแล้วเสร็จก็ได้มีการแยกย้ายกลับมายังบริเวณบ้าน ก่อนที่จะมารับตัวของภรรยาและลูกของทั้งคู่เพื่อหลบหนีไปที่อื่น แต่เมื่อเป็นกระแสข่าวค่อนข้างดังทำให้รู้สึกผิดและคิดว่าไม่สามารถหลบหนีได้จึงได้พยายามที่จะติดต่อเข้ามามอบตัว รวมไปถึงไม่มีใครช่วยเหลือเลยต้องจำใจมอบตัว    


และขณะนี้การออกหมายจับไปแล้วทั้งสิ้น 8 คน สามารถจับกุมได้แล้ว 6 คน เท่ากับว่าขณะนี้เหลือ เสี่ยแป้ง กับนายหนอน ซึ่งขับรถเก๋ง ซีวิค กำลังหลบหนีอยู่ เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายยังคงอยู่ในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงบ้านเกิด ส่วนกรณีที่มีการหลบหนีไปต่างประเทศ ในส่วนนี้ตนไม่ยืนยันเพราะข้อมูลพบว่ายังคงอยู่ในประเทศไทย อาจจะอยู่ช่วงรอยต่อระหว่างจังหวัดพัทลุง


ส่วนรถจากการสอบสวนปรากฏหลักฐานชัดตอนนี้ 3 คัน ยึดมาแล้ว 2 คันเหลือ 1 คันคือรถเก๋งสีดำ ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็กำลังอยู่ในช่วงการค้นหาพร้อมกับบุคคลที่ขับรถคันดังกล่าว  


ทั้งนี้ ยอมรับว่าจากการสอบปากคำเบื้องต้นในส่วนของทางนายบิ๊ก และนายปอย ให้การเป็นประโยชน์ เจ้าหน้าที่สามารถขยายผลเพื่อเชื่อมโยงไปถึงตัวของเสี่ยแป้งได้ในระดับกนึ่ง ถือว่าข้อมูลสำคัญ แต่อาจจะต้องใช้เวลาในการติดตามตัว เนื่องจากเสี่ยแป้งเป็นคนที่ค่อนข้างมีเครือข่าย และเคยมีประสบการณ์ในเรื่องของคดี เลยค่อนข้างจะเชี่ยวชาญในเรื่องของการหลบหนี ยืนยันไม่หนักใจและคิดว่าคงตามตัวได้


และในส่วนภรรยาของนายปอยขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ และขณะนี้อยู่ที่ใด เนื่องจากมีข้อมูลว่าทางเจ้าตัวได้มีการเข้าไปปฏิบัติธรรม


สำหรับเส้นทางที่เริ่มรับตัวเสี่ยแป้งออกจากโรงพยาบาล ที่จ.นครศรีธรรมราช ทั้งหมดเดินทางผ่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ก่อนมุ่งหน้า อ.ควนขนุน จ.พัทลุง โดยนายบิ๊กได้ขับรถยนตณกระบะอีชูชุสีประตูสีขาว แยกทางกับเสี่ยแป้งตรงบริเวณสี่แยกไสยวน อ.ควนขนุน ก่อนกลับบ้าน ในพื้นที่ ต.พญาขันต์ อ.เมือง จ.พัทลุง


ส่วนนายปอย ได้ขับรถยนต์มิตรชูบิชิไตรทัน สีขาว ไปส่งเสียแป้ง บริเวณเขาพับผ้า รอยต่อพัทลุง-ตรัง โดยมีรถเก๋งสีดำ ยี่ห้อ ฮอนด้า ขับนำหน้า และแยกย้ายกับเสียแป้งตรงจุดเขาพับผ้า โดยเสียแป้งได้ขึ้นรถยนต์เก๋งอีกคันที่มารอรับ ตรงจุดดังกล่าวก่อนแยกย้ายกันหนี จากนั้นนายปอยได้ขับรถต่อเข้า อ.มะนัง จ.สตูล ก่อนวกกลับมาพัทลุง นำรถไปจอดยังสำนักสงฆ์ แล้วหลบไปพักอาศัยบ้านญาติก่อนเข้ามอบตัว


และเมื่อเวลา 20.40 น. ที่ผ่านมา ตำรวจนับสิบนายเดินทางพร้อมรถยนต์ 3 คันพร้อมอาวุธปืนครบมือได้คุมตัวนายบิ๊ก และนายปอย เดินทางจาก จ.พัทลุง มาถึง สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ท่ามกลางกำลังตำรวจสายตรวจหลายนายมาคอยคุ้มกันเพื่อป้องกันการชิงตัวผู้ต้องหาที่บริเวณหน้า สภ.เมืองนครศรีธรรมราช โดยมีการนำรถยนต์กระบะอีซูซุสีขาวที่ใช้ก่อเหตุเดินทางตามมาด้วย ซึ่งตำรวจชุดสืบสวนภาค 8 ได้ระบุว่าทั้งสองยังให้การภาคเสธว่ามา รพ.มหาราชจริง แต่ไม่ได้ขึ้นไปช่วยเหลือเสี่ยแป้ง


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/v4yMO5kwPLQ

คุณอาจสนใจ

Related News