หนุ่มแรงงานไทย เผย กลุ่มฮามาสพยายามพูดไทยล่อออกไปยิง แต่เจ้าตัวรู้ทัน ลั่นไม่ขอกลับไปอีกแล้ว

จากกรณี คนไทยที่ไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล และ ได้รับผลกระทบจากการสู้รบในตะวันออกกลาง ได้เดินทางกลับประเทศไทย โดยเดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 17.15 น. โดยในเที่ยวบินที่ 2 วานนี้ (13 ต.ค.) ส่งคนไทยในอิสราเอลกลับไทย จำนวน 19 คน


วานนี้ (13 ต.ค.) นายสุริยันต์ กันตา หรือท็อป แรงงานไทยที่เดินทางกลับจากอิสราเอลโดยประสานผ่านทางรัฐบาล เมื่อเดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ นายสุริยันต์ ได้โผเข้ากอดแม่ และทั้งคู่ร่ำไห้ออกมาด้วยความดีใจ ก่อนที่นายสุริยันต์ จะก้มลงกราบเท้าคุณแม่ ซึ่งคุณแม่ก็ได้นำสายสินญ์ที่เตรียมมาผูกข้อมือของนายสุริยันต์ เพื่อเรียกขวัญ


นายสุริยันต์ บอกว่า วันนี้ดีใจมากที่ได้กลับประเทศไทยตนเป็น 1 ใน 19 คนที่รัฐบาลไทยให้การช่วยเหลือกลับมาเพราะเป็นกลุ่มที่อยู่ในพื้นที่สีแดง


นายสุริยันต์ เล่าว่า จุดที่ตนอยู่ ห่างจากฉนวนกาซ่า 3-4 กิโลเมตร เป็นจุดแรกที่ฮามาสเข้ามาโจมตี เหตุการณ์วันนั้นเริ่มต้นตั้งแต่ 6 โมงเช้า มีเสียงเตือน ตนเองก็หลบเข้าบังเกอร์ตามปกติ และประมาณ 7 โมงได้ยินเสียงปืนกลมือ ปกติไม่มีแบบนี้ และพวกตนพักกันอยู่ที่โรงงาน และมีเสียงปืนยิงมาตามทาง ตอนแรกนึกว่ายิงขึ้นฟ้าเพื่อให้สัญญานหลบให้เข้าบังเกอร์ ก็เลยเดินออกมาดูปกติ แต่จริงๆ เป็นฮามาสที่เข้ามายิง ฮามาสติดอาวุธมา 4-5 คน


ตอนนั้นแรงงานไทยส่วนหนึ่งยังคิดว่าเป็นอิสราเอล เลยเดินออกไปดู แล้วฮามาสก็ยิงปืนใส่เลย และตนเองก็เห็นคู่ 2 ผัวเมียที่โดนจับ เพราะอยู่แคมป์เดียวกับตนเอง ซึ่งตนหลบอยู่หลังกอไม้ พอเขาจับ 2 ผัวเมียไป ตนก็วิ่งหนี


พอผ่านไปประมาณชั่วโมงหนึ่งก็มาทำกับข้าวปกติ และกะว่าตอนเย็นจะไปหาที่ซ่อนตัวต่อ แต่ฮามาสเข้ามาอีกรอบโดยที่ไม่ทันตั้งตัวคือ ประมาณโมงเย็น และฮามาสยิงไล่หลังมาตอนตนเองก้มผูกเชือกรองเท้า ทำให้แรงวานคนไทยบางส่วนหนีเข้าป่า ตนเองกับเพื่อนก็เข้าไปหลบในห้องแล้วล็อกประตู แล้วหมอบอยู่ใต้เตียง ฮามาสก็เอาระเบิดมาปาหน้าประตู เอาปืนยิงรอบห้อง ตอนนั้นคิดว่าต้องตายแน่ๆ แล้ว


แต่ไม่พังเข้ามา ซึ่ง “ผมมองว่าเขาน่าจะใช้สงครามจิตวิทยา เพราะมีการพยายามพูดภาษาไทยให้เราออกไป พูดว่า “สวัสดีครับคนไทย สวัสดีครับคนไทย” รัวๆ จนเพื่อนที่หลบอยู่ด้วยกันคิดว่ามีคนมาช่วยก็จะออกไป แต่ผมห้ามไว้ เขาพูดไทยได้เหมือนเขาฝึกมา และเขาเลือกเป้าหมายมาที่คนไทยด้วย”


แล้วฮามาสก็ปาระเบิด จุดไฟเผารอบห้อง จนตนเองกับเพื่อนเริ่มหายใจไม่ออก ไฟเริ่มลงหัวเลยตัดสินใจฟังประตูออกไป กะว่าถ้าฮามาสยังอยู่ก็ตาย ถ้าไม่อยู่ก็รอด แต่พอออกมาก็ไม่เจอแล้ว เลยตัดสินใจไปหลบอยู่ในป่าจนฟ้ามืดแล้ววิ่งข้ามไปยังป่าส้ม ไปเท้าเปล่าไม่มีอะไรติดตัว มีแค่โทรศัพท์เครื่องเดียว และตนเองอยู่ในป่า 1 คืนเต็มๆ รอจนตอนเช้าโทรประสานงาน โทรหาเพื่อนที่ทหารมารับแล้ว และปักหมุดไปตามแมพเพื่อให้ทหารมารับ และทหารมารับ 11 โมง


นายสุริยันต์ มองว่า พวกฮามาส คงจ้องมาเอาชีวิตคนไทยและจับคนไทยเป็นตัวประกัน ซึ่งหลังจากที่ทหารอิสราเอลได้เข้าช่วยเหลือ ไปอยู่ศูนย์อพยพ แล้วก็มีนักจิตวิทยามาคุยให้สบายใจขึ้น และพาไปอยู่ในจุดที่ปลอดการสู้รบ จากนั้นประสานสถานทูตจนได้กลับประเทศไทย


นายสุริยันต์ บอกอีกว่า ตอนนี้รู้สึกกลัวที่มืด เพราะซ่อนอยู่ในที่มืดนาน ความรู้สึกแรกที่ได้ออกมาจากจุดนั้น “เหมือนตายแล้วเกิดใหม่” ภาพกระสุนเหลื่อนพื้น เห็นคนเดินยิงต่อหน้าต่อตา เห็นศพนอนอยู่ข้างถนน ยังคงติดตาจนถึงตอนนี้ หลังจากนี้คงไม่กลับไปทำงานที่เดิมอีกแล้ว แม้จะยังไม่หมดสัญญา เพราะตนเองฝังใจ โดนมาเยอะ

https://youtu.be/rl_FnLeKins